กองทัพอิสราเอลยอมรับ สังหารชาวปาเลสไตน์ 2 คน แล้วใช้รถแทรกเตอร์ฝังศพของพวกเขาจริง หลังถูกสื่อแฉคลิป แต่อ้างว่าทั้งคู่มีพฤติกรรมน่าสงสัย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 30 มี.ค. 2567 ว่า กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ยอมรับว่า พวกเขาสังหารชาวปาเลสไตน์ 2 คนที่เดินยกธงขาว และใช้รถแทรกเตอร์ฝังศพของพวกเขาจริง หลังจาก อัลจาซีรา สื่อชื่อดังเผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งคาดกันว่าเกิดขึ้นในวันพุธที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา

คลิปวิดีโอที่อัลจาซีราเผยแพร่ ถ่ายจากระยะไกล และผ่านการตัดต่ออย่างหนัก อย่างไรก็ตามวิดีโอแสดงให้เห็นชาย 2 คนเดินบริเวณชายหาดของฉนวนกาซาในระยะห่างจากกัน โดนดูเหมือนว่าทั้งคู่จะชูธงขาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการยอมแพ้มาด้วย

พวกเขาพยายามเดินเข้าหาทหารอิสราเอลอย่างระมัดระวัง หนึ่งในนั้นเดินเข้าหาทหารพร้อมกับชูมือขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนจะหายไปจากกล้องเนื่องจากถูกกองทรายและคอนกรีตบดบัง ทำให้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาหลังจากนั้น

ส่วนชายอีกคนหันหลังเดินหนีจากเจ้าหน้าที่อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ทหารอิสราเอลขับรถหุ้มเกราะไล่ตาม ก่อนที่จู่ๆ ชายคนนี้ก็ล้มลงกับพื้นทราย คล้ายกับว่าถูกยิง

จากนั้นวิดีโอก็ตัดไปยังมุมอื่น ซึ่งไม่แน่ชัดว่าเป็นที่ใด แสดงให้เห็นทหารอิสราเอลกำลังใช้รถแทรกเตอร์ฝังร่าง 2 ศพไว้ใต้ผืนทรายและซากปรักหักพังโดยไม่มีการประกอบพิธีศพใดๆ ซึ่งไม่แน่ชัดว่าศพทั้งสองเป็นชาย 2 คนที่ปรากฏตอนต้นคลิปวิดีโอหรือไม่ แต่อัลจาซีราอ้างว่าเป็นคนเดียวกัน

อัลจาซีราบอกด้วยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใกล้กับถนนอัล ราชีด ตอนกลางของกาซา

ด้านกองกำลังป้องกันอิสราเอล ระบุว่า คลิปวิดีโอดังกล่าวแสดงให้เห็น 2 เหตุการณ์ โดยเหตุแรกเกิดขึ้นในพื้นที่ทางใต้ของถนนอัล ราชีด ผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งไม่ตอบสนองต่อการยิงปืนเตือน ทหารจึงต้องยิงปืนไปทางเขาจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่นำตัวชายคนนี้มารักษาและสอบปากคำก่อนจะปล่อยตัวไป

...

อีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นทางตอนเหนือของถนนอัล ราชีด ผู้ต้องสงสัย 2 คนถูกยิงขณะเดินเข้าหากองทัพโดยมีพฤติกรรมน่าสงสัย “ผู้ต้องสงสัย 2 คนแบกกระเป๋าไว้บนหลัง สังเกตการณ์กองทหารของเราอยู่พักหนึ่ง แล้วจึงเดินเข้าหาพวกเขา ในลักษณะท่าทางที่น่าสงสัย”

“หลังจากพวกเขาไม่ตอบสนองต่อการยิงปืนเตือน ทหารจึงใช้กระสุนจริงยิงเข้าใส่พวกเขา ส่งผลให้ทั้งคู่เสียชีวิต ศพของพวกเขาถูกเคลื่อนย้ายจากพื้นที่นั้นโดยใช้เครื่องมือตามที่ข่าวรายงาน เนื่องจากกลัวว่าจะมีวัตถุระเบิดอยู่กับตัวผู้ต้องสงสัยทั้งสอง และทำให้ทหารตกอยู่ในความเสี่ยง”.

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cnn