มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก กล่าวขอโทษต่อครอบครัวที่ลูกหลานถูกโซเชียลมีเดียทำร้าย ในการไต่สวนของ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ในประเด็นเรื่องความปลอดภัยของเด็กบนโลกออนไลน์

เมื่อวันพุธที่ 31 ม.ค. 2567 คณะกรรมการตุลาการแห่งวุฒิสภาสหรัฐฯ เปิดการไต่สวน ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ของบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์รายใหญ่อย่าง เมตา, ติ๊กต่อก, สแน็ป, ดิสคอร์ด และ เอ็กซ์ ภายใต้หัวข้อ “บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ กับวิกฤติการใช้ประโยชน์ทางเพศจากเด็กผ่านทางออนไลน์”

ในการไต่สวน มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเมตา กับ อีวาน ชปีเกล ซีอีโอของสแน็ป และซีอีโอคนอื่นๆ ถูกตั้งคำถามอย่างหนัก เกี่ยวกับข้อครหาที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ว่า เครือข่ายสังคมออนไลน์ สามารถสร้างความเจ็บปวดแก่ผู้ใช้อายุน้อย เสี่ยงทำให้พวกเขาตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า หรือถึงขั้นจบชีวิตตัวเอง

ระหว่างการไต่สวน ซัคเคอร์เบิร์กได้กล่าวขอโทษต่อพ่อแม่ผู้ปกครองที่ลูกหลานถูกทำร้าย, ถูกใช้ประโยชน์ หรือตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง อันเป็นผลมาจากการใช้โซเชียลมีเดียของเขา โดยพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมาก เดินทางมาร่วมฟังการไต่สวนครั้งนี้ด้วย

“ผมขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่พวกคุณต้องเผชิญ” ซัคเคอร์เบิร์กกล่าว หลัง สว.จอช ฮอว์ลีย์ ถามกดดันเขาว่า เขาจะขอโทษต่อเหล่าพ่อแม่ที่มารวมกันที่นี่ตรงๆ หรือไม่

“มันเป็นเรื่องเลวร้าย ไม่มีใครควรผ่านความทุกข์แบบที่ครอบครัวของคุณประสบมา และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงลงทุนไปมากมาย และเราจะยังคงพยายามอย่างกว้างขวางระดับอุตสาหกรรมต่อไป เพื่อทำให้แน่ใจว่า จะไม่มีใครต้องผ่านความทุกข์แบบที่ครอบครัวของคุณเผชิญอีก” ซัคเคอร์เบิร์กกล่าว

ขณะที่นาย ชปีเกลก็กล่าวขอโทษต่อครอบครัว ที่ต้องสูญเสียลูกหลานหลังจากพวกเขาหาซื้อยาเสพติดจากแอปพลิเคชัน สแน็ปแชต “ผมเสียใจจริงๆ ที่เราไม่สามารถป้องกันโศกนาฏกรรมเหล่านี้ได้” ก่อนที่เขาจะพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่บริษัทพยายามลงมือทำเพื่อปกป้องผู้ใช้งานอายุน้อย

...

ทั้งนี้ บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองที่มารวมตัวกันฟังการไต่สวน ต่างถือรูปของลูกหลานของตัวเอง ในขณะที่ สว.ซักฟอกเหล่าซีอีโอ หลายคนผูกริบบิ้นสีน้ำเงินที่มีข้อความว่า “หยุดการทำร้ายบนโลกออนไลน์! ผ่านกฎหมาย KOSA!” หรือกฎหมายความปลอดทางบนโลกออนไลน์สำหรับเด็กๆ (Kids Online Safety Act) ซึ่งจะทำให้การปกป้องเด็กๆ กลายเป็นข้อผู้มัดทางกฎหมายต่อบริษัทโซเชียลมีเดีย

พ่อแม่บางคนส่งเสียงไม่พอใจเมื่อซัคเคอร์เบิร์กเข้ามาในห้องไต่สวน เนื่องจากเฟซบุ๊กถูกครหาและวิพากษ์วิจารณ์มานานหลายปีเรื่องปัญหาความปลอดภัยของเด็กๆ ที่ใช้งานแพลตฟอร์มนี้ และคำขอโทษของเขาในการไต่สวน ซึ่งไม่ได้พูดผ่านไมโครโฟนด้วยซ้ำ ก็ถูกตำหนิว่าห่างไกลจากคำว่าเพียงพอ

ซัคเคอร์เบิร์กยังถูกซักฟอกหนักกว่าซีอีโอคนอื่นๆ โดย สว.กดดันเขาเรื่องที่มีภาพลามกอนาจารเด็กถูกเผยแพร่บนอินสตาแกรม, เรื่องการเสียชีวิตจากยาเสพติดที่เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ของเขา และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย

การไต่สวนครั้งนี้ยังเกิดขึ้นในขณะที่ บริษัทเมตาถูกฟ้องร้องในหลายสิบรัฐของสหรัฐฯ โดยฝ่ายโจทก์กล่าวหาเฟซบุ๊กกับอินสตาแกรมว่า จงใจสร้างคุณสมบัติชักจูงจิตใจ เพื่อให้เด็กๆ เสพติด และบริษัทยังซ่อนข้อมูลภายในที่อาจแสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์มของพวกเขา กำลังทำร้ายผู้ใช้งานอายุน้อย

ช่วงหนึ่ง ซัคเคอร์เบิร์กตอบคำถามของเหล่า สว. ว่า เมตามีพนักงานกว่า 40,000 คน ทำงานในผนกความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของบริษัท

ด้าน สว.ธอม ทิลลิส กล่าวว่า “ในท้ายที่สุดแล้ว ผมพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าใครก็ตามในหมู่พวกคุณจะเริ่มธุรกิจนี้ ... โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างความชั่วร้ายที่กำลังเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มของพวกคุณ” “แต่ผมหวังว่า ทุกชั่วโมงที่คุณตื่นอยู่ คุณจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อลดมันให้น้อยลง”

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : nbcnews