องค์การอนามัยโลกเตือน โรคระบาดในกาซาอาจสังหารผู้คนมากกว่าการโจมตีของอิสราเอลเสียอีก หากระบบสาธารณสุขยังไม่ฟื้นฟูกลับมา

เมื่อวันอังคารที่ 28 พ.ย. 2566 องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเตือนว่า สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในกาซากำลังเลวร้ายลง เนื่องจากโรคท้องร่วงและโรคทางเดินหายใจกำลังแพร่กระจายในหมู่เด็กๆ ที่อาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิงของสหประชาชาติ ในฉนวนกาซา ซึ่งมีประชาชนอยู่กันอย่างแออัดกว่า 1.1 ล้านคน ขณะที่ผู้ป่วยโรคเรื้อรังอย่างมะเร็ง ก็ไม่ได้รับการรักษา

การโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซา นับตั้งแต่ 7 ต.ค. ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 14,800 ศพ และส่งผลให้มีประชาชนกว่า 1.8 ล้านคน ต้องอพยพออกจากบ้านเพื่อหนีความรุนแรง และราว 60% ในจำนวนนี้ไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพัก 156 แห่งขององค์การเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์แห่งสหประชาชาติ (UNRWA)

ดร.มาร์กาเรต แฮร์ริส โฆษกของ WHO กล่าวในงานแถลงข่าวที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ว่า ผลการประเมินผู้ที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงของสหประชาชาติ พบว่าระดับการติดเชื้อโรคท้องร่วงในหมู่เด็กๆ อายุ 5 ขวบขึ้นไปในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน สูงกว่าระดับปกติมากกว่า 100 เท่า

นอกจากนั้น ดร.แฮร์ริส ระบุอีกว่า ระบบสาธารณสุขในกาซายังไม่พร้อมทำการรักษาพวกเขา ทำให้เด็กๆ โดยเฉพาะทารก สุขภาพทรุดโทรมลงและเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว

ตามข้อมูลของสหประชาชาติ ในภาคเหนือของฉนวนกาซามีโรงพยาบาลที่ยังคงปฏิบัติการได้เพียง 5 แห่งเท่านั้น และให้บริการได้บางส่วนด้วย หลังจากอิสราเอลโจมตีภาคพื้นดินอย่างหนัก ขณะที่ในภาคใต้ เหลือโรงพยาบาลที่ปฏิบัติการได้ 8 แห่งจากทั้งหมด 11 แห่ง แต่มีเพียงแห่งเดียวที่รักษาอาการเจ็บป่วยร้ายแรงหรือทำการผ่าตัดที่ซับซ้อนได้

“ในท้ายที่สุด เราจะได้เห็นผู้เสียชีวิตจากโรคภัยมากกว่าที่เห็นจากการทิ้งระเบิด หากเราไม่สามารถนำระบบสาธารณสุขกลับมาได้ทั้งหมด” ดร.แฮร์ริส เตือน

...

ทั้งนี้ คำเตือนขององค์การอนามัยโลกเกิดขึ้นในขณะที่การพักรบในฉนวนกาซาเข้าสู่วันที่ 5 ในวันอังคารที่ 28 พ.ย. หลังอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสตกลงขยายเวลาหยุดยิงออกไปจนถึงวันพุธนี้ แลกกับการที่ฮามาสจะต้องปล่อยตัวประกันเพิ่มอีก 20 คน ส่วนฝ่ายอิสราเอลจะปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์อีก 60 คน

ตลอดช่วง 4 วันแรกของการหยุดยิง มีรถบรรทุกเสบียงและสิ่งของช่วยเหลือถูกส่งเข้าไปในกาซากว่า 800 คัน มากขึ้นกว่าในช่วง 7 สัปดาห์ก่อนหน้านั้นมาก แต่ยังถือว่าเป็นเพียงแค่ส่วนเสี้ยวของจำนวนเดิมก่อนเกิดสงคราม

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc