หลังจากเหลือผู้เข้าแข่งขันเพียง 3 ชาติคือ นครปูซาน ของเกาหลีใต้, กรุงริยาด ของซาอุดีอาระเบีย และ กรุงโรม แห่งอิตาลี ที่หลายคนก็มองว่าต่างมีศักยภาพที่จะเป็น เจ้าภาพเวิลด์ เอ็กซ์โป 2030 งานมหกรรมแสดงผลงานนิทรรศการนวัตกรรมระดับสากล ซึ่ง คณะกรรมการจากองค์การนิทรรศการนานาชาติ หรือบีไออี (Bureau International des Expositions–BIE) ที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงปารีส ฝรั่งเศส ได้ลงคะแนนรอบสุดท้ายเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา มีประเทศสมาชิก 182 ประเทศ และผู้แทน 165 คน ร่วมลงคะแนนลับ
ผลแพ้-ชนะปรากฏออกมาแล้วว่า “ริยาด” เข้าวินด้วยคะแนนท่วมท้น 119 เสียง ได้มากกว่า 2 ใน 3 ของเสียงทั้งหมด และภายใต้กฎของบีไออีทำให้ไม่ต้องจัดลงคะแนนรอบ 2 นับเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษที่ผู้สมัครแข่งขันเป็นเจ้าภาพเวิลด์ เอ็กซ์โป ได้รับชัยชนะในการลงคะแนนรอบแรก ขณะฝั่งที่พ่ายไปคือปูซานได้ไป 29 เสียง ส่วนโรมได้เพียง 17 เสียง ซึ่ง นายฮัน ด๊ก ซู นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ที่บินไปลุ้นชัยถึงปารีส กล่าวแสดงความเสียใจที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของประชาชนและรู้สึกถึงความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง ขณะที่ เจ้าชายฟัยศ็อล บิน ฟัรฮาน อัลซะอูด รมว.ต่างประเทศซาอุฯ ทรงเผยว่าการลงคะแนนเสียงครั้งนี้เป็นการแสดงออกถึงความไว้วางใจของประชาคมนานาชาติ
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีที่แล้วจนมาถึงปีนี้ บรรดาตัวเก็งต่างลุยหาเสียงสนับสนุนรอบโลกอย่างเต็มกำลัง จนกระทั่งก่อนวันลงคะแนนรอบสุดท้าย สื่อในอิสราเอลรายงานว่า อิสราเอลได้ถอนการสนับสนุนซาอุฯ เป็นเจ้าภาพเวิลด์ เอ็กซ์โป 2030 ถึงจะไม่มีแถลงการณ์เป็นทางการจากอิสราเอล ว่าทำไมตัดสินใจไม่หนุนซาอุฯ สื่อต่างๆ ก็รายงานไปในทิศทางเดียวกันว่าเรื่องนี้อาจเชื่อมโยงกับการที่ซาอุฯ เคยวิจารณ์อย่างดุเดือดที่กองทัพอิสราเอลโจมตีฉนวนกาซา ทำให้อิสราเอลหันไปหนุนอิตาลีแทน ส่วนฝรั่งเศสซึ่งเป็นบ้านของบีไออี นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประกาศเมื่อปีที่แล้วว่าฝรั่งเศสสนับสนุนซาอุฯ ทำให้ผู้นำหนุ่มถูกวิจารณ์ขรมจากเพื่อนบ้านในยุโรปและกลุ่มเอ็นจีโอที่ต่อต้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซาอุฯ แต่ถึงจะเผชิญเสียงต้าน เวิลด์ เอ็กซ์โป ที่กรุงริยาด ที่วางงบสร้างถึง 7,800 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 270,000 ล้านบาท จะเกิดขึ้นแน่นอนในอีก 7 ปีข้างหน้า
...
ส่วนทำไมบิ๊ก อีเวนต์นี้ถึงเป็นที่ปรารถนาของหลายชาติ นั่นก็เพราะไม่เพียงทำให้โลกประจักษ์ในความชาญฉลาดของมนุษย์ แต่ยังเป็นโอกาสให้เมืองเจ้าภาพมีการเติบโตทางเศรษฐกิจและได้รับการยอมรับในระดับสากล...แต่ก่อนจะถึง “ริยาด 2030” โลกต้องจับตาว่า “โอซากา 2025” เวิลด์ เอ็กซ์โปที่ญี่ปุ่นจะไฉไลแค่ไหน!
ภัค เศารยะ