จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ประกาศสงครามกับรัสเซียเมื่อ 4 มิถุนายน ค.ศ.1812 จากนั้นก็ยกทัพข้ามแม่น้ำเนมันเข้าไปในเขตรัสเซีย โดยมีกองทัพขนาดจากชาติพันธมิตรใหญ่น้อยคอยช่วยเหลือจนถึงกรุงวอร์ซอ จากโปแลนด์ นโปเลียนเคลื่อนทัพอีก 900 กิโลเมตรก็เข้ายึดมอสโก

14 กันยายน 1812 จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ยึดมอสโกได้ แต่กลับพบแต่ความว่างเปล่า พวกรัสเซียทำลายอาหารและหนีไปอยู่ที่อื่น นโปเลียนทรงอุจจาระปัสสาวะอยู่ในมอสโกเดือนกว่าก็ อ้า ทรงเหงา ตัดสินใจถอนทัพกลับฝรั่งเศส ถึงกรุงปารีสเมื่อ 5 ธันวาคม 1812 การตีรัสเซียในครั้งนั้น นโปเลียนใช้ทหารถึง 6 แสนนาย วันที่กลับมาถึงกรุงปารีส นโปเลียนมีทหารเหลืออยู่ไม่ถึง 3 หมื่นนาย ตายกลายเป็นผีเฝ้าทุ่งไปมากกว่า 5 แสนนาย

ก่อนหน้านั้น นโปเลียนยกทัพไปตีใครที่ไหน ‘ชนะหมด’ หลังกลับจากรัสเซีย ไปสู้กับใครที่ไหน ‘แพ้หมด’ ทันทีที่แพ้กองทัพฝ่ายพันธมิตรที่เบลเยียม นโปเลียนก็ถูกลากตัวไปขังไว้ที่เกาะเซนต์เฮเลนาในฐานะนักโทษการเมือง เป็นนักโทษอยู่บนเกาะนานถึง 6 ปี ใช้เวลาส่วนใหญ่เขียนบันทึกความทรงจำ และสิ้นพระชนม์เมื่อ 5 พฤษภาคม 1821

วิญญาณนโปเลียนลอยออกจากร่างไปแล้ว 203 ปี ก็มีผู้นำฝรั่งเศสอีกคนหนึ่งซึ่งอาจจะไม่เคยอ่านประวัติศาสตร์ ท่านผู้นั้นคือ ประธานาธิบดีมาครง อยู่ดีไม่ว่าดี มาครงดันออกมาบอกว่า “ไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะส่งทหารนาโตและทหารตะวันตกไปอูเครน เพื่อรับประกันว่ารัสเซียจะไม่ชนะในสงครามนี้” “การเอาชนะรัสเซียจำเป็นต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของยุโรป”

คำพูดของประธานาธิบดีหนูน้อยด้อยประสบการณ์จะทำให้นาโตกลายเป็นคู่สงครามกับรัสเซียโดยตรง มาครงจะดำเนินนโยบายแบบเดียวกับนโปเลียนที่ 1 ที่มีการรวบรวมสมัครพรรคพวกจากยุโรปตะวันตกเพื่อเข้าไปลุยรัสเซีย

...

เมื่อทหารฝรั่งเศสรู้ว่าประธานาธิบดีจะส่งพวกตนไปรบกับรัสเซีย ต่างก็ทำหน้าตาเหรอหราขากางและพูดว่า อ้า ประธานาธิบดีของเราไม่ได้ใช้ให้พวกเราไปรบ แต่อาจจะให้พวกเราไปกู้ระเบิด ไปช่วยฝึกทหารอูเครน และช่วยป้องกันชายแดน

นายสเตฟาน เซฌูร์เน รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสรีบเร่งเข้าไปอธิบายให้สมาชิกรัฐสภาฝรั่งเศสฟังว่า เราจะไปเก็บระเบิด ไปป้องกันโดยผ่านเทคโนโลยีเชิงรุก และไปช่วยเหลือด้วยการสอนให้พวกอูเครนผลิตอาวุธ

มาครงคงอยากที่จะให้โลกยอมรับตัวเองในฐานะผู้นำโลกระหว่างประเทศ และอาจจะต้องการให้ฝรั่งเศสผงาดกลับมาเป็นมหาอำนาจชาติใหญ่เหมือนในอดีต หรือมาครงอาจจะรู้ว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือนพฤศจิกายน 2024 ที่จะถึง นายไบเดนน่าจะแพ้ ถ้าแพ้แล้ว สหรัฐฯก็อาจจะไม่หนุนอูเครนเพราะทรัมป์บอกว่า ถ้าตัวเองได้เป็นประธานาธิบดีอีกครั้งหนึ่ง จะไม่ให้สหรัฐฯช่วยเหลืออูเครนเหมือนกับในยุคของไบเดน

คำพูดของมาครงนำหายนะมาให้ฝรั่งเศส ฝรั่งเศสในปัจจุบันก็วุ่นวายขายปลาช่อน เอาตัวเองไม่รอด เศรษฐกิจไม่ดี คนตกงานบานเบอะเยอะแยะ มีปัญหาผู้อพยพ คนไร้บ้านมีอยู่ทุกตรอกซอกมุม ทุกเมืองใหญ่ ความขัดแย้งกันระหว่างคนฝรั่งเศสต่างศาสนามีความรุนแรงมากขึ้น เกษตรกรขาดทุนถึงขนาดต้องเอารถแทรกเตอร์หลายร้อยคันมาปิดถนนหนทาง

ผู้นำประเทศอื่นซึ่งเป็นสมาชิกนาโตฟังมาครงพูดแล้วก็ส่ายหัว หลายชาติพูดออกมาชัดเจนว่า อ้า ไม่เอา ไม่อยากไปรบกับรัสเซียโดยตรง มาครงจะให้เราเอามือไปซุกหีบ ไม่ได้ประโยชน์อะไร หากรัสเซียส่งอาวุธนิวเคลียร์มาให้เรารับประทานกันทุกประเทศ ประเทศละสักลูกสองลูก ยุโรปตะวันตกก็อาจจะหายกลายเป็นกองปรักหักพัง

อาวุธนิวเคลียร์นะเว้ย ไม่ใช่ระเบิดควัน

แม้ว่ากำลังโดนกระแสต่อต้านจากชาติสมาชิกนาโตพวกเดียวกันเอง แต่มาครงก็ยืนยันว่า อ้า ข้าพเจ้าคิดมาดีแล้ว

ปูตินยิ้ม.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com

คลิกอ่านคอลัมน์ "เปิดฟ้าส่องโลก" เพิ่มเติม