ข้อพิพาทระหว่างอังกฤษและกรีซ เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของประติมากรรมวิหารพาร์เธนอน เริ่มรุนแรงขึ้น โดยทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษกันว่าเป็นต้นเหตุของการยกเลิกการประชุมระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ
ข้อพิพาทระหว่างอังกฤษและกรีซ เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของประติมากรรมวิหารพาร์เธนอน หรือที่รู้จักในชื่อ "หินอ่อนเอลจิน" เริ่มรุนแรงขึ้น โดยทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษกันว่าเป็นต้นเหตุของการยกเลิกการประชุมระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ
นายกรัฐมนตรี ริชี ซูแน็ก ยกเลิกการประชุมเมื่อวันอังคารกับ นายคีเรียคอส มิตโซตากิส รัฐมนตรีต่างประเทศกรีซ หลังจากที่สำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายเคยตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ว่าไม่ควรใช้การหารือครั้งนี้เป็นเวทีสาธารณะ เพื่อนำข้อพิพาทที่มีกันมานานกลับมาถกเถียงกันอีก
โฆษกของนายกฯ อังกฤษ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "นี่เป็นเพียงตัวอย่างของกรณีที่ว่า หากให้คำรับรองแล้วและไม่ปฏิบัติตาม ก็จะเกิดผลที่ตามมา" ด้านเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลกรีซที่ไม่เปิดเผยชื่อ ปฏิเสธคำกล่าวดังกล่าวว่า "ไม่ถูกต้อง"
กรีซเรียกร้องให้พิพิธภัณฑ์บริติชมิวเซียม ส่งคืนงานประติมากรรมอายุ 2,500 ปี ที่ลอร์ด เอลจิน นักการทูตอังกฤษ ย้ายออกจากวิหารพาร์เธนอนในปี 1806 อย่างถาวร ในช่วงที่กรีซอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิตุรกีออตโตมัน
งานประติมากรรมนูนต่ำ ความยาว 160 เมตร ซึ่งเคยถูกประดับวิหารพาร์เธนอน ปัจจุบัน ราวครึ่งหนึ่งถูกจัดแสดงในกรุงลอนดอน ขณะที่อีก 50 เมตร อยู่ในพิพิธภัณฑ์อะโครโพลิสในกรุงเอเธนส์ ซึ่งผังชั้นบนสุดเลียนแบบวิหารพาร์เธนอน
ในการปรากฏตัวทางสถานีโทรทัศน์บีบีซี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เปรียบเทียบการแยกงานประติมากรรมดังกล่าว กับการตัดภาพโมนาลิซาลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกรัฐบาลอังกฤษปฏิเสธ
...
อริสโตเตเลีย เปโลนี ที่ปรึกษาของนายมิตโซตากิส ด้านนโยบายระหว่างประเทศ กล่าวว่า "นายกรัฐมนตรีอังกฤษไม่ได้พูดอะไรใหม่ จุดยืนของกรีซในประเด็นประติมากรรมพาร์เธนอนเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว การไม่เห็นด้วยในบางประเด็นไม่ได้หมายความว่าเราไม่สามารถพูดคุยได้"
ทั้งอังกฤษและกรีซ กล่าวว่า ข้อพิพาทดังกล่าวเป็นอันตรายต่อโอกาสในการหารือประเด็นระดับโลก รวมถึงสงครามในฉนวนกาซาและยูเครน และวิกฤติสภาพภูมิอากาศ ผู้นำทั้งสองจะหารือเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการการย้ายถิ่นฐานระหว่างสหราชอาณาจักรและกรีซด้วย
พาฟลอส มารินาคิส โฆษกรัฐบาลกรีซ กล่าวว่า การยกเลิกดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และถือเป็นการกระทำที่ไม่เคารพ แต่เสริมว่ากรีซไม่ต้องการปล่อยให้ความขัดแย้งกับนายซูแน็ก ทำลายความสัมพันธ์ที่ดีตามปกติระหว่างประเทศ
การตัดสินใจยกเลิกการประชุมของนายซูแน็ก ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษบางพรรค และกลุ่มเคลื่อนไหวที่ได้รับการสนับสนุนจากนักการเมืองอังกฤษจากพรรคต่างๆ ที่ต้องการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ขณะที่กรีซไม่ยอมรับว่า บริติชมิวเซียมเป็นเจ้าของประติมากรรมชิ้นนี้ กลุ่มโครงการ "พาร์เธนอน" ได้เสนอข้อตกลงที่จะนำประติมากรรมเหล่านี้กลับมารวมกันอีกครั้งในกรุงเอเธนส์ โดยที่อังกฤษและกรีซไม่จำเป็นต้องตกลงกันว่าใครเป็นเจ้าของ
เอ็ด ไวซีย์ อดีตรัฐมนตรีวัฒนธรรมอังกฤษ ที่ให้คำปรึกษาแก่กลุ่ม กล่าวว่า การกระทำของซูแน็กเป็นการ "หักมุม" เมื่อพิจารณาจากจุดยืนก่อนหน้านี้ของอังกฤษที่ว่าการแก้ไขปัญหาเป็นเรื่องของบริติชมิวเซียมเอง
"นายกรัฐมนตรีวางตัวเองไว้แถวหน้า และตรงกลางของปัญหา โดยที่เขาไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น" เขา กล่าวว่า เขาไม่คิดว่านายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องเข้ามาแทรกแซงในลักษณะนี้ และมันไม่ได้ช่วยเรื่องความสัมพันธ์ของอังกฤษกับกรีซ
ด้านรัฐบาลอังกฤษ ได้อ้างกฎหมายที่ห้ามไม่ให้บริติชมิวเซียมนำสิ่งที่ถูกจัดแสดงออกจากสิ่งที่สะสมไว้ อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามว่ารัฐบาลอังกฤษมีความกังวลว่าประเทศอื่นๆ อาจขอการชดใช้คืนสินค้าหรือไม่ หากมีการบรรลุข้อตกลงในการคืนหินอ่อนดังกล่าว โฆษกของนายซูแน็ก กล่าวว่า "เราคิดว่ามันเป็นแค่เหตุผลวิบัติไฟไหม้ฟาง และนั่นไม่ใช่สิ่งที่เราจะสนับสนุน."
ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign