- เกิดแผ่นดินไหวกว่า 900 ครั้ง รอบภูเขาไฟเมืองกรินดาวิก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของไอซ์แลนด์ แรงสั่นสะเทือนทำให้เกิดความเสียหายครั้งใหญ่ แผ่นดินแตกตัวเป็นรอยยาวขนาดใหญ่กลางเขตชุมชน ทางการต้องเร่งอพยพประชาชนออกจากบ้านเรือน
- นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า มีความเสี่ยงที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยตำแหน่งสำคัญนั้นเป็นพื้นที่ทางตอนเหนือของกรินดาวิก ใกล้กับภูเขาฮากาเฟลล์
แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งรอบ ภูเขาไฟฟากราดาลสฟยาลล์ (Fagradalsfjall) ในเมืองกรินดาวิก ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดรอยแยกขึ้นบนถนนหลายสาย เกิดรอยแตกร้าวผ่ากลางชุมชนดันพื้นดินขึ้นสูงประมาณกว่า 1 เมตร บางจุดมีการทรุดตัวของหน้าดิน จนทางการต้องสั่งปิดการจราจรในพื้นที่
เฉพาะเมื่อวันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน วันเดียว ผู้เชี่ยวชาญตรวจพบแผ่นดินไหวบนคาบสมุทรเรคยาเนส ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองกรินดาวิก มากกว่า 900 ครั้ง ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนทางตอนใต้ของประเทศหลายหมื่นครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยล่าสุดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนในเมืองกรินดาวิก ต่างยังคงหวาดผวาและรอดูว่าภูเขาไฟใต้คาบสมุทรเรคยาเนสจะปะทุหรือไม่ เจ้าหน้าที่คุ้มครองพลเรือนกล่าวว่า แม้ว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่ก็อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่ผู้อยู่อาศัยที่ถูกอพยพออกจากเขตอันตรายจะกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย
เมืองชาวประมงกรินดาวิกถูกอพยพเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่หินหนืดกึ่งหลอมเหลว สั่นสะเทือนและงูอยู่ใต้พื้นดินท่ามกลางแรงสั่นสะเทือนหลายพันครั้ง
ก่อนหน้านี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไอซ์แลนด์ เปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้อย่างมากที่การปะทุจะเกิดขึ้นที่ไหนสักแห่งตามแนวอุโมงค์แมกมา ระยะทาง 15 กิโลเมตร โดยตำแหน่งสำคัญนั้นเป็นพื้นที่ทางตอนเหนือของกรินดาวิก ใกล้กับภูเขาฮากาเฟลล์
...
ทางด้านนายกรัฐมนตรีแคทริน ยาคอบส์ด็อตตีร์ ของไอซ์แลนด์ แถลงว่ารัฐบาลไอซ์แลนด์กำลังทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อสนับสนุนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ต้องผู้อพยพออกจากบ้านเรือน และต้องให้แน่ใจว่าพวกเขามีที่พักที่เหมาะสม
"กรินดาวิก" อยู่ที่ไหนและเกิดอะไรขึ้นที่นั่น
"กรินดาวิก" (Grindavik) เป็นเมืองประมงเล็กๆ บนคาบสมุทร "เรคยาเนส" (Reykjanes) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะไอซ์แลนด์ มีประชากรอาศัยอยู่ 3,800 คน เมืองนี้อยู่ห่างจากกรุงเรคยาวิกเมืองหลวงไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 50 กิโลเมตร และอยู่ไม่ไกลจากสนามบินเคฟลาวิก ซึ่งเป็นสถานที่หลักสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศของไอซ์แลนด์
ชาวบ้านในกรินดาวิกเล่าว่า ถูกตำรวจสั่งให้อพยพออกจากบ้านในช่วงเช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่าพื้นดินสั่นสะเทือน ถนนแตกร้าว และอาคารต่างๆ ได้รับความเสียหายทางโครงสร้าง
ข้อมูลของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาไอซ์แลนด์ ระบุว่า นักวิทยาศาสตร์ได้เชื่อมโยงแผ่นดินไหวเหล่านี้กับการเคลื่อนตัวและการแพร่กระจายของแมกมาซึ่งอยู่ใต้ดินประมาณ 5 กิโลเมตร โดยตรวจพบว่า พื้นดินยกตัวสูงขึ้นประมาณ 9 เซนติเมตร นับตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าภูเขาไฟ "ฟากราดาลสฟยาลล์" (Fagradalsfjall) จะเกิดการปะทุเร็วๆ นี้ เนื่องจากแมกมาอยู่ระดับความลึกที่ตื้นขึ้น
นอกจากนี้เมืองกรินดาวิก ยังตั้งอยู่ใกล้โรงงานความร้อนใต้พิภพ "สวาร์เซนกิ" ซึ่งเป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้าและน้ำหลักให้กับผู้อยู่อาศัย 30,000 คนบนคาบสมุทรเรคยาเนส รวมถึงอ่างเก็บน้ำน้ำจืด และยังอยู่ใกล้กับรีสอร์ตสปาความร้อนใต้พิภพ "บลู ลากูน" สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมซึ่งปิดทำการชั่วคราว เพื่อเริ่มมาตรการป้องกันความปลอดภัยจากแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทางด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาไอซ์แลนด์ระบุ ว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าภูเขาไฟลูกนี้จะปะทุในอีกไม่กี่วันข้างหน้า บริเวณในหรือนอกชายฝั่งเรคยาเนส แม้ว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขนาดและความรุนแรงของแผ่นดินไหวจะลดลงก็ตาม
นายวิดีร์ เรย์นิสสัน หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองพลเรือนและการจัดการเหตุฉุกเฉินของไอซ์แลนด์ ระบุว่า รู้สึกกังวลเกี่ยวกับโครงสร้างบ้านเรือน และโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดในพื้นที่ โดยจากข้อมูลระบุว่า ตอนนี้แมกมาอยู่ระดับความลึกที่ตื้นมาก ดังนั้นจึงคาดว่าจะเกิดการปะทุภายในไม่กี่ชั่วโมงอย่างเร็วที่สุด แต่อย่างน้อยก็ภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
...
แผ่นดินไหวและแรงยกพื้นดินที่เกิดจากการที่แมกมาใต้ดินถูกดันตัวขึ้นมาปรากฏการณ์นี้ได้สร้างความเสียหายให้กับถนนและอาคารในกรินดาวิก และบริเวณโดยรอบ
จากภาพข่าวที่ถูกเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ จะเห็นได้ว่า เกิดรอยแตกขนาดใหญ่บริเวณถนนคอนกรีต สะพาน และสนามกอล์ฟกรินดาวิก ซึ่งเป็นภาพที่ถูกแชร์กันอย่างแพร่หลายบนเครือข่ายโซเชียลมีเดีย
จากนั้นทางการไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีกลุ่มภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ 33 กลุ่ม ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินและสั่งอพยพประชาชนกรินดาวิก ทางศูนย์พักพิงฉุกเฉินและศูนย์ช่วยเหลือได้เปิดทำการ ในเมืองใกล้เคียงหลายแห่ง แต่ชาวเมืองกรินดาวิก ส่วนใหญ่พักอยู่กับเพื่อนหรือญาติพี่น้อง
โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพิ่งเกิดการปะทุของภูเขาไฟที่อยู่ใกล้กับฟากราดาลสฟยาลล์ ถึง 3 ครั้งบนคาบสมุทรเรคยาเนส เมื่อเดือนมีนาคม 2564 ต่อมาในเดือนสิงหาคม 2565 และเดือนกรกฎาคม 2566 อย่างไรก็ตามในครั้งนั้นเกิดขึ้นในพื้นที่ห่างไกลจากเขตชุมชนและโครงสร้างพื้นฐานที่มีประชากรอาศัยอยู่
โอกาสเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
...
ซารา บาร์ซอตติ ผู้ประสานงานอันตรายจากภูเขาไฟของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาไอซ์แลนด์ (Icelandic Met Office-IMO) กล่าวว่า ไอซ์แลนด์ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ คร่อมแนวสันเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งเป็นรอยแตกบนพื้นมหาสมุทรที่แยกแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียนและอเมริกาเหนือ ขณะที่เปลือกโลกแตกร้าวอย่างมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จากการปะทุเหล่านั้นช่วยให้ของเหลวแมกมา ค้นหาเส้นทางได้เร็วขึ้น
โดยก่อนการปะทุในเดือนมีนาคม 2564 คาบสมุทรเรคยาเนสได้สงบนิ่งมาเป็นเวลากว่า 8 ศตวรรษแล้ว ซึ่งบรรดานักภูเขาไฟเชื่อว่า วัฏจักรใหม่ของกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นอาจคงอยู่นานหลายทศวรรษหรือหลายศตวรรษ ขณะที่การปะทุครั้งใหญ่ก่อนหน้านั้น คือในเดือนเมษายน 2553 ที่ภูเขาไฟอีกลูกหนึ่งของไอซ์แลนด์ นั่นคือเอยาฟยาลลาโยคูล ทางตอนใต้ของเกาะ ซึ่งพ่นเมฆเถ้าถ่านขนาดใหญ่ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้เที่ยวบินประมาณ 100,000 เที่ยวบินต้องยกเลิก ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 10 ล้านคนติดค้างอยู่บนเกาะ
แม้ล่าสุดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่เมืองกรินดาวิกจะเริ่มลดลงแล้ว แต่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไอซ์แลนด์ เปิดเผยว่า มีโอกาสสูงที่ภูเขาไฟจะระเบิด และอาจเกิดการปะทุได้ภายในเวลาไม่กี่วันข้างหน้า ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ เชื่อว่าการปะทุครั้งใหม่น่าจะก่อให้เกิดลาวา แต่ไม่ใช่เมฆเถ้าเหมือนในครั้งก่อน.