เกิดเหตุสุดระทึกกับนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันกลุ่มหนึ่ง ที่กำลังนั่งรถท่องซาฟารีในแซมเบีย แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับช้างป่าที่กำลังหงุดหงิด วิ่งไล่ตามรถไม่ลดละ ก่อนจะพุ่งตรงเข้าใช้งาเสยรถจนพลิกคว่ำ เป็นเหตุให้มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตและบาดเจ็บ

โลกโซเชียลแชร์คลิปภาพสุดระทึกที่ถ่ายไว้โดยนักท่องเที่ยวที่อยู่บนรถท่องป่าซาฟารีในอุทยานแห่งชาติกาฟู ประเทศแซมเบีย โดยเป็นคลิปขณะที่ช้างป่าตัวหนึ่งกำลังวิ่งไล่ตามรถอย่างไม่ลดละเป็นระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร ก่อนจะใช้จังหวะช่วงที่คนขับหยุดรถ พุ่งเข้าใช้งาเสยรถจนพลิกคว่ำ เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวสูงวัยหญิงชาวอเมริกันวัย 80 ปี เสียชีวิต 1 ศพ และมีผู้บาดเจ็บอีก 5 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 1 ราย อีก 4 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย

โดยจากคลิปจะได้ยินเสียงของนักท่องเที่ยวบนรถต่างตะโกนร้องด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าช้างตัวใหญ่ไม่มีท่าทีที่จะหยุด แต่กลับพุ่งตรงเข้ามา ก่อนที่คนขับรถจะตัดสินใจหยุดรถเพื่อหวังว่าช้างจะหยุดไล่ตาม แต่มันกลับวิ่งตรงเข้ามาและชนรถอย่างรุนแรงจนรถพลิกคว่ำ ก่อนที่ภาพจะตัดไป

ทั้งนี้ หลังจากที่มีคลิปเผยแพร่ออกมา บรรดาชาวเน็ตต่างตั้งคำถามว่าทำไมคนขับถึงตัดสินใจหยุดรถ ทั้งๆ ที่สถานการณ์อันตรายเช่นนี้ ขณะที่ทางอุทยานแห่งชาติยังไม่ออกมาให้ความเห็นใดๆ

ด้านนายคีธ วินเซ็นต์ ผู้บริหารของบริษัทผู้ให้บริการนำเที่ยวซาฟารีครั้งนี้ระบุว่า ทางบริษัทรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้ได้ส่งแขกที่บาดเจ็บสาหัสเดินทางโดยเครื่องบินไปรักษาอาการในแอฟริกาใต้แล้ว ขณะที่แขกอีก 4 คนที่บาดเจ็บเล็กน้อย ได้รักษาตัวที่คลินิก และได้จัดหาจิตแพทย์เพื่อดูแลด้านสภาพจิตใจแล้ว พร้อมยืนยันว่าไกด์นำเที่ยวของทางบริษัทมีประสบการณ์และได้รับการฝึกอย่างดี แต่น่าเสียใจที่เส้นทางดังกล่าวถูกปิดกั้นโดยพืชพรรณขึ้นปกคลุมเส้นทาง จนรถไม่สามารถไปต่อได้ ซึ่งจะมีการสอบสวนในเรื่องนี้ต่อไป

...

ด้านสำนักข่าวเดลี่ เมล รายงานว่า เชื่อว่านักท่องเที่ยวที่อยู่บนรถซาฟารีคันดังกล่าวน่าจะเป็นชาวอเมริกันทั้งหมด โดยมาเข้าพักที่ลูฟูพา ริเวอร์ แคมป์ ภายในอุทยานแห่งชาติกาฟู ซึ่งนับเป็นอุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยคิดค่าบริการที่พักราว 16,500 บาทต่อหัว.

ที่มา : เดลีเมล์

คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ ช้างป่า