อิสราเอลโจมตีทางอากาศใส่เมืองราฟาห์อีกระลอกในวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 ศพ ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ขณะที่สถานการณ์ในเขตเวสต์แบงก์เริ่มตึงเครียดยิ่งขึ้น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศใส่เมืองราฟา ทางใต้สุดของฉนวนกาซาอีกระลอก เมื่อช่วงข้ามคืนเข้าสู่วันอาทิตย์ที่ 21 เม.ย. 2567 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 22 ศพ ในจำนวนนี้เป็นเด็กถึง 18 ศพ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลัง สส.สหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารอีกหลายหมื่นล้านดอลลาร์แก่อิสราเอล

เมืองราฟาห์ ซึ่งเกินกว่าครึ่งของประชากร 2.3 ล้านคนในฉนวนกาซาอพยพมาอยู่ เพื่อหลบหนีการต่อสู้ในพื้นที่อื่นๆ ถูกอิสราเอลโจมตีทางอากาศเข้าใส่เกือบทุกวัน โดยอิสราเอลประกาศด้วยว่า พวกเขาจะขยายปฏิบัติการภาคพื้นดินเข้าสู่เมืองแห่งนี้ เพื่อกำจัดกลุ่มฮามาสให้หมด แม้นานาชาติ รวมถึงสหรัฐฯ จะพยายามห้ามปราม

นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล กล่าวในวันอาทิตย์ว่า ภายในไม่กี่วันข้างหน้า พวกเขาจะเพิ่มการกดดันต่อกลุ่มฮามาสทั้งทางการเมืองและทางทหาร เพราะนั่นคือหนทางเดียวที่จะนำตัวประกันกลับมา และได้รับชัยชนะ พวกเขาจะสร้างความเสียหายแก่กลุ่มฮามาสมากขึ้น ในเร็วๆ นี้

การโจมตีเมืองราฟาห์ระลอกล่าสุดเกิดขึ้น 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 ทำให้ครอบครัวซึ่งประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูกวัย 3 ขวบเสียชีวิต ตามการเปิดเผยของโรงพยาบาลท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้รับศพ โดยผู้เป็นแม่กำลังตั้งครรภ์ และแพทย์สามารถช่วยชีวิตเด็กเอาไว้ได้ ส่วนการโจมตีครั้งที่ 3 ทำให้เด็ก 17 คน กับผู้หญิงอีก 2 คนจากครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่ง เสียชีวิต

นายโมฮัมเหม็ด อัล เบเฮรี หนึ่งในผู้รอดชีวิต เปิดเผยว่า ลูกสาวของเขาชื่อว่า ราชา กับลูกของเธออีก 6 คน เด็กสุดอายุเพียง 18 เดือน รวมอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตด้วย ขณะที่มีผู้หญิง 1 คน กับเด็กอีก 3 คน ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง

...

ทั้งนี้ สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ในฉนวนกาซา เข้าสู่เดือนที่ 7 แล้ว มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 34,000 ศพ ราว 2 ใน 3 เป็นผู้หญิงและเด็ก ขณะที่ประชากรประมาณ 80% ของกาซา ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น อพยพหนีความรุนแรงไปตามพื้นที่ต่างๆ ในดินแดนเล็กๆ แห่งนี้

เมื่อวันเสาร์ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายแพ็กเกจช่วยเหลือมูลค่า 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่เป็นความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอล ขณะที่อีก 9 พันล้านดอลลาร์ เป็นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ท่ามกลางคำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญว่า ชาวปาเลสไตน์กำลังใกล้เข้าสู่ภาวะอดอยาก

สงครามในฉนวนกาซายังกระตุ้นให้เกิดความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อิสราเอลกับอิหร่าน โจมตีตอบโต้กันโดยตรงเป็นครั้งแรก จนเกิดความกังวลว่า ทั้งสองฝ่ายอาจเปิดฉากทำสงครามเต็มรูปแบบ

ความตึงเครียดยังเพิ่มสูงขึ้นที่เขตเวสต์แบงก์ ในอิสราเอล ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของ องค์การบริหารปาเลสไตน์ (Palestinian Authority) โดยเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ ทหารอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์ 2 ศพ ที่พวกเขาอ้างว่า พยายามโจมตีด่านตรวจใกล้กับเมืองเฮบรอน ด้วยมีดและปืน

กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ระบุว่า ผู้เสียชีวิตมีอายุ 18 และ 19 ปี จากครอบครัวเดียวกัน ส่วนกองทัพอิสราเอลยืนยันว่า ไม่มีทหารได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์นี้

ขณะเดียวกัน หน่วยกู้ภัยจากองค์กรเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์ ระบุว่า พวกเขาเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 14 ศพจากการบุกจู่โจมของอิสราเอล ที่ค่ายอพยพ ‘นูร์ ชามส์’ ในเขตเวสต์แบงก์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาได้แล้ว โดย 3 ศพ เป็นนักรบติดอาวุธของกลุ่ม อิสลามิก ญิฮาด และมี 1 ศพ เป็นเด็กชายอายุเพียง 15 ปี

กองทัพอิสราเอลอ้างว่า พวกเขาสังหารนักรบติดอาวุธ 14 ศพ ที่ค่ายผู้อพยพ นูร์ ชามส์ และจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 8 ราย โดยมีทหารอิสราเอล 10 นาย กับตำรวจตระเวนชายแดน 1 นาย ได้รับบาดเจ็บด้วย

อนึ่ง เขตเวสต์แบงก์เป็นพื้นที่ที่เกิดความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์มาอย่างต่อเนื่อง แต่สถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้นนับตั้งแต่อิสราเอลเปิดสงครามกับกลุ่มฮามาสเมื่อตุลาคม 2567 โดยจนถึงตอนนี้ มีชาวปาเลสไตน์ในเวสต์แบงก์ถูกสังหารแล้วอย่างน้อย 469 ศพ ส่วนใหญ่เกิดจากฝีมือทหารอิสราเอล ซึ่งทำให้เกิดความรุนแรงตามมา จนมีผู้เสียชีวิตอีก

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : apnews