เปิดประวัติอาการเจ็บป่วยของสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ

• สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ไม่ใช่สมาชิกราชวงศ์ระดับสูงพระองค์แรกที่ได้รับการวินิจฉัยว่า ประชวรด้วยโรคร้ายแรงในช่วงวัยชรา เพราะก่อนหน้านี้มีสมาชิกราชวงศ์หลายพระองค์ที่ประชวรด้วยโรคร้ายอย่างโรคมะเร็งและโรคอื่นๆ เช่นกัน แต่มักจะไม่ค่อยเปิดเผยปัญหาสุขภาพของตัวเองต่อสาธารณชนมากนัก
• การเปิดเผยพระอาการประชวรอย่างตรงไปตรงมาของกษัตริย์ชาร์ลส์ครั้งนี้จึงค่อนข้างเหนือความคาดหมาย โดยทรงให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันการคาดเดา และหวังว่าจะช่วยให้สาธารณชนเข้าใจสถานการณ์ของผู้ป่วยมะเร็งทั่วโลกได้ดีขึ้น
• โดยทันทีที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง พระองค์ได้ทรงเริ่มเข้ารับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ โดยทรงลดภารกิจด้านสาธารณะลงทันที โดยพระองค์ทรงมั่นพระทัยในการรักษา และทรงเชื่อว่าจะได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ในไม่ช้า

หลังจากที่สำนักพระราชวังบักกิงเเฮม ได้ออกเเถลงการณ์ว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ได้รับการวินิจฉัยว่า ทรงพระประชวรด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เเต่ยังไม่มีการเปิดเผยชนิดของมะเร็ง ก็ได้สร้างกระแสความกังวลใจให้แก่พสกนิกรชาวอังกฤษเป็นอย่างมาก โดยสำนักพระราชวังระบุว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงเริ่มเข้ารับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ โดยทรงงดปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ต้องพบปะประชาชนออกไปก่อน แต่ยังคงทรงงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับรัฐกิจเเละเอกสารทางราชการตามปกติ ในฐานะประมุขของประเทศ

นับว่าการเปิดเผยพระอาการประชวรอย่างตรงไปตรงมาของกษัตริย์ชาร์ลส์ครั้งนี้ค่อนข้างเหนือความคาดหมาย เพราะตามปกติแล้ว สมาชิกราชวงศ์มักจะไม่ค่อยเปิดเผยปัญหาสุขภาพต่อสาธารณะ โดยสำนักพระราชวังบักกิงแฮมได้ชี้แจงว่า กษัตริย์ทรงเลือกที่จะเปิดเผยผลการวินิจฉัยเพื่อป้องกันการคาดเดาและหวังว่าจะช่วยให้สาธารณชนเข้าใจสถานการณ์ของผู้ป่วยมะเร็งทั่วโลกได้ดีขึ้น

และนี่คือสมาชิกราชวงศ์อังกฤษพระองค์อื่นๆ ที่เคยได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยด้วยโรคร้ายแรงเช่นกัน

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2

พระราชมารดาของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีสุขภาพแข็งแรงเสมอมา จนกระทั่งพระองค์ทรงได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022

ในช่วงไม่กี่เดือนก่อนเสด็จสวรรคตด้วยพระชนมพรรษา 96 พรรษา ในเดือนกันยายน 2022 ประชาชนต่างกังวลใจเกี่ยวกับพระพลานามัยของพระองค์ หลังทรงงดเข้าร่วมพิธีเปิดสภาประจำปี

ก่อนหน้านั้น ในเดือนตุลาคม 2021 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จฯ ไปประทับที่โรงพยาบาลคิงเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ในกรุงลอนดอน เป็นเวลา 1 คืน หลังทรงยกเลิกการเยือนไอร์แลนด์เหนือ โดยสาเหตุที่เข้ารับการรักษาไม่มีการเปิดเผยแต่อย่างใด โดยทางสำนักพระราชวังบักกิงแฮม ระบุว่าทรงเข้ารับการรักษาเพื่อตรวจวินิจฉัยเบื้องต้น และเสด็จฯ กลับพระราชวังวินด์เซอร์ในวันถัดมา

ครั้งนั้นนับว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ที่พระองค์ทรงต้องรักษาพระองค์ในโรงพยาบาลข้ามคืน โดยครั้งก่อนหน้านั้น พระองค์ทรงต้องประทับรักษาพระองค์ที่โรงพยาบาลเนื่องจากอาหารเป็นพิษในปี 2013

เจ้าชายฟิลิป

เจ้าชายฟิลิป พระสวามีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และพระราชบิดาของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน สิ้นพระชนม์ด้วยวัย 99 ปี ในเดือนเมษายน 2021

หนึ่งเดือนก่อนสิ้นพระชนม์ ทรงเข้ารับการผ่าตัดรักษาภาวะโรคหัวใจที่มีอยู่เดิม โดยการผ่าตัดประสบความสำเร็จ

ในปี 2002 ทรงไม่สามารถเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองพระราชพิธีกาญจนาภิเษกของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้ เพราะต้องเข้ารับการรักษาพระวรกายในโรงพยาบาลหลายวัน จากอาการกระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ

ขณะที่เมื่อปี 2011 เจ้าชายฟิลิป ทรงถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากมีพระอาการเจ็บหน้าอก 

หลังจากนั้น ทรงได้รับการรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ และทรงเข้ารับการขยายหลอดเลือดแดงหัวใจด้วยบอลลูน

สองปีก่อนหน้านั้น เจ้าชายฟิลิป ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อรถยนต์ของพระองค์ถูกชนโดยรถยนต์คันอื่น

แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ทรงเข้ารับการตรวจพระวรกายกับแพทย์ เพื่อความปลอดภัย

เจ้าหญิงมาร์กาเร็ต

เจ้าหญิงมาร์กาเร็ต พระขนิษฐาของควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงประสบภาวะโรคหลอดเลือดสมองหลายครั้ง ก่อนจะสวรรคตในปี 2002

ย้อนกลับไปในปี 1999 พระองค์ทรงประสบอุบัติเหตุถูกน้ำร้อนลวกจากการลงอ่างน้ำร้อน ซึ่งส่งผลกระทบกับการเดิน

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ พระราชมารดาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งสิ้นพระชนม์ด้วยพระชนมายุ 101 พรรษา ในปี 2002 ทรงต้องทนทุกข์ทรมานจากแผลเรื้อรังที่ขาซ้ายและปัญหาสะโพก ทำให้ทรงพระดำเนินลำบากในช่วงวัยชรา

โดยในปี 1995 ทรงเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนสะโพกข้างขวา และตามด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนสะโพกข้างซ้ายอีก 3 ปีต่อมา

สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6

ในปี 1951 สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชบิดาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเข้ารับการผ่าตัดตัดเนื้อปอดด้านซ้ายบางส่วน

หลังการผ่าตัด พระวรกายของพระองค์ไม่ทรงฟื้นฟูเต็มที่ และสวรรคตในอีกหนึ่งปีต่อมา ซึ่งภายหลังสวรรคตได้มีการเปิดเผยว่า พระองค์ทรงพระประชวรด้วยโรคมะเร็งปอด

โดยสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 ทรงสูบบุหรี่เป็นประจำ ส่งผลให้ทรงพระประชวรด้วยโรคหลอดเลือดอุดตัน ทำให้มีพระอาการปวดกล้ามเนื้อเป็นพักๆ เนื่องจากร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ

เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดที่ 8

เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดที่ 8 พระอนุชาของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 และเป็นพระปิตุลาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เคยทรงดำรงตำแหน่งกษัตริย์ก่อนสละราชสมบัติในเดือนมกราคม 1936 พระองค์ทรงสูบบุหรี่จัดเช่นเดียวกับพระเชษฐา และสิ้นพระชนม์ในปี 1972 ด้วยโรคมะเร็งในลำคอ

ซาราห์, ดัชเชสแห่งยอร์ก

ซาราห์, ดัชเชสแห่งยอร์ก คู่สมรสของเจ้าชายแอนดรูว์ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งผิวหนังเมื่อเดือนมกราคมปี 2024 หลังจากที่เธอเข้ารับการรักษามะเร็งเต้านมเมื่อ 6 เดือนก่อน โดยโฆษกของดัชเชสแห่งยอร์กวัย 64 ปี ระบุว่า เธอยังคงมีกำลังใจที่เข้มแข็งหลังได้รับแจ้งอาการป่วย

เคท, เจ้าหญิงแห่งเวลส์

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เพิ่งจะทรงเข้ารับการผ่าตัดช่องท้องในกรุงลอนดอน โดยการผ่าตัดผ่านพ้นไปด้วยดี และพระองค์ได้เสด็จกลับไปพักรักษาตัวต่อที่พระราชวังวินด์เซอร์แล้ว โดยทางสำนักพระราชวังระบุว่า พระองค์ทรงฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงดี.

ผู้เขียน : อาจุมมาโอปอล

ที่มา : skynews, USmagazine

คลิกอ่านข่าวรายงานพิเศษอื่นๆ ที่นี่