พอล แมกเคนซี เจ้าลัทธิในเคนยา ผู้ถูกกล่าวหาว่าบังคับให้สาวกอดอาหารเพื่อจะได้ไปพบพระเยซู จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ล่าสุดถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม 191 ศพ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายพอล แมกเคนซี ผู้นำโบสถ์ Good News International Church กับพวกอีก 29 คน ถูกตั้งข้อหา ฆาตกรรมเหยื่อกว่า 191 ศพ จากกรณีการพบร่างผู้เสียชีวิตมากกว่า 400 ศพ ถูกฝังในสุสานตื้นๆ ที่ป่าห่างไกลในภาคตะวันออกของประเทศเมื่อปีก่อน
ผู้รอดชีวิตและญาติของเหยื่อกล่าวหานายแมกเคนซีว่า บอกให้สาวกและผู้ศรัทธาอดอาหาร โดยอ้างว่าเพื่อจะได้ไปพบกับพระเยซู อย่างไรก็ตาม ตำรวจกับอัยการเชื่อว่า นอกจากให้อดอาหารแล้ว เหยื่อบางรายยังถูกรัดคอ, ทำให้ขาดอากาศหายใจ หรือถูกทุบตีจนเสียชีวิตด้วยอาวุธไม่มีคมด้วย
ทั้งนี้ นายแมกเคนซีกับพวกขึ้นศาลในเมืองมาลินดี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวันอังคารที่ 6 ก.พ. 2567 แต่ทั้งหมดปฏิเสธการกระทำผิด โดยนายแมกเคนซีถูกจับตั้งแต่เดือนเมษายนปีก่อน และถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย, ทารุณกรรมเด็ก และทำทารุณทรมาน ไปแล้ว ซึ่งเขาปฏิเสธข้อกล่าวหาเช่นกัน
นีมา นามสมมติ หนึ่งในผู้รอดชีวิต บอกกับสำนักข่าว บีบีซี ว่า เธอเคยเป็นศรัทธาของโบสถ์ Good News International Church ในเมืองมาลินดีจนกระทั่งโบสถ์ถูกสั่งปิดในปี 2562 และพอเธอได้ข่าวว่านายแมกเคนซีย้ายเข้าไปอยู่ในป่า ชาคาโฮลา ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองไปทางตะวันตกราว 70 กม. เธอกับสาวกคนอื่นๆ จึงเดินทางตามเขาไปในปี 2565
ในเบื้องต้น ผู้ศรัทธาเดินทางเข้าไปในป่าแล้วเดินทางกลับ แต่ในช่วงปลายปี 2565 สาวกหลายคนอ้างว่าพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากป่าแล้ว
นีมาเปิดเผยว่า ตอนที่เธอเข้าไปในป่าครั้งล่าสุดเธอถูกกักตัวไม่ให้ออกมา และถูกยามข่มขืนหลายครั้งทั้งที่เธอกำลังตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน “ไม่มีการเทศนาอีกแล้ว พวกเขาบอกว่า เราเสร็จสิ้นการสอนแล้ว และรอเพื่อไปพบพระเยซูอย่างเดียวเท่านั้น”
...
นีมาบอกอีกว่า ตอนแรกสาวกที่อยู่ในป่ายังได้รับชาครึ่งถ้วย และขนมปังแผ่น ในตอนเช้า เพื่อเป็นอาหารกินไปตลอดทั้งวัน แต่หลังจากผ่านไปสักพัก พวกเขาก็บอกว่าจะไม่มีอาหารและน้ำให้อีกต่อไป ทำให้เธอกับสาวกคนอื่นๆ ต้องแอบออกไปหาผลไม้ป่ากินประทังชีวิต ตอนที่ยามพักกินข้าว และใช้สองมือตักน้ำที่ขังอยู่บนพื้นมาดื่ม
ถึงจุดหนึ่ง นีมาระบุว่าเธอทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงวางแผนกับเพื่อน 2 คนเพื่อหลบหนี ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะวางแผน เนื่องจากสาวกถูกห้ามไม่ให้คุยกันเป็นกลุ่ม พวกเธอต้องรอให้ยามพัดทานข้าว จึงได้โอกาสขุดรูบนกำแพงกระท่อมที่ทำจากดิน และสามารถหลบหนีได้สำเร็จ
หลังจากหลบหนีออกมาแล้ว นีมาบอกว่า เธอกับเพื่อนโชคดีที่ไปถึงถนนใหญ่ และพบกับพลเมืองดีที่ขับรถผ่านมา ผู้อาสาพาพวกเธอไปส่งโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม คนอื่นไม่ได้โชคดีเหมือนนีมากับเพื่อน ตามการเปิดเผยของผู้รอดชีวิต เด็กๆ เป็นกลุ่มแรกที่ถูกบังคับให้อดอาหาร จนกระทั่งพวกเขานอนหลับไปโดยไม่ตื่นขึ้นมาอีก จากนั้นจึงเป็นกลุ่มผู้หญิง
นายชานกาวา มานกี ผู้อาวุโสของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในป่าชาคาโฮลา ระบุว่า นายแมกเคนซีมาพบเขาอ้างว่าต้องการซื้อที่ไปทำไร่ ซึ่งชาวบ้านก็ต้อนรับเขาเป็นอย่างดี ก่อนจะพบในเวลาต่อมาว่าแมกเคนซีมาเปิดโบสถ์ ซึ่งชาวบ้านก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เนื่องจากสาวกที่เดินทางมาทำให้ธุรกิจท้องถิ่นดีขึ้น
แต่อยู่มาวันหนึ่ง สาวกของแมกเคนซีก็หยุดมาที่หมู่บ้าน จากนั้นก็มีวัยรุ่น 3 คนมาหาเขาที่บ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ ในสภาพผอมแห้ง เขาจึงให้วัยรุ่นกลุ่มนี้ทานอาหาร “ในช่วง 3 วันแรก 1 ใน 3 คนนี้ท้องเสียตลอด และสิ่งที่ออกมาก็ดูเหมือนดิน”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้นำชุมชนนำเรื่องไปแจ้งต่อผู้บังคับบัญชาในรัฐบาล แต่การตอบสนองเป็นไปอย่างล่าช้า คนหนุ่มในหมู่บ้านจึงพากันขับจักรยานยนต์เข้าไปหากลุ่มของแมกเคนซีเพื่อจัดการด้วยตัวเอง แต่กลับถูกโต้กลับอย่างหนักจากยาม มีจักรยานยนต์ถูกเผาไป 2 คัน
สถานการณ์ชัดเจนแล้วว่าชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่โดยไม่มีตำรวจได้ นายฟรานซิส วานเจ ครูจากเมืองมอมบาซา วัย 59 ปี ได้ข่าวว่าลูกสาวของเขาพาครอบครัวย้ายเข้าไปอยู่ในป่าแห่งนี้ เขาจึงเดินทางไปเพื่อตรวจและแจ้งตำรวจเมื่อทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น
แต่ตำรวจไม่เคลื่อนไหวในทันที จนกระทั่งในเดือนเมษายน 2566 มีการช่วยเหลือสาวก 15 คนจากป่าชาคาโอลา และพบศพผู้เสียชีวิตจากการอดอาหารด้วย 4 ศพ จนนำไปสู่การจับกุมตัวนายแมกเคนซี หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็ทยอยขุดพบศพมากขึ้นเรื่อยๆ จนมากกว่า 400 ศพแล้วในตอนนี้
อนึ่ง ปัจจุบันป่าชาคาโฮลา ที่มีประชากรเบาบางอยู่แล้ว ถูกประกาศให้เป็นสถานที่เกิดเหตุอาชญากรรม และอยู่ภายใต้การคุ้มกันของตำรวจตลอด 24 ชั่วโมง ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้า
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc