แรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัว ประกันชุดแรกจำนวน 17 คน เดินทางกลับถึงเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว โดยมีญาติพี่น้องไปรอรับที่สนามบินคับคั่ง นายกรัฐมนตรีวิดีโอคอลสายตรงแสดงความยินดีกับทุกคนที่ได้กลับบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่ห้ามสัมภาษณ์สื่อ เกรงกระทบต่อตัวประกันที่เหลือ ขณะที่แรงงานบางรายเผยสั้นๆ พูดอะไรมากไม่ได้ แต่น่ากลัวมาก ขณะที่ “ปานปรีย์” ที่เดินทางไปรับกลับมาเผยประธานาธิบดีอิสราเอลรับปากจะช่วยเหลือตัวประกันทั้งหมด ล่าสุดกลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันไทยเพิ่มอีก 4 ราย ด้านอิสราเอล-ฮามาส ตกลงขยายเวลาหยุดยิงเพิ่มอีก 1 วัน เพื่อปล่อยตัวประกันที่ยังเหลือ

หลังสถานการณ์การสู้รบในฉนวนกาซาคลี่คลาย ตัวประกันแรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับกุม ได้รับการปล่อยตัวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดตัวประกันชุดแรก 17 คน เดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิเรียบร้อยแล้ว

โดยเมื่อวันที่ 30 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะของนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ พร้อมคณะ เดินทางไปยังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และพบปะชุมชนไทยในกรุงเทลอาวีฟ โดยนายปานปรีย์ กล่าวว่า ขอให้แรงงานไทยทุกคนโชคดีในการทำงานและการใช้ชีวิต ทั้งนี้ ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีอิสราเอลแล้ว ได้รับปากจะช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยที่เหลือ ส่วนการเยียวยารัฐบาลดำเนินการอย่างเต็มที่ แต่ส่วนตัวไม่อยากให้เสี่ยงเข้าไปทำงานในพื้นที่สีแดงอีก

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย. (ตามเวลาท้องถิ่น) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ แจ้งเพิ่มเติมว่ามีคนไทยชุดที่ 5 ได้รับการปล่อยตัวอีก 4 ราย ได้แก่ 1.นายไพบูลย์ รัตนิล 2.นายกง แซ่เล่า 3.นายจักรพันธ์ สีเคนา และ 4.นายเฉลิมชัย แสงแก้ว คนไทยทั้ง 4 รายอยู่ในโรงพยาบาลที่จัดไว้ให้เพื่อตรวจสุขภาพ มีเจ้าหน้าที่สถานเอกอัคร ราชทูตฯ ดูแลและอำนวยความสะดวก รวมทั้งประสานการติดต่อกับครอบครัวและญาติ ทั้งนี้ คาดว่ายังมีคนไทยที่ถูกควบคุมตัวอีกจำนวน 9 ราย ทางรัฐบาลไทยจะพยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือให้ได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัยโดยเร็วที่สุด

...

กระทั่งเวลา 15.00 น. สายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ LY081 จากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอลเดินทางนำคณะตัวประกันแรงงานไทย 17 คน ที่ได้รับการปล่อยตัว กลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพหลังเสร็จขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ได้เดินนำออกมาบริเวณประตู 10 เพื่อแถลงข่าวถึงการช่วยเหลือกลับบ้าน ระหว่างนั้นนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับแรงงานไทยด้วยการวิดีโอคอลเข้ามายังจอทีวีเคลื่อนที่ บริเวณจุดแถลงข่าวโดยกล่าวว่า สวัสดีทุกคน ดีใจไหมที่ได้กลับบ้านแล้ว ได้ติดต่อพูดคุยกับคนที่ยังติดค้างอยู่บ้างหรือไม่ สบายดีไหม พอจะทราบบ้างไหม อยู่ที่นั่นเขาดูแลดีไหมหรือพอประมาณ ขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ได้กลับบ้าน รัฐบาลได้พยายามติดต่อกับมาเลเซียและกาตาร์พยายามช่วยเหลือตลอดระยะเวลาตั้งแต่ 7 ต.ค.

คนไทยทุกคนเป็นห่วงและส่งกำลังใจให้ได้พยายามทำดีที่สุดเพื่อให้มีวันนี้ โดยนายอุทัย แสงนวล แรงงานจาก จ.นครพนม เป็นตัวแทนกล่าวขอบคุณนายกฯ และทุกหน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือพร้อมบอกว่าทุกคนมีกำลังใจดีขึ้นมาก ไม่ทราบข่าวคนที่ยังถูกจับตัวไว้ และตอนที่ถูกคุมขังได้รับการดูแลพอประมาณไม่ถึงกับเลวร้ายมาก จากนั้นได้ขอให้ทุกคนร่วมยืนไว้อาลัยกับผู้เสียชีวิต

นายปานปรีย์กล่าวถึงการช่วยเหลือตัวประกันว่า ได้รับการปล่อยตัวแล้ว 23 คน กลับมา 17 คน ยังอยู่ที่อิสราเอล 6 คน จะเดินทางกลับมาเร็วๆนี้ ส่วนที่ยังถูกควบคุมตัวไว้ 9 คน ทุกหน่วยงานยังติดตามช่วยเหลือจนกว่าจะได้รับอิสรภาพ ต้องขอบคุณมิตรประเทศที่ช่วยเหลือจะเห็นว่าตัวประกันกว่า 200 คน มีคนไทยถูกปล่อยตัวออกมาจำนวนมากถือว่าเป็นความสำเร็จทางการทูต ถือว่ามาถูกทางแล้ว สำหรับตัวประกันที่เหลือจากการพูดคุยกับผู้นำต่างประเทศยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน จะรู้ก่อนมีการปล่อยตัวเท่านั้นและได้ขอให้อิสราเอลดูแลแรงงานไทยให้ปลอดภัยรวมทั้งสิทธิประโยชน์ต่างๆได้รับการยืนยันว่าจะดูแลเหมือนคนอิสราเอล คนงานที่กลับมาไทยแล้วจึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกตัดชื่อทิ้งทางสถานทูตไทยจะยังติดตามดูแลต่อไป

สำหรับรายชื่อแรงงานไทย 17 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.ณัฐฐาวรี มูลกัน 2.นายสันติ บุญพร้อม 3.นายบุญถม พันธ์ฆ้อง 4.นายมงคล ผจวบบุญ 5.นายวิทูรย์ ภูมี 6.นายวิชัย กาละปัตย์ 7.นายบัญชา กองมณี 8.นายบุดดี แสงบุญ 9.นายอุทัย ทุ่นศรี 10.นายอุทัย แสงนวล 11.นายนัฐพร อ่อนแก้ว 12.นายคมกฤษ ชมบัว 13.นายอนุชา อ่างแก้ว 14.นายมณี จิระชาติ 15.นายวิเชียร เต็มทอง 16.นายสุรินทร์ เกสูงเนิน 17.นายพรสวรรค์ ปินะกาโล

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการ เจ้าหน้าที่ได้มีการร้องขอสื่อมวลชนไม่ให้สัมภาษณ์แรงงานไทย เนื่องจากเกรงจะเกิดผลกระทบต่อตัวประกันที่เหลือ ขณะที่แรงงานไทยบางคนบอกกับสื่อมวลชนสั้นๆว่า พูดอะไรมากไม่ได้ บอกได้แค่ว่าน่ากลัวมาก และดีใจที่ได้กลับบ้าน จากนั้นได้นำแรงงานไทยบางส่วนขึ้นรถบัสของ บขส. ไปส่งที่สนามบินดอนเมือง ขณะที่บางส่วนมีญาติพี่น้องนำรถมารับกลับภูมิลำเนา

...

ด้านนางราตรี สามพันธ์ อายุ 57 ปี ชาวบ้านดงน้อย หมู่ 12 ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มารอรับนายบุดดี แสงบุญ อายุ 40 ปี ลูกชาย กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ดีใจมากที่ลูกกลับบ้าน เพราะลูกชายไปทำงานนาน 12 ปีไม่ได้กลับบ้าน ที่ผ่านมานึกว่าลูกคงไม่รอด เวลาดูข่าวหรือมีเสียงโทรศัพท์จะตกใจทุกครั้งกลัวเป็นข่าวร้าย กระทั่งวันที่ 26 พ.ย. เจ้าหน้าที่สถานทูตจากอิสราเอลโทรศัพท์มาบอกว่าใช่แม่ของนายบุดดี แสงบุญ หรือไม่ ขอแสดงความดีใจด้วยลูกชายได้รับการปล่อยตัวแล้ว นาทีนั้นดีใจจนทำอะไรไม่ถูก หลังปล่อยตัวลูกชายได้โทรศัพท์มาคุย ได้สอบถามอาการแต่ลูกชายไม่ได้เล่าอะไรมาก เพราะทางอิสราเอลขอไว้ และยังห่วงเพื่อนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาการของตัวประกันทั้ง 17 ราย มี 8 ราย ที่อาการปกติ แพทย์ให้ทานอาหารโปรตีนสูง และมีคนสูญเสียการได้ยินในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง 2 ราย อาการยังทรงตัว หลังและมือมีอาการปวด 1 ราย เล็บเท้านิ้วโป้งนิ้วชี้ข้างซ้ายยึดและเจ็บหัวไหล่เวลายก 1 ราย แต่สุขภาพจิตดีขึ้น เจ็บบริเวณหน้าท้องเล็กน้อยเนื่องจากอยู่ในที่แออัดไม่ค่อยมีอากาศหายใจ 1 ราย โดยมี 4 ราย ถูกปืนตีที่ศีรษะหัวแตก บางคนอาการหายดีแล้ว และบางคนพบว่าขาดสารอาหาร และมี 3 รายที่สิ้นสุดความคุ้มครองจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ จะทำให้ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนรายละ 15,000 บาท

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานการแลกเปลี่ยนตัวประกันเด็กและสตรีชาวอิสราเอล ที่กลุ่มฮามาสจับไปคุมขังในฉนวนกาซา กับนักโทษเด็กและสตรีชาวปาเลสไตน์ที่ถูกจับไปรับโทษในเรือนจำอิสราเอล ตามข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเบื้องต้นระหว่างวันที่ 28-29 พ.ย. กลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัวประกันเด็กและสตรีชาวอิสราเอล จำนวน 10 คน ตัวประกันชาวไทย 4 คน รวมถึงปล่อยตัวประกันสัญชาติอิสราเอล-รัสเซีย อีก 2 คน ภายใต้การเจรจาระหว่างรัสเซียกับกลุ่มฮามาส ขณะที่อิสราเอลปล่อยตัวนักโทษเด็กและสตรีปาเลสไตน์ จำนวน 30 คน โดยข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวสิ้นสุดในเวลา 07.00 น. ของวันที่ 30 พ.ย.ตามเวลาท้องถิ่น แต่ไม่กี่นาทีก่อนสิ้นสุดการหยุดโจมตีชั่วคราว กองทัพอิสราเอล (IDF) แถลงขยายเวลาพักรบอีก 1 วัน เพื่อเจรจาต่อรองแลกเปลี่ยนตัวประกัน โดยมีกาตาร์เป็นผู้ไกล่เกลี่ย ด้านสำนักข่าวไทม์ส ออฟ อิสราเอล รายงานอ้างสื่อฮิบรูว่า ระหว่างการต่อเวลาหยุดยิง กลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวประกันเด็กและสตรีเพียง 8 คน โดยนับรวมกับการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล-รัสเซีย 2 คนที่ได้รับอิสระไปก่อนหน้านี้

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่