รัสเซีย-คาซัคสถาน สั่งให้ประชาชนกว่าแสนคนในพื้นที่เสี่ยง รีบอพยพหนีภัยน้ำท่วม ที่อาจเลวร้ายสุดในรอบ 70 ปี หลังหิมะบนเทือกเขาอูราลละลายอย่างรวดเร็ว จนทำให้แม่น้ำอูราลมีระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และก่อนหน้านี้ได้ทำให้เขื่อนแห่งหนึ่งแตกไปแล้ว

ทางการรัสเซียและคาซัคสถานได้ออกคำสั่งเมื่อ 10 เมษายน 2567 ให้ประชาชนกว่า 100,000 คนอพยพหนีภัยน้ำท่วม เนื่องจากหิมะบนเทือกเขาอูราลละลายอย่างรวดเร็ว และมวลน้ำมหาศาลได้ไหลลงสู่แม่น้ำอูราล ซึ่งเป็นแม่น้ำสายยาวที่สุดเป็นอันดับ 3 ของทวีปยุโรป จนระดับน้ำในแม่น้ำอูราลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ช่วงคืนวันอังคารที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมา และอาจทำให้รัสเซียและคาซัคสถานต้องประสบอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 70 ปี และไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ชาวรัสเซียในเมืองออร์สค์ ทางตอนใต้ติดกับคาซัคสถาน เพิ่งประสบภัยน้ำท่วมสูงฉับพลัน เนื่องจากเขื่อนแห่งหนึ่งแตก 

ผู้ว่าฯ เมืองโอเรนเบิร์ก ทางตอนใต้ของรัสเซีย ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 550,000 คนได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง รีบอพยพหนีภัยน้ำท่วม เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำอูราล ในช่วงที่ไหลผ่านเมืองโอเรนเบิร์กเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ได้สูงขึ้นถึงระดับ 9.31 เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับวิกฤติ ที่กำหนดไว้ที่ 9.30 เมตร

...

ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้หารือกับประธานาธิบดีคัสซิม โจมาร์ต โตคาเยฟ แห่งคาซัคสถาน ซึ่งสั่งให้ประชาชนกว่า 86,000 คนอพยพหนีภัยน้ำท่วม โดยประธานาธิบดีโตคาเยฟ ได้กล่าวว่า บางทีสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้อาจเลวร้ายที่สุดในคาซัคสถาน ในรอบ 80 ปี

นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย หรือวังเครมลิน ในกรุงมอสโก กล่าวว่า วันที่ยากลำบากยังคงรออยู่ข้างหน้าสำหรับแคว้นคูร์กัน และตูย์เมน เนื่องจากมวลน้ำมหาศาลกำลังมา โดยโฆษกวังเครมลินยังกล่าวว่าประธานาธิบดีปูตินได้ติดตามรายงานสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด แต่ไม่มีแผนจะเดินทางลงพื้นที่ประสบอุทกภัย

ก่อนหน้านี้ ได้มีชาวรัสเซียอย่างน้อย 100 คนในเมือออร์สค์ ออกมาประท้วง เรียกร้องให้ประธานาธิบดีปูตินให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เนื่องจากหิมะละลายลงมาจากเทือกเขาอูราล ซึ่งเป็นเทือกเขาที่ยาวต่อเนื่องในแนวทิศเหนือ-ใต้ในประเทศรัสเซีย และคาซัคสถาน ซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติที่กั้นทวีปยุโรปกับเอเชีย

 

ติดตามข่าวต่างประเทศได้ที่  https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : Reuters