ทรัมป์ ท้าไบเดน ดีเบต แสดงวิสัยทัศน์ ทางทีวี ลั่นพร้อมทุกที่ ทุกเวลา หลังทั้งคู่กวาดชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้น ซุปเปอร์ ทิวส์เดย์ และมีโอกาสโคจรมาเจอกันอีกครั้งในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024
อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศท้าโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน มาดีเบต หรือแสดงวิสัยทัศน์ทางการเมือง ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ หลังศึกเลือกตั้งขั้นต้น Super Tuesday (ซุปเปอร์ ทิวส์เดย์) เมื่อวันอังคารที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา ผลเลือกตั้งออกมาว่า ทรัมป์ วัย 77 ปี และไบเดน วัย 81 ปี กวาดชัยชนะเกือบหมดทุกรัฐ จนทำให้ทั้งสองมีโอกาสรีแมตช์ หวนกลับมาเป็นคู่แข่งในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024
ทรัมป์ ตัวเต็งที่จะได้เป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ประกาศท้าไบเดนทางออนไลน์ว่า เขาพร้อมที่จะร่วมเวทีดีเบต อภิปรายแสดงวิสัยทัศน์แข่งกับไบเดนจากพรรคเดโมแครต ‘ได้ทุกที่ ทุกเวลา’
ขณะที่ทีมรณรงค์หาเสียงของไบเดน กล่าวตอบโต้ข้อเสนอว่า ทรัมป์กำลังกระหายที่จะดีเบต และดิ้นรนที่จะให้มีการดีเบตตามที่เขาร้องขอ
...
‘มันเป็นความสำคัญสำหรับประเทศที่ดีของเรา ที่โจ ไบเดนและผม จะดีเบต-แสดงวิสัยทัศน์กันในประเด็นที่สำคัญต่อเมริกา และพลเมืองอเมริกัน’ ทรัมป์โพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียของเขา ‘Truth Social’ เพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากนิกกี้ เฮเลย์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติได้ขอถอนตัวจากการเป็นผู้สมัครของพรรครีพับลิกันที่จะชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 หลังผลเลือกตั้งขั้นต้น ซุปเปอร์ ทิวส์เดย์ ออกมาว่านิกกี้ เฮเลย์ ชนะในรัฐเวอร์มอนต์เพียงรัฐเดียวเท่านั้น จากการเลือกตั้งใน 15 รัฐ และ 1 ดินแดน ที่เขตปกครองอเมริกัน ซามัว
ตอนนี้ ทรัมป์กำลังมีความเป็นไปได้มากที่สุด ที่จะได้เป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกันลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 และมีโอกาสที่จะหวนมารีแมตช์ ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แข่งกับไบเดนนั้น มีขึ้นขณะที่ทรัมป์ กำลังเผชิญการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในหลายข้อหา รวมถึงข้อหาสมรู้ร่วมคิดล้มล้างผลการเลือกต้ังประธานาธิบดีปี 2019 จากเหตุการณ์ม็อบหนุนทรัมป์ บุกอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตันดี.ซี.
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันจันทร์ที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา ก่อนถึงศึกซุปเปอร์ ทิวส์เดย์ ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งขั้นต้นที่สำคัญที่สุดนั้น อดีตประธานาธิบดีทรัมป์โล่งใจอย่างมาก เมื่อศาลสูงสหรัฐฯ ตัดสินด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ ไม่ให้ถอดชื่อทรัมป์ ออกจากบัตรลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ในฐานะผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากมีหลายสิบรัฐได้ยื่นฟ้องในเรื่องนี้ เพื่อหวังขัดขวางทรัมป์ ไม่ให้กลับเข้ามาบริหารปกครองประเทศอีก จากการเกิดเหตุการณ์ม็อบบุกอาคารรัฐสภา ซึ่งถูกเรียกขานในสหรัฐฯ ว่าเป็น Civil War หรือสงครามกลางเมือง
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง : รู้จัก ‘ซุปเปอร์ ทิวส์เดย์’ ศึกเลือกตั้งขั้นต้นในสหรัฐฯ
ติดตามข่าวต่างประเทศได้ที่ : https://www.thairath.co.th/news/foreign