สายการบินชั้นนำทั่วโลกยกเลิกเที่ยวบินไปกรุงเทลอาวีฟ เมืองหลวงอิสราเอล หลังการสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสทวีความรุนแรงมากขึ้น สำหรับสายการบินที่ยังให้บริการปกติ ทางการอิสราเอลแนะเติมน้ำมันเพิ่มเติม 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2566 สายการบินชั้นนำทั่วโลกหลายสายระงับเที่ยวบิน หรือลดจำนวนเที่ยวบินที่จะเดินทางไปยังกรุงเทลอาวีฟ เมืองหลวงของประเทศอิสราเอล หลังสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสทวีความรุนแรงมากขึ้น ในขณะที่หน่วยงานด้านการบินของอิสราเอลแนะนำสายการบินต่างๆ ที่ยังคงให้บริการปกติ ควรเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มเติม เนื่องจากคาดว่าจะเกิดความล่าช้าในการลงจอด

โดยมีเที่ยวบินประมาณครึ่งหนึ่งที่จะเดินทางไปยังสนามบินเบนกูเรียน ในกรุงเทลอาวีฟถูกยกเลิกเมื่อ 8 ต.ค.และมีเที่ยวบิน  1 ใน 3 ที่จะไปกรุงเทลอาวีฟ ถูกยกเลิก เมื่อ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา

รายงานระบุว่า สายการบิน อาทิ อเมริกันแอร์ไลน์ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เดลตาแอร์ของสหรัฐฯ แอร์แคนาดา ของแคนาดา แอร์ฟรานซ์ ของฝรั่งเศส เคแอลเอ็ม ของเนเธอร์แลนด์ ลุฟท์ฮันซา ของเยอรมนี และเอมิเรตส์ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต่างประกาศยกเลิกเที่ยวบินหรือลดจำนวนเที่ยวบินที่จะเดินทางไปยังกรุงเทลอาวีฟ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา

ด้านทางการรัสเซียมีคำสั่งห้ามเที่ยวบินที่จะออกเดินทางไปยังอิสราเอลในช่วงกลางคืน จนถึงก่อนเวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากสถานการณ์ในอิสราเอลยังมีความไม่แน่นอน 

ขณะที่หน่วยงานการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ สำนักงานด้านความปลอดภัยการบินของสหภาพยุโรป และหน่วยงานด้านการบินของอิสราเอล ต่างเรียกร้องให้สายการบินต่างๆ ใช้ความระมัดระวังเมื่อต้องบินเข้าไปในน่านฟ้าของประเทศอิสราเอล แต่ไม่มีคำเตือนหรือคำสั่งให้ยกเลิกเที่ยวบินแต่อย่างใด

...

หน่วยงานด้านการบินของอิสราเอลกล่าวว่า สายการบินที่ยังให้บริการตามปกติควรตรวจสอบข้อมูลด้านความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด และควรเปลี่ยนเส้นทางการจราจรทางอากาศบางเส้นทาง เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าในการลงจอด พร้อมทั้งแนะนำให้สายการบินเติมเชื้อเพลิงเพิ่มเติม เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน

นอกจากสายการบินฝั่งตะวันตกแล้ว สายการบินในเอเชียต่างก็ระงับการบินไปยังกรุงเทลอาวีฟไว้ก่อน เช่น สายการบินของจีน และเกาหลีใต้ ขณะที่คาเธย์ แปซิฟิก ของฮ่องกง ประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปกรุงเทลอาวีฟ ระหว่างวันที่ 10-11 ต.ค. 

ติดตามข่าวต่างประเทศได้ที่ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา: Aljazeera