ตำรวจจีนควบคุมตัวเด็กนักเรียนชาย 3 คน ในฐานะผู้ต้องสงสัยฆาตกรรมเพื่อนนักเรียนวัย 13 ปี ท่ามกลางการถกเถียงเรื่องกฎการดำเนินคดีกับเยาวชน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 18 มี.ค. 2567 ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองหานตาน ทางเหนือของประเทศจีน ควบคุมตัวเด็กนักเรียนอายุไม่ถึง 14 ปี 3 คน ในฐานะผู้ต้องสงสัยฆาตกรรมเพื่อนนักเรียนวัย 13 ปี แซ่หวัง โดยศพของเขาถูกพบว่าฝังอยู่ภายในแปลงผักที่ถูกทิ้งร้างแห่งหนึ่ง

ตำรวจยืนยันว่าพวกเขากำลังสืบสวนคดีนี้ในฐานะคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา ซึ่งในเบื้องต้นเด็กทั้ง 3 คนบอกตำรวจว่าไม่รู้ว่าศพของเด็กชายเคราะห์ร้ายอยู่ที่ไหน แต่สุดท้ายก็ยอมชี้จุด หลังถูกเจ้าหน้าที่เค้นถาม โดยตอนนี้ตำรวจกำลังสืบสวนหาแรงจูงใจในการก่อเหตุฆาตกรรมครั้งนี้

พ่อของเด็กที่เสียชีวิต เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านเว็บไซต์ ‘โต่วอิน’ (Douyin) หรือ TikTok เวอร์ชันจีนว่า ลูกชายของเขาหายตัวไปในช่วงบ่ายวันที่ 10 มี.ค. “เขายังมีชีวิตอยู่และแข็งแรงดีในช่วงบ่ายวัยที่ 10 มี.ค. ... แต่เงินทั้งหมดของเขาถูกโอนผ่านโทรศัพท์ของเจ้าตัวในเวลา 16.10 น. แล้วโทรศัพท์ของเขาก็ถูกปิด”

ตามรายงานของสำนักข่าว เบจิง นิวส์ อ้างคำพูดของพ่อผู้เสียชีวิต ระบุว่า ก่อนตาย เด็กชายโอนเงิน 191 หยวน ให้แก่ 1 ใน 3 เพื่อนร่วมชั้นที่ถูกตำรวจควบคุมตัว

ขณะที่ นายจาง ฟ่านฉิง ทนายความของครอบครัวผู้เสียชีวิตเปิดเผยผ่าน ‘เว่ยป๋อ’ (Weibo) ในวันจันทร์ที่ 18 มี.ค. ว่า เด็กชายผู้เคราะห์ร้ายถูกเพื่อนร่วมชั้น 3 คนนี้รังแกมานานแล้ว

ทั้งนี้ ยังไม่แน่ชัดว่าเด็กวัยรุ่นทั้ง 3 คนจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ เนื่องจากตามกฎหมายของจีน เด็กอายุมากกว่า 12 ปี แต่ไม่เกิน 14 ปี จะถูกดำเนินคดีอาชญากรรมได้ก็ต่อเมื่อ สำนักงานอัยการประชาชนสูงสุด ซึ่งเป็นองค์กรตรวจสอบสูงสุดของรัฐอนุญาตแล้วเท่านั้น

...

คดีที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในจีนจำนวนมากออกมาแสดงความไม่พอใจ และเสียใจ โดยมีข้อความที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ถูกโพสต์บนเว่ยป๋อกับโต่วอินจำนวนหลายหมื่นข้อความตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ผู้ใช้คนหนึ่งตอบกลับโพสต์ของพ่อผู้เสียชีวิต ซึ่งมีผู้กดไลค์กว่า 50,000 ครั้งว่า “ทั้งประเทศกำลังจับตาดูคดีนี้ หวังว่าตำรวจจะยุติธรรม และให้คำตอบที่น่าพอใจแก่ครอบครัวเหยื่อ” ขณะที่อีกหลายคอมเมนต์เรียกร้องให้ลงโทษเด็กทั้ง 3 คนอย่างหนัก แม้ว่าพวกเขาจะยังเป็นผู้เยาว์อยู่ก็ตาม.

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc