รัฐบาลจัดเต็มที่ เทงบ 2 พันล้านบาท แก้ปัญหาแรงงานไทยในอิสราเอลทั้งที่กลับมาแล้วและรอตัดสินใจ อัดเงินชดเชยเพิ่มเป็นครึ่งแสน-ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำผ่าน “ออมสิน-ธ.ก.ส.” คนละ 1.5 แสนบาท ไว้แก้หนี้ เป็นทุนประกอบอาชีพ หวังจูงใจให้กลับประเทศ ขณะเดียวกันส่ง “ปานปรีย์” บินด่วนไป “กาตาร์-อียิปต์” เปิดการเจรจาทุกช่องทางเพื่อขอให้ปล่อยตัวประกันโดยเร็วที่สุด ส่วนการส่งศพแรงงานไทย กลับมาตุภูมิ มาลอต 3 อีก 10 ศพ ท่ามกลางการสู้รบยิ่งทวีความรุนแรง เมื่อกองทัพยิวถล่มทั้งทางบก ทะเล อากาศ ทำลายฐานที่มั่นกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาอย่างหนัก พร้อมบุกช่วยตัวประกันทหารหญิงออกมาได้ปลอดภัย

หลังจากรัฐบาลเร่งอพยพคนไทยในอิสราเอลที่ส่วนใหญ่เป็นแรงงานภาคการเกษตรหนีภัยสงครามการสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกองกำลังติดอาวุธกลุ่มฮามาสมากว่าสามสัปดาห์ โดยสามารถอพยพคนไทยออกมาได้เฉียด 8 พันคน พร้อมเร่งช่วยตัวประกันถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไป รวมถึงให้การช่วยเหลือต่างๆ สำหรับผู้กลับถึงไทย

จัด 2 มาตรการช่วยแรงงานไทย

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 31 ต.ค. เวลา 10.27 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุม ครม.มีการพูดคุยกันถึงการช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล มีรายงานจากฝ่ายความมั่นคงและสถานทูตไทยประจำอิสราเอล ทราบว่าการต่อสู้ไม่ได้เบาบางลงไป แต่กลับทวีความเข้มข้นขึ้น และมีการปฏิบัติภาคพื้นดินอย่างต่อเนื่อง ความอันตรายยังมีอยู่มาก เรายืนยันต่อไปอยากให้พี่น้องคนไทยกลับมา ต้องมีการปฏิบัติการเชิงรุก เพราะรู้ว่าการที่พี่น้องไม่กลับมาเพราะเรื่องการเงิน โดยหลักมี 2 เรื่อง คือแรงงานที่กลับมาแล้วและที่จะกลับมาในอนาคตจะได้เงินชดเชยคนละ 5 หมื่นบาท และจะได้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะยาวคนละไม่เกิน 150,000 บาท เผื่อใครที่ไปกู้มาและต้องทำงานผ่อนใช้

...

ส่ง “ปานปรีย์” ไปกาตาร์–อียิปต์

นายกฯกล่าวอีกว่า นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ ได้ลาการประชุม ครม. เพื่อเดินทางไปรัฐกาตาร์และสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ โดยรับทราบข้อมูลจากทุกฝ่ายที่ได้ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือเจรจากับกลุ่มชนที่จับคนไทยเป็นตัวประกัน ไม่ว่าจะเป็นการประสานจากนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผบ.ทหารสูงสุด หรือหน่วยงานอื่นๆ ตนคิดว่าเพื่อเป็นการลดความสับสน นายปานปรีย์ได้บินไปเจรจาเองที่หน้างาน จะช่วยเหลือได้มาก

อยากให้ปล่อยคนไทยโดยเร็ว

ด้านนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการบินไปเยือนกาตาร์และอียิปต์ระหว่างวันที่ 31 ต.ค.-2 พ.ย.นี้ว่า เพื่อพบกับผู้นำรัฐบาลและ รมว.ต่างประเทศของทั้งสองประเทศ และหารือเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันจากสถานการณ์สู้รบในอิสราเอล และแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์และพัฒนาการในภูมิภาค หารือถึงการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี รวมถึงประเด็นอื่นๆ ที่อยู่ในความสนใจร่วมกัน ตนมีกำหนดพบหารือกับนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศกาตาร์ในวันที่ 31 ต.ค. ที่กรุงโดฮา และพบกับ รมว.ต่างประเทศสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ในวันที่ 1 พ.ย.ที่กรุงไคโร ที่ผ่านมาได้โทรศัพท์หารือและชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว รวมถึงผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ประสานงานว่าอยากให้มีการปล่อยตัวคนไทยโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นผู้ที่เข้าไปทำมาหากิน ไม่ได้มีความขัดแย้งกับผู้ใด อย่างไรก็ดี ขณะนี้ไม่มีใครทราบว่าตัวประกันทั้งหมดอยู่ที่ไหน ในประเทศใด อยู่ในหรือนอกฉนวนกาซาหรือไม่ แต่รัฐบาลไทยเราเปิดการเจรจาทุกช่องทางที่มีอยู่ที่จะสามารถประสานกับฮามาสได้เพื่อขอให้เขาปล่อยตัวประกันโดยเร็วที่สุด

อนุมัติ 2 พันล้านให้กู้ดอกต่ำ

ต่อมา นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบอนุมัติโครงการสินเชื่อคืนถิ่นแรงงานไทยจากอิสราเอล โดย ครม.อนุมัติเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 2 พันล้านบาท โดยธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แบ่งกันดูแลแห่งละ 1 พันล้านบาท ปล่อยกู้แรงงานไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอลรายละ 1.5 แสนบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 3 รัฐบาลช่วยร้อยละ 2 ผู้กู้จ่ายเองร้อยละ 1 ผ่อนชำระ 20 ปี คำนวณออกมาแล้วผ่อนเดือนละ 689.84 บาท ให้มายื่นระหว่างวันที่ 3 พ.ย.2566-30 มิ.ย.2567 ถือเป็นมาตรการที่จะดูแลแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในอิสราเอล

เล็งเพิ่มเงินเยียวยาครึ่งแสน

นายชัยกล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ได้เสนอในที่ประชุมเป็นกรณีพิเศษว่า เงินเยียวยาที่ดูแลแรงงานที่กลับมาคนละ 1.5 หมื่นบาท อาจจะไม่เพียงพอ จึงเสนอขออนุมัติงบกลางจ่ายให้เพิ่มอีกคนละ 5 หมื่นบาท นายกฯรับปากในที่ประชุมว่าให้และให้มีผลย้อนหลังกับแรงงานที่เดินทางมาก่อนหน้านี้ 5-6 พันคน ตั้งงบประมาณสูงสุดไว้ 1.5 พันล้านบาท ครอบคลุมแรงงานไทยที่อิสราเอลทั้ง 3 หมื่นคน รวมถึงขอให้มีการพักชำระหนี้ทั้งต้นและดอกแก่แรงงานไทยที่เป็นหนี้สถาบันการเงินอยู่ วงเงิน 1.5 แสนบาท เลขาธิการ ครม.ระบุว่า เพื่อให้กระบวนการถูกต้อง ครม.ครั้งหน้าให้กระทรวงแรงงานเสนอเรื่องเข้ามาที่ ครม.จะได้อนุมัติอย่างเป็นทางการ

ให้กู้รายละ 1.5 แสนบาท

ต่อมา นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการ รมว.คลัง เปิดเผยเพิ่มเติมถึงมาตรการที่ ครม.มีมติเห็นชอบโครงการสินเชื่อคืนถิ่นแรงงานไทย (อิสราเอล) เพื่อให้แรงงานไทยชำระหนี้ที่กู้ยืมสำหรับการไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลและ/หรือเพื่อลงทุนประกอบอาชีพภายหลังจากเดินทางกลับมาประเทศไทย ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นธนาคารละ 1,000 ล้านบาท ให้แก่แรงงานไทยที่ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลที่ประกอบอาชีพเดิมคือค้าขายหรืออาชีพอิสระ สามารถขอสินเชื่อผ่านธนาคารออมสิน หรือเป็นเกษตรกรหรือบุคคลในครัวเรือนเกษตรกร สามารถขอสินเชื่อผ่าน ธ.ก.ส. วงเงินสินเชื่อไม่เกินรายละ 150,000 บาท คิดดอกเบี้ยลดต้นลดดอกในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 งวดแรก ระยะเวลาชำระคืนเงินงวดสูงสุดไม่เกิน 20 ปี ทั้งนี้ สามารถยื่นขอสินเชื่อได้จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2567

...

ยื่นขอเงินค่าตั๋วคืนได้แล้ว

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงแรงงานเปิดให้แรงงานไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอลตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 สามารถยื่นคำร้องขอรับเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับประเทศจากเหตุการณ์ไม่สงบในประเทศอิสราเอล ตั้งแต่บัดนี้ ส่วนกลางยื่นได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล บริเวณชั้น 1 อาคารกระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี กทม.และส่วนภูมิภาค ยื่นได้ที่สำนักงานแรงงานจังหวัดทั่วประเทศ เอกสารและหลักฐานการยื่นขอรับค่าใช้จ่าย ต้องเป็นเอกสารค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมเป็นต้นไป ประกอบด้วย 1.บอร์ดดิ้งพาส หรือตั๋วเครื่องบิน/ใบเสร็จรับเงิน หรือเอกสารการจ่ายเงิน 2.สำเนาบัตรประชาชน 3.สำเนาหนังสือเดินทาง/เอกสารเดินทาง 4.สำเนาสมุดบัญชีธนาคารผู้รับบริการ กระทรวงแรงงานจะรับเรื่องของคนไทยทุกคน พร้อมจัดส่งเอกสารให้กับกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้พิจารณาค่าชดเชย/ ค่าใช้จ่าย โดยค่าใช้จ่ายที่เบิกกับรัฐบาลได้ จะเป็นเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในต่างประเทศเท่านั้น และหลังจากยื่นเอกสารกับกระทรวงแรงงานแล้ว สามารถติดตามการยื่นคำขอได้ที่กรมการกงสุล โทร. 0-
2572-8442

ฝึกอบรมทักษะอาชีพใหม่

น.ส.บุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน สั่งการให้ช่วยเหลือแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอล ให้มีทักษะอาชีพใหม่ หน่วยงานของกรมทุกจังหวัดสอบถามความต้องการเข้ารับการพัฒนาทักษะฝีมือทำงานในสถานประกอบการและหลักสูตรนำไปประกอบอาชีพเสริม หรืออาชีพอิสระ อาทิ ช่างปูกระเบื้อง การนวดไทย-สปา การประกอบอาหารไทย ช่างบำรุงรักษาระบบทำความเย็นและปรับอากาศ ระบบ IOT เพื่อการเกษตร ช่างอเนกประสงค์ และบาริสต้า โดยที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 19 เชียงใหม่ มีผู้แจ้งความประสงค์เข้ารับการฝึกอบรม 27 ราย สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 41 นครพนม มีผู้สนใจเข้าฝึกอบรม 40 คน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4

...

แรงงานกลับไทยแล้ว 7.8 พันคน

ส่วนการอพยพคนไทยจากอิสราเอล ตลอดวันที่ 31 ต.ค.ที่สนามบินดอนเมือง เวลา 02.30 น.นายยุทธนา บัวจุน ผู้ตรวจราชการกรม กรมการจัดหางาน นางนิยดา เสนีย์มโนมัย ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับแรงงานไทย 117 คน เป็นแรงงานที่ลงทะเบียน ขอขึ้นเครื่องบินอพยพกลับไทย ผ่านสถานเอกอัคร ราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เดินทางด้วยสายการบินไทย แอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 8754 และเวลา 05.35 น. สายการบินไทย ไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL7005 ได้นำแรงงานไทย 115 คน เดินทางจากอิสราเอล
มาถึงโดยสวัสดิภาพ มีนายอารี ไกรนรา เลขานุการ รมว.แรงงาน พร้อมด้วยนายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รอรับและชี้แจงขั้นตอนต่างๆในการขอรับ การเยียวยาจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือค้นหางานไปทำงานในต่างประเทศ ทั้งนี้ นายอารีกล่าวว่า แรงงานที่ทำงานในอิสราเอลควรจะเร่งเดินทางกลับประเทศไทย เพราะสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงและขยายวงกว้างขึ้น จะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย อย่าได้กังวลเรื่องภาระค่าใช้จ่าย เพราะรัฐบาลมีมาตรการให้ความช่วยเหลือทุกคน และขณะนี้มีแรงงานเดินทางกลับ ถึงไทยแล้ว 45 เที่ยวบิน จำนวน 7,891 คน

...

กว่า 1 พันคนจ่ายค่าตั๋วเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดแรงงานที่เดินทางกลับ จากอิสราเอลในแต่ละเที่ยวบินจะเป็นยอดที่อ้างอิงจากการลงทะเบียนขอกลับไทยผ่านสถานเอกอัคร ราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ และมีการจัดเที่ยวบินทยอยเดินทางกลับ แต่ยอดแรงงานไทยที่เดินทางมาถึงไทย จะต่างกันมากกับกระทรวงแรงงาน เนื่องจากส่วนหนึ่ง ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับมาเอง โดยเที่ยวบินวันที่ 31 ต.ค. เที่ยวบิน FD 8754 แจ้งยอดกลับ 117 คน มีเดินทางมา 178 คน และเที่ยวบิน SL 7005 แจ้งกลับ 115 คน แต่มีเข้ามา 134 คน โดยข้อมูลของกระทรวงแรงงานระบุว่าตั้งแต่ 12 ต.ค.มีซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับเอง จำนวน 1,134 คน

ยอดเหยื่อสงครามคงที่

วันเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศ ได้แจ้ง จำนวนคนไทยผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล (สถานะวันที่ 31 ต.ค.2566) ว่า จำนวนผู้เสียชีวิต มีจำนวนเท่าเดิมคือ 32 ราย บาดเจ็บ เท่าเดิมคือ 19 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 6 ราย และมีผู้ถูกควบคุมตัว ยังมีจำนวนเท่าเดิม คือ 22 ราย

ทยอยพาคนกลับเพิ่ม

ส่วนเที่ยวบินอพยพคนไทยออกจากอิสราเอล กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 31 ต.ค. มีเที่ยวบินกลับมาเพิ่มอีก 2 ไฟลท์ ได้แก่ เที่ยวบิน IZ 591 เลื่อนกำหนดถึงไทย จากวันที่ 30 ต.ค. มาถึงสุวรรณภูมิในวันที่ 31 ต.ค. เวลา19.20 น.โดยเปลี่ยนหมายเลขเที่ยวบินเป็น IZ 593 (ลงทะเบียน 211 คน) และเที่ยวบิน LY085 (ผู้ลงทะเบียน 70 คน) ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลาประมาณ 23.00 น. เท่ากับวันที่ 31 ต.ค. มีการอพยพคนไทยกลับมารวม 4 เที่ยวบิน จำนวน 513 คน ส่วนเที่ยวบินอพยพที่จะเดินทางถึงไทยในวันที่ 1 พ.ย. คือ TG 8953 ถึงสุวรรณภูมิเวลาประมาณ 01.30 น. (คืนวันที่ 31 ต.ค.) จำนวนผู้ลงทะเบียน 278 คน

เที่ยวบินนำศพกลับรอบ 3

นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทล อาวีฟ ได้ประสานการนำส่งร่างผู้เสียชีวิต ครั้งที่ 3 จำนวน 10 ร่าง จะมาถึงสุวรรณภูมิในวันที่ 1 พ.ย. โดย LY 083 เวลาประมาณ 12.40 น. มีรายชื่อผู้เสียชีวิตที่จะนำกลับมาในเที่ยวบินดังกล่าว ดังนี้ 1.นายจักรพงษ์ จันทรเสนา 2.นายศตวรรษ เพียเอีย 3.นายพิทักษ์ โทแหล่ง 4.นายวุฒิภัทร วิเศษดอนหวาย 5.นายจรูญ ชาติดำดี 6.นายสมควร พันธ์สะอาด 7.นายปริญญา แต้มกลาง 8.นายนันทวัฒน์ ปิ่นใจ 9.นายตุ๊ แซ่ลี และ 10.นายบัญชา ดัชถุยาวัตร ทั้งนี้ มีพิธีไว้อาลัย ที่อาคาร BFZ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย

ผู้นำยิวย้ำหยุดยิงเท่ากับแพ้

สำหรับสถานการณ์สู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์กลุ่มฮามาสยังคงดุเดือด แม้จะมีการเรียกร้องจากนานาชาติให้มีการหยุดยิงก็ตาม กระนั้น นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าจะไม่มีการเจรจาหยุดยิง เพราะหากหยุดยิงเท่ากับว่าอิสราเอลยอมแพ้ให้แก่กลุ่มฮามาส ขณะเดียวกัน นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงสหรัฐอเมริกา เห็นว่าการหยุดยิงไม่ใช่ทางออกในตอนนี้ พร้อมแนะให้พักยิงชั่วคราวเพื่อลำเลียงความช่วยเหลือเข้าสู่ฉนวนกาซา

บุกช่วยตัวประกันทหารหญิง

ด้านสำนักข่าวไทม์ส ออฟ อิสราเอล รายงานว่า กองทัพอิสราเอล (IDF) และหน่วยรักษาความมั่นคงชินเบต (Shin Bet) ได้เข้าช่วยเหลือ ส.ต.หญิง โอรี เมกิดิช ทหารหญิงสังกัด IDF ที่ถูกกลุ่มฮามาสลักพาตัวไปจากนิคมเกษตรนาฮัล ออซ ไปฉนวนกาซาตั้งแต่มีการสู้รบระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย หลังอิสราเอลบุกโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซาเมื่อคืนก่อน ส.ต.หญิง เมกิดิช อยู่ในสภาพปลอดภัยและได้พบกับครอบครัวแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางการอิสราเอลไม่เผยรายละเอียดการเข้าช่วยเหลือตัวประกัน เนื่องจากกังวลว่าจะกระทบแผนปฏิบัติการของกองทัพในอนาคต

ฮามาสปล่อยคลิป 3 ตัวประกัน

การเปิดเผยเรื่องการช่วยเหลือ ส.ต.หญิง เมกิดิช ของทางการอิสราเอล มีขึ้นหลังจากที่กลุ่มฮามาสปล่อยวิดีโอความยาว 76 วินาที ของหญิง 3 คน ที่ถูกลักพาตัวโดยฮามาสในฉนวนกาซา ประกอบด้วย น.ส.ริโมน เคิร์ตช์ นางดานิเอล อโลนี และนางลีนา ทรูปานอฟ ภาพจากวิดีโอฉายให้เห็นว่าทั้ง 3 อยู่ในสภาพปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ นางอโลนีกล่าวด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวว่า รัฐบาลเนทันยาฮูและกองทัพล้มเหลวในการยับยั้งการบุกจู่โจมของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. จนทำให้พลเมืองบริสุทธิ์ถูกสังหาร รวมถึงเรียกร้องให้อิสราเอลยอมแลกเปลี่ยนตัวประกันที่ถูกจับโดยฮามาสในกาซากับนักโทษปาเลสไตน์ในอิสราเอล ก่อนร้องขอให้พาตัวประกันกลับบ้านทันที อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าตัวประกันตำหนิรัฐบาลด้วยตัวเอง หรือถูกกดดันโดยฮามาส ขณะที่นายเนทันยาฮูแถลงประณามการกระทำดังกล่าวทันควันว่า เป็นการโฆษณาชวนเชื่อทางจิตวิทยาอันโหดเหี้ยมของฮามาส ผู้นำอิสราเอลยังย้ำว่า จะทำทุกวิถีทางเพื่อพาตัวประกันและผู้สูญหายกลับบ้าน

บุกถล่มทางบกทะเลอากาศ

วันเดียวกัน IDF แถลงว่า กองทัพบุกโจมตีทั้งทางอากาศ ทางทะเล รวมถึงภาคพื้นดิน ทางตะวันตกเฉียงเหนือในฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง ทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสประมาณ 300 เป้าหมาย อาทิ ฐานยิงจรวด จรวดต่อต้านรถถัง รวมถึงสังหารหน่วยปฏิบัติการของฮามาสจำนวนมาก ที่อยู่ใต้อุโมงค์ในกาซาเมื่อคืนที่ผ่านมา ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างพยานว่า กองทัพอิสราเอลพุ่งเป้าโจมตีไปที่เส้นทางหลักทางตอนเหนือ และตอนใต้ของกาซา ขณะที่กลุ่มฮามาสเผยว่า กองกำลังของฮามาสตอบโต้กองทัพอิสราเอลด้วยปืนกล และจรวดต่อต้านรถถังในตอนเหนือ รวมถึงตอนใต้ของฉนวนกาซา

สาวลูกครึ่งยิว-เยอรมันตายแล้ว

ส่วนการตามหา น.ส.ชานี ลูค หญิงสาวลูกครึ่งอิสราเอล-เยอรมัน วัย 22 ปี ที่ถูกกลุ่มฮามาสลักพาตัวในงานเทศกาลดนตรีอิสราเอล ใกล้กับนิคมเกษตรเรอิม อิสราเอล รวมถึงมีคลิปเผยแพร่บนโลกโซเชียลว่ากลุ่มฮามาสนำร่างหญิงสาวนอนคว่ำบนหลังรถบรรทุกแล่นไปตามถนน เดิมมีรายงานว่าบาดเจ็บสาหัสและรักษาตัวอยู่ใน รพ.ที่ฉนวนกาซา แต่ล่าสุด นางริคาร์ดา ลูค แม่ของเหยื่อเผยกับสำนักข่าวเอ็น-ทีวีของเยอรมันว่า ลูกสาวของเธอเสียชีวิตแล้ว IDF ตรวจสอบตัวอย่างดีเอ็นเอจากชิ้นส่วนกะโหลก ยืนยันว่าเป็นของ น.ส.ลูค แต่ยังไม่พบร่างของเธอ รวมถึงไม่มีรายงานว่าพบชิ้นส่วนกะโหลกที่ไหนและเมื่อใด คาดว่าลูกสาวอาจถูกยิงบริเวณศีรษะและเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.แล้ว

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่