ผู้พิพากษาสหรัฐฯ ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต หญิงวัย 32 ปี ผู้ก่อเหตุทิ้งลูกน้อยให้อยู่บ้านคนเดียว ในขณะที่ตัวเองไปเที่ยวนานถึง 10 วัน จนสุดท้ายเด็กเสียชีวิต ปิดฉากคดีสลดที่สะเทือนรัฐโอไฮโอ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้พิพากษาศาลเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ มีคำพิพากษาเมื่อวันจันทร์ที่ 18 มี.ค. 2567 ให้นางคริสเทล แคนเดลาริโอ หญิงชาวอเมริกันวัย 32 ปี รับโทษจำคุกตลอดชีวิต โดยไม่มีสิทธิ์ทำทัณฑ์บนเพื่อขอลดโทษ ฐานทิ้งให้ลูกน้อยวัยเพียง 16 เดือนอยู่บ้านคนเดียว ในขณะที่ตัวเองไปเที่ยวฤดูร้อนนานถึง 10 วัน จนสุดท้ายเด็กเสียชีวิต
ตามข้อมูลที่เปิดเผยในชั้นศาล นางแคนเดลาริโอ ปล่อยให้ลูกน้อยชื่อว่า ไจลีน ให้นอนอยู่ในเพลย์เพน (playpen) หรือคอกเลี้ยงเด็ก โดยเตรียมขวดนมไว้ให้ 2-3 ขวด ก่อนที่ตัวเองจะเดินทางไปเที่ยวกับเพื่อนชายที่เปอร์โตริโก ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของเธอหลายร้อยไมล์
เธออยู่เล่นน้ำทะเลที่นั่นไม่กี่วัน จากนั้นจึงเดินทางต่อไปเมืองดีทรอยต์ จนกระทั่งกลับมาถึงบ้านในวันที่ 16 มิ.ย.ปีก่อน และพบว่าลูกสาวของเธอเสียชีวิตแล้ว
นางแคนเดลาริโอ ยอมรับความผิดข้อหาฆาตกรรมอย่างโหดร้าย (aggravated murder) 1 กระทง และข้อหาทำให้เด็กเป็นอันตรายอีก 1 กระทง ระหว่างการพิจารณาคดีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การพิพากษาโทษของ นางแคนเดลาริโอ ในวันจันทร์ ถือเป็นการปิดฉากคดีสุดสลด ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบสวนที่เกี่ยวข้องบรรยายว่า พวกเขาไม่เคยเจอคดีไหนที่โหดร้ายขนาดนี้ตลอดการทำงานของพวกเขา
ระหว่างการพิจารณาคดีของ นางแคนเดลาริโอ ฝ่ายอัยการนำเสนอหลักฐานต่างๆ เพื่อเอาผิดผู้หญิงคนนี้ รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดตอนที่ นางแคนเดลาริโอ ขนกระเป๋าเดินทางขึ้นรถแล้วออกจากบ้านไปในวันที่ 6 มิ.ย. 2566 ก่อนจะกลับมาในวันที่ 16 มิ.ย. ปีเดียวกัน แล้วหลังจากนั้นไม่กี่นาทีเธอก็โทรศัพท์หาตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ
...
น.ส.แอนนา ฟาราเกลีย ผู้ช่วยอัยการเขตคูยาโอกา เคาน์ตี ระบุด้วยว่า ระหว่างที่ตำรวจกำลังเดินทางไปนั้น นางแคนเดลาริโอ เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดให้ไจลีนใส่ แต่มันไม่อาจปกปิดร่องรอยความโหดร้ายที่เด็กคนนี้ต้องเผชิญ เด็กถูกพบนอนอยู่บนเสื่อที่เต็มไปด้วยปัสสาวะและอุจจาระ “แม้แต่สัตว์ยังดูแลลูกของตัวเองดีกว่านี้” น.ส.ฟาราเกลีย กล่าว
ด้าน น.ส.เอลิซาเบธ มูนีย์ นักนิติพยาธิวิทยา กล่าวในชั้นศาลเมื่อวันจันทร์ว่า เด็กอยู่ในสภาพซูบผอม ตาลึกโหล ริมฝีปากแห้ง มีของเสียอยู่ในปากและตามเล็บมือ น้ำหนักของเธอน้อยกว่าตอนที่ไปหาหมอครั้งล่าสุดเมื่อ 2 เดือนก่อนเกิดเหตุถึง 7 ปอนด์ (ราว 3.1 กก.)
เธอบรรยายอีกว่า ตามปกติแล้วเด็กจะรู้สึกวิตกกังวลจากการแยกจากอย่างรุนแรงที่สุดในช่วงอายุ 9-18 เดือน
“ความเจ็บปวดและความทรมานที่เด็กคนนี้ต้องทนแบกรับ ไม่ได้อยู่แค่หลักชั่วโมง, หลักวัน แต่อาจเป็นสัปดาห์” น.ส.มูนีย์ กล่าวขณะพยายามกลั้นน้ำตา “ความรู้สึกถูกทอดทิ้งที่คงอยู่หลายวัน กับความเจ็บป่วยจากความหิวโหยและกระหายน้ำอย่างรุนแรง เป็นความทรมานที่ฉันไม่คิดว่าจะมีใครที่สามารถทำความเข้าใจได้”
ด้านพ่อแม่ของนางแคนเดลาริโอพยายามขอความเห็นใจจากศาล โดยโทษการกระทำของลูกสาวว่ามีสาเหตุจากการป่วยทางจิต ทั้งอาการซึมเศร้าและวิตกกังวล ทำให้เธอไม่สามารถตัดสินใจอย่างเป็นเหตุเป็นผลได้ ส่วนนางแคนเดลาริโอกล่าวว่า เธอภาวนาทุกวันเพื่อขอการอภัย โดยเธอเชื่อว่าพระเจ้ากับไจลีนจะยกโทษให้เธอ และว่าไม่มีใครรู้ว่าเธอผ่านอะไรมา และกำลังทุกข์ทรมาน
แต่สุดท้ายคำวิงวอนของพวกเขาก็ไม่เป็นผล ผู้พิพากษาเบรนแดน ชีฮาน ตำหนินางแคนเดลาริโออย่างรุนแรง ระบุว่า เธอทิ้งลูกของตัวเองให้อยู่ในคุกเล็กๆ นานหลายวัน ขณะที่ตัวเองกลับไปมีช่วงเวลาดีๆ
“สายสัมพันธ์ของแม่และลูก เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุดและศักดิ์สิทธิ์ที่สุด มันเป็นความสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นจากความรัก ความเชื่อใจ และการปกป้องอย่างไม่หวั่นไหว... แต่คุณได้กระทำการทรยศอย่างร้ายกาจที่สุด” ผู้พิพากษาชีฮานกล่าว
“ทารกน้อยคนนั้นอดทน เฝ้ารอใครสักคนมาช่วยเธอ และคุณสามารถทำได้ด้วยการโทรศัพท์ง่ายๆ แค่ครั้งเดียว แต่แทนที่จะทำแบบนั้น ผมกลับเห็นรูปของคุณอยู่ที่ชายหาด ในขณะที่ลูกของคุณต้องกินอุจจาระตัวเองเพื่อเอาชีวิตรอด” จากนั้นผู้พิพากษาจึงอ่านคำตัดสินลงโทษนางแคนเดลาริโอ ด้วยโทษจำคุกตลอดชีวิต โดยไม่มีสิทธิ์ทำทัณฑ์บน
“ก็เหมือนกับที่คุณไม่ปล่อยไจลีนออกจากคุกของเธอจนกระทั่งเธอตาย คุณก็ควรใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในห้องขังโดยปราศจากอิสรภาพเช่นกัน” นายชีฮาน กล่าวและสำทับว่า “ต่างกันนิดหน่อยที่อย่างน้อยในเรือนจำก็ยังมีคนหาอาหารให้คุณ”.
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cnn