เจ้าหน้าที่จีนกำลังสืบสวน หลังมีคลิปแฉศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลจักษุแห่งหนึ่ง ชกคนไข้หลายครั้งระหว่างการผ่าตัด เบื้องต้นหมอรายนี้ถูกพักงานแล้ว ขณะที่ซีอีโอโรงพยาบาลโดนปลด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานในวันศุกร์ที่ 22 ธ.ค. 2566 ว่า เจ้าหน้าที่ของประเทศจีนกำลังสืบสวนข้อเท็จจริง หลังจากมีคลิปวิดีโอภาพจากกล้องวงจรปิดถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ แสดงให้เห็นภาพศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ชกคนไข้หญิงสูงวัยอย่างน้อย 3 ครั้ง ขณะทำการผ่าตัดดวงตา
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2562 แต่คลิปวิดีโอเพิ่งถูกนำมาเผยแพร่ในช่วงสัปดาห์นี้และกลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว และสร้างความไม่พอใจอย่างมากแก่ผู้ใช้เน็ตชาวจีน
ด้านบริษัท Aier China บริษัทแม่ของโรงพยาบาลจักษุที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ในเมืองกุ้ยกัง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ระบุว่า ศัลยแพทย์ผู้ก่อเหตุถูกสั่งพักงานแล้ว ระหว่างรอการสืบสวน ขณะที่ประธานเจ้าหน้าที่บริษัท หรือ ซีอีโอ ของโรงพยาบาลก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง
ในแถลงการณ์ของ Aier China พวกเขาระบุว่า คนไข้ที่ถูกทำร้ายเป็นหญิงชราวัย 82 ปี โดยระหว่างการผ่าตัดซึ่งใช้วิธีให้ยาเฉพาะจุด คนไข้ขยับศีรษะกับดวงตาหลายครั้ง และเนื่องจากคนไข้พูดได้แต่ภาษาถิ่น จึงไม่เข้าใจคำพูดของหมอที่เตือนเป็นภาษาแมนดาริน ก่อนที่แพทย์จะปฏิบัติกับคนไข้รายนี้อย่างหยาบคายในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า คนไข้รายนี้มีแผลฟกช้ำบริเวณหน้าผาก ส่วนบุตรชายของคนไข้บอกกับสื่อว่า หลังการผ่าตัด ผู้จัดการของโรงพยาบาลได้กล่าวขอโทษพวกเขาและมอบเงินชดเชยเป็นจำนวน 500 หยวน (ราว 2,430 บาท) เขาบอกด้วยว่า ตอนนี้ดวงตาข้างซ้ายของแม่ของเขาบอดแล้ว แต่ไม่ชัดเจนว่า เป็นผลจากเหตุการณ์นี้หรือไม่
...
Aier China อ้างว่า ทางโรงพยาบาลล้มเหลวในการรายงานเหตุการณ์นี้แก่สำนักงานใหญ่ ทำให้ในวันพฤหัสบดี (21 ธ.ค.) พวกเขาประกาศปลดซีอีโอของโรงพยาบาลออกจากตำแหน่ง และสั่งพักงานศัลยแพทย์ผู้ก่อเหตุ ซึ่งดำรงตำแหน่งคณบดีของโรงพยาบาลด้วย ในข้อหา ละเมิดข้อบังคับของบริษัทอย่างร้ายแรง และข้อหาอื่นๆ
ทั้งนี้ ผู้ที่เผยแพร่คลิปดังกล่าวคือ ดร. อ้าย เฟิน แพทย์หญิงคนดังของจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในคนแรกๆ ที่ออกมาเตือนสังคมเรื่องการระบาดของโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่น โดยเธอเคยมีคดีความทางกฎหมายกับบริษัท Aier China หลายครั้งตั้งแต่ปี 2564 หลังจากเธอไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลในเครือของ Aier China และอ้างว่าเกือบทำเธอตาบอด แต่ Aier China ปฏิเสธ
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc