วันนี้ ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยรามคำแหงที่ชื่อ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย จะบรรยายในโครงการสัมมนาบุคลากรเรื่อง ‘บทบาทของเอไอกับการพัฒนาศักยภาพในการทำงาน’ คณะมนุษยศาสตร์ ม.รามคำแหง 15.00-17.00 น. ที่โรงแรมระยองรีสอร์ทบีชแอนด์สปา จ.ระยอง

ไต้หวันเผชิญวิกฤติอัตราเจริญพันธุ์ หนุ่มสาวไม่นิยมแต่งงานและหันไปอุปการะสัตว์เลี้ยงเป็นลูก มีตัวเลขยืนยันว่าแมวและสุนัขได้รับการจดทะเบียนรับรองเป็นสัตว์เลี้ยงในไต้หวันมากกว่าเด็กที่อายุไม่ถึง 10 ขวบ ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ 8 ผู้สมัครนำอัตราการเจริญพันธุ์มาเป็นประเด็นทางการเมือง มีการพูดถึงการรับมืออัตราการเกิดที่กำลังลดต่ำลง ผู้สมัครบางคนมีนโยบายด้านการให้โบนัสแก่ผู้ตั้งครรภ์ หรือให้สิทธิพิเศษกับผู้มีบุตรคนที่ 3

ผู้ชนะประธานาธิบดีไต้หวันคือนายไล่ ชิงเต๋อ (พรรคดีพีพี) ดีเบตกับผู้สมัครอีก 2 คนคือนายเคอ เหวินเจ๋อ (พรรคทีพีพี) และนายโหว โหย่วอี๋ (พรรคเคเอ็มที) ถึงเรื่องอัตราการเกิดที่ลดลง ผู้สมัครทุกคนตระหนักว่านี่เป็นปัญหาร้ายแรงของไต้หวัน เป็นเวลานานติดต่อกัน 3 ปีแล้วที่อัตราการตายมีมากกว่าอัตราการเกิด เรื่องประชากรกลายเป็นประเด็นความมั่นคงสำคัญแห่งชาติ

จากการตอบแบบสอบถามสตรีไต้หวันถึงการแต่งงานและมีลูก คำตอบที่ได้มากที่สุดก็คือ ‘ชอบมีสัตว์เลี้ยงมากกว่าการมีลูก’ สตรีไต้หวันยุคใหม่ไม่อยากแต่งงาน มีหนุ่มสาวชาวไต้หวันที่อายุระหว่าง 25-34 ปี เพียงร้อยละ 50 เท่านั้น ที่แต่งงานมีครอบครัว

ออกจากเกาะไต้หวันไปที่แผ่นดินใหญ่กันบ้างครับ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่า มีทารกเกิดใหม่ใน ค.ศ.2023 เพียง 9.02 ล้านคน หรือมีเพียงแค่ครึ่งเดียวของ ค.ศ.2017 ขณะที่มีผู้เสียชีวิตใน ค.ศ.2023 มากถึง 11.1 ล้านคน สูงกว่าใน ค.ศ.2022 มากถึง 5 แสนคน ในเวลาเพียงแค่ 3 ปี จำนวนประชากรจีนทั้งประเทศลดลงไปมากกว่า 3 ล้านคน

...

ทีมวิจัยของบัณฑิตสภาทางสังคมศาสตร์แห่งเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียง พยากรณ์การลดลงของประชากรจีนโดยนำข้อมูลและเครื่องมือที่ทันสมัยมาใช้ แถลงข่าวว่าใน ค.ศ.2100 หรืออีก 76 ปี จำนวนประชากรจีนจะเหลือเพียงแค่ 525 ล้านคน คนวัยทำงาน ของจีนจะเหลือเพียง 210 ล้านคน ทุกฝ่ายยอมรับว่า ปัจจุบัน รัฐบาล จีนแผ่นดินใหญ่กังวลเรื่อง Total Fertility Rate หรืออัตราการเจริญพันธุ์ยอดรวมของประชากรเหมือนที่รัฐบาลไต้หวันกังวล

ถ้าจะรักษาจำนวนประชากรให้อยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ ผู้หญิงจีน 1 คน จะต้องมีอัตราเจริญพันธุ์หรือมีลูก 2.1 คน ระหว่าง ค.ศ.1991-2016 รัฐบาลจีนมีนโยบายให้แต่ละครอบครัวมีลูกได้เพียงคนเดียว แม้ว่าจะเลิกนโยบายนี้แล้ว แต่ใน ค.ศ.2020 อัตราเจริญพันธุ์หรือตัวเลขเฉลี่ยของการให้กำเนิดทารกของผู้หญิงจีน 1 คน ยังคงอยู่ที่ 1.28 คน และใน ค.ศ.2022 อยู่ที่ 1 คน ในขณะที่ออสเตรเลียและสหรัฐฯมีอัตราเจริญพันธุ์อยู่ที่ 1.6 คน ญี่ปุ่น 1.26 คน สิงคโปร์ 1.04 คน ไต้หวัน 0.87 คน ฮ่องกง 0.8 คน และเกาหลีใต้ 0.78 คน

รัฐบาลจีนในอดีตใช้นโยบายมีลูกเพียงคนเดียว พอถึง ค.ศ.2021 ก็เอานโยบายคนจีน 1 ครอบครัวมีลูก 3 คนมาใช้ แม้ว่าจะกระตุ้นด้วยมาตรการจูงใจทางภาษีและมาตรการด้านอื่น แต่อัตราการเกิดก็ไม่เพิ่ม รัฐบาลจีนหวังว่าใน ค.ศ.2024 ซึ่งเป็นปีมังกรทองตามรอบปีนักษัตรแบบจีน คนจีนจะผลิตลูกกันมากขึ้น เพราะมังกรเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี

ค.ศ.2023 จีนเจอปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ล่ม เศรษฐกิจลด บริษัทหลายแห่งปิดตัว คนหนุ่มสาวตกงานเป็นจำนวนมาก ขณะที่ รัฐบาลท้องถิ่นต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้สูงวัยและสวัสดิภาพสำหรับคนวัยเกษียณที่เพิ่มขึ้น คนหนุ่มสาวจำนวนหนึ่งกลัวการมีครอบครัวถึงขนาดประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ต้องออกมาเรียกร้องให้มีการถ่ายทอดเรื่องราววัฒนธรรมอันดีงามของการมีครอบครัว รวมถึงการบ่มเพาะวัฒนธรรมใหม่ของการแต่งงานและมีบุตร ซึ่งสิ่งนี้จำเป็นต่อการพัฒนาชาติบ้านเมือง.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com

คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม