ทางการมาเลเซียเริ่มแผนการวางกับดักเพื่อย้ายที่อยู่เสือป่าในรัฐกลันตันแล้ว หลังเกิดเหตุเสือทำร้ายคนจนมีผู้เสียชีวิต 3 ศพในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการมาเลเซียเปิดเผยในวันพฤหัสบดีที่ 7 ธ.ค. 2566 ว่า พวกเขาเริ่มแผนการวางกับดักเพื่อจับและย้ายที่อยู่เสือป่าแล้ว หลังจากมีคนถูกสัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ชนิดนี้สังหารไปแล้ว 3 ศพในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยมีการวางกรงกับดัก 11 กรงและติดตั้งกล้อง 20 ตัวเอาไว้ในพื้นที่ป่าของเขตกัวมูซาง ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ

นายโมฮาหมัด ฮาฟิด โรฮานี ผู้อำนวยการกรมอุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่าในรัฐกลันตัน กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2564 เกิดเหตุเสือป่าจู่โจมทำร้ายคน 5 ครั้ง และทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ โดย 3 ศพในจำนวนนี้ถูกสังหารในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปี

กรงกับดักถูกวางเอาไว้ตามจุดต่างๆ ในป่า ที่เกิดการโจมตีขึ้นบ่อยๆ รวมถึงในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง โดยอำพรางไว้ด้วยใบต้นปาล์มเพื่อให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม และมีแพะเป็นๆ ถูกขังเอาไว้ในกรงใกล้ๆ เพื่อใช้เสียงร้องของพวกมันล่อเสือเข้าสู่กับดัก

นายฮาฟิดระบุด้วยว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน มีเสือเพศเมียตัวหนึ่งมาติดกับดักและถูกพาไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าแห่งชาติในรัฐเประ ที่อยู่ติดกันแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยอมรับว่า พวกเขาไม่มั่นใจว่ามันเป็นเสือที่ก่อเหตุโจมตีมนุษย์หรือไม่

ทั้งนี้ เสือมาเลเซียถูกจัดโดยองค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ให้เป็นสัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ขั้นวิกฤติ (critically endangerd) ขณะที่องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) สาขามาเลเซีย ประเมินว่าตอนนี้มีเสือป่าเหลืออยู่ในประเทศไม่ถึง 150 ตัวแล้ว และราว 35 ตัวอยู่ในรัฐกลันตัน

...

เหตุเสือป่าโจมตีมนุษย์นั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่มักเกิดขึ้นในพื้นที่ที่การพัฒนาไปเบียดเบียนที่อยู่ของสัตว์ป่า ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้จำนวนเสือป่าในมาเลเซียลดลงจากกว่า 3,000 ตัวในยุค 50 ลงมาเหลือระดับปัจจุบัน

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cna