- ขบวนรถบรรทุกขนเสบียงกลุ่มแรกเดินทางข้ามด่านราฟาห์ ซึ่งเป็นทางเข้าออกฉนวนกาซาแห่งเดียวที่ไม่ถูกอิสราเอลควบคุม เข้าสู่ฉนวนกาซาได้แล้ว เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
- อย่างไรก็ตาม เสบียงดังกล่าวไม่ใกล้เคียงกับความต้องการของชาวกาซาที่กำลังเผชิญวิกฤติมนุษยธรรมครั้งเลวร้ายที่สุด หลังอิสราเอลทำสงครามรอบใหม่กับกลุ่มฮามาส
- แต่หลังจากเปิดด่านได้ไม่นาน อียิปต์ก็ปิดด่านราฟาห์อีกครั้ง ขบวนรถขนเสบียงอีกหลายร้อยคันยังคงจอดรอเพื่อนำสิ่งของเข้าไปบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือชาวกาซานับล้านคน
หลังจากเมื่อ 7 ต.ค. 2566 กลุ่มฮามาส กองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์ฉนวนกาซา เปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่เข้าสู่ประเทศอิสราเอล จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 1,400 ศพ และลักพาตัวผู้คนทั้งชาวยิว และชาวต่างชาติไปเป็นตัวประกันอีกหลายร้อยคน อิสราเอลก็ประกาศสงคราม และโจมตีตอบโต้ครั้งใหญ่เข้าสู่ฉนวนกาซามาจนถึงตอนนี้
การโจมตีของอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์ในกาซาไปแล้วกว่า 4,400 ศพ แต่ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังดำเนินการปิดล้อมดินแดนแห่งนี้ทั้งทางบก, ทะเล และอากาศ ตัดการส่งน้ำ, ไฟฟ้า, อาหาร และเชื้อเพลิง ทำให้ผู้อยู่อาศัยมากกว่า 2 ล้านคนที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้อยู่แล้ว ยิ่งลำบากหนักขึ้นไปอีก
คำสั่งอพยพประชาชน 1.1 ล้านคน ในภาคเหนือของกาซาของอิสราเอล เพื่อเปิดทางสำหรับปฏิบัติการโจมตีภาคพื้น ทำให้ชาวปาเลสไตน์หลายแสนคนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น และทางข้ามพรมแดนที่ติดกับอียิปต์ ทางใต้ของกาซา ก็ดูเหมือนจะเป็นความหวังเดียวของผู้ที่ต้องการหลบหนีการโจมตี ผู้คนจำนวนมากเริ่มเดินทางไปที่นั่นด้วยความคาดหวัง
แต่จนถึงตอนนี้ด่านราฟาห์ยังคงปิดสนิท และการเดินทางข้ามพรมแดนก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่พวกเขาตั้งความหวังเอาไว้
...
กาซาวิกฤติมานานแล้ว
ฉนวนกาซา ดินแดนเล็กๆ มีขนาด 360 ตร.กม. ซึ่งเล็กกว่าจังหวัดที่เล็กที่สุดของไทยอย่าง สมุทรสงคราม เผชิญวิกฤติมนุษยธรรมร้ายแรงมาตั้งแต่ก่อนที่การต่อสู้ครั้งล่าสุดจะปะทุขึ้นแล้ว
การปกครองฉนวนกาซาเปลี่ยนมือหลายต่อหลายครั้ง ในช่วง 70 ปีที่ผ่านมาดินแดนแห่งนี้เคยถูกอียิปต์ควบคุมหลังสงครามอาหรับ-อิสราเอล ปี 2491 ก่อนถูกอิสราเอลยึดไปในสงครามปี 2510 จากนั้นจึงเริ่มตั้งรกรากชาวยิว และควบคุมการเคลื่อนไหวของชาวปาเลสไตน์ กระทั่งในปี 2548 อิสราเอลถอนทัพ และประชาชนออกจากกาซา และ 2 ปีหลังจากนั้นกลุ่มฮามาสก็ยึดครองดินแดนแห่งนี้
นับจากนั้นจนถึงปัจจุบันกาซาถูกอิสราเอลปิดกั้นมานานถึง 16 ปี ส่งผลให้ประชากร 95% ในดินแดนนี้ไม่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาดได้ ขณะที่ชาวกาซามากกว่าครึ่งต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากนานาชาติเพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการพื้นฐาน นอกจากนั้นชาวกาซาราว 80% ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ลี้ภัยตามกฎหมายระหว่างประเทศ ทำให้ชาวปาเลสไตน์เป็นกลุ่มคนไร้รัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
หลังสงครามรอบใหม่เริ่มขึ้น อิสราเอลดำเนินการปิดล้อมไม่ให้ส่งความช่วยเหลือเข้ากาซาอย่างสิ้นเชิง โรงงานผลิตไฟฟ้าเพียงแห่งเดียวในกาซาก็หมดเชื้อเพลิง ทำให้ประชาชนต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความมืดมิด ในขณะที่โรงเรียน, ชุมชน และมัสยิดก็ถูกโจมตีไม่เว้นแต่ละวัน แม้กองทัพอิสราเอลจะอ้างว่าพวกเขาเล็งโจมตีสถานที่เก็บอาวุธ และโครงสร้างพื้นที่ที่กลุ่มฮามาสใช้ก็ตาม
องค์การอนามัยโลก เตือนว่า ระบบสาธารณสุขในกาซามาถึงจุดแตกหักแล้ว โรงพยาบาลต้องจัดสรรปันส่วนเชื้อเพลิงกับเวชภัณฑ์ที่เหลือน้อยเต็มที ในขณะที่โรงพยาบาลใหญ่ 2 แห่งในกาซารับผู้ป่วย หรือผู้บาดเจ็บเกินกำหนดไปนานแล้ว ส่วนโรงพยาบาลอื่นๆ ในภาคใต้ก็กำลังมีผู้ป่วยมากขึ้นเรื่อยๆ
สถานการณ์ที่ด่านราฟาห์
ด่านราฟาห์เป็นเส้นทางข้ามพรมแดนเดียวที่ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของอิสราเอล ตั้งอยู่ที่เมืองไซนาย ติดกับพื้นที่ทางใต้ของกาซา แต่อียิปต์ปิดเส้นทางแห่งนี้นับตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น และยอมเปิดให้ขบวนรถบรรทุกขนเสบียง 20 คันกลุ่มแรกเดินทางผ่านในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาเท่านั้น ก่อนจะปิดเส้นทางตามเดิม
แม้องค์กรระหว่างประเทศมากมายจะออกมาแสดงความยินดีกับการเปิดด่านช่วงสั้นๆ นี้ แต่ต้องยอมรับว่าเสบียงที่ส่งเข้าไปไม่เพียงพอต่อความต้องการของคน 2.2 ล้านคนในกาซา สหรัฐฯ พยายามกดดันให้อียิปต์เปิดเส้นทางรับประชาชนจากกาซา ขณะที่ฝ่ายอียิปต์ก็ยืนกรานว่าพวกเขาจะไม่ยอมให้ผู้อพยพไหลทะลักเข้าประเทศ และยืนยันให้ฝ่ายอิสราเอลเป็นผู้เปิดทางส่งความช่วยเหลือแก่ชาวกาซาแทน
การเปิดด่านราฟาห์เป็นเรื่องซับซ้อน เนื่องจากมีหลายฝ่ายเกี่ยวข้อง อย่างแรกคือต้องได้รับการอนุมัติจากอียิปต์กับกลุ่มฮามาสที่เป็นผู้ควบคุมด่านแห่งนี้โดยตรง และสองคือต้องได้รับไฟเขียวจากอิสราเอลที่กำลังโจมตีกาซา รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงด่านราฟาห์อยู่ตอนนี้ด้วย โดยอียิปต์ต้องการการรับรองว่าอิสราเอลจะไม่โจมตีขบวนรถขนความช่วยเหลือ
ปัจจุบันมีรถบรรทุกเสบียง และสิ่งของช่วยเหลือต่างๆ กว่า 200 คันจอดรอข้ามด่านราฟาห์อยู่ที่ฝั่งอียิปต์ สหรัฐฯ กำลังเจรจากับอิสราเอลเพื่อให้ความช่วยเหลือให้สามารถเข้าสู่ฉนวนกาซาได้มากขึ้น เนื่องจากรถบรรทุก 20 คันที่เข้าไปก่อน มีอาหาร, น้ำ และเวชภัณฑ์ แต่ไม่มีเชื้อเพลิงมาด้วย
...
ข้ามด่านราฟาห์ไม่ใช่เรื่องง่าย
อิสราเอลกับอียิปต์ลงนามสนธิสัญญาสันติภาพกันในปี 2525 ทำให้รัฐยิวถอนกำลังออกจากคาบสมุทรไซนายที่พวกเขายึดจากอียิปต์ในปี 2510 จากนั้นอิสราเอลจึงเปิดด่านราฟาห์ขึ้น จนกระทั่งพวกเขาถอนทหารออกจากกาซาในปี 2548 และในช่วง 2 ปีก่อนที่กลุ่มฮามาสจะขึ้นมามีอำนาจในปี 2550 ด่านแห่งนี้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปกับอียิปต์
ในช่วง 2 ปีดังกล่าว (2548-2550) มีผู้ข้ามด่านราฟาห์ประมาณ 450,000 คน เฉลี่ยวันละ 1,500 คน แต่หลังจากกลุ่มฮามาสยึดกาซา อียิปต์กับอิสราเอลก็เพิ่มความเข้มงวดในการเดินทางของคน และการขนส่งสินค้าเข้าออกจากกาซา แต่ในปี 2551 กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ระเบิดป้อมใกล้ที่ด่านราฟาห์ ทำให้ชาวกาซาร่วม 50,000 คนทะลักเข้าสู่อียิปต์เพื่อซื้ออาหาร, เชื้อเพลิง และเสบียงอื่นๆ
เหตุการณ์นั้นทำให้อียิปต์ตัดสินใจนำลวดหนาม และรั้วเหล็กมาเสริมกำแพงกั้นชายแดน และควบคุมการเข้าออกด่านราฟาห์อย่างเข้มงวดมาตลอด ทั้งจำกัดจำนวนคนเข้าออก ชาวกาซาที่ต้องการจะข้ามพรมแดนก็ต้องผ่านขั้นตอนขออนุญาตเข้าเมืองที่ยืดยาวอย่างต่ำ 30 วัน แต่บางครั้งก็นานถึง 3 เดือน นอกจากนั้นพวกเขาต้องขอใบอนุญาตออกจากกาซาจากกลุ่มฮามาสด้วย ซึ่งอาจใช้เวลาหลักวัน ถึง 3 เดือน
ตามการเปิดเผยของสหประชาชาติในปีนี้มีประชาชนข้ามด่านราฟาห์เฉลี่ย 27,000 คนต่อเดือน จนถึงเดือนกรกฎาคม โดยด่านแห่งนี้เปิดทำการ 138 วัน และปิด 74 วัน นับจนถึงเดือนกรกฎาคม โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้านความมั่นคง และการเมืองในพื้นที่
...
อียิปต์ยังลังเลไม่กล้าเปิดด่าน
อียิปต์มีผู้อพยพในประเทศจำนวนหลายล้านคนแล้ว และพวกเขารู้สึกไม่สบายใจกับความเป็นไปได้ที่ว่าชาวปาเลสไตน์หลายแสนคนอาจข้ามเข้าไปในดินแดนของพวกเขา
ประธานาธิบดี อับเดล ฟิตตาห์ อัล-ซีซี แห่งอียิปต์ ระบุเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ประเทศของเขากำลังพยายามช่วยชาวกาซา ภายใต้ขีดจำกัดต่างๆ “แน่นอนเราเห็นใจ แต่ก็ระมัดระวัง ในขณะที่เราเห็นใจ เราก็ต้องใช้สติเพื่อให้บรรลุสันติภาพ และความปลอดภัย ในรูปแบบที่ไม่สร้างความเสียหายแก่เรามากนัก”
หลายฝ่ายก็ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดเปลี่ยนชาวกาซาให้กลายเป็นผู้ลี้ภัยอีกครั้ง ด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานออกจากกาซา เพราะอย่างที่ระบุข้างต้นว่าชาวกาซาส่วนใหญ่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ลี้ภัยโดยสหประชาชาติอยู่แล้ว
ในขณะที่อียิปต์เรียกร้องให้อิสราเอลยอมให้ขนส่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านด่านราฟาห์ แต่พวกเขายังไม่ตอบรับการเรียกร้องจากสหรัฐฯ ที่ต้องการให้สร้างเส้นทางปลอดภัยสำหรับพลเรือนเข้าสู่ดินแดนของพวกเขา.
ผู้เขียน : ทิตชนม์ สว่างศรี
ที่มา : cnn, cfr
...