ผู้นำอิสราเอลประกาศการล้างแค้นครั้งใหญ่ หลังกองกำลังกลุ่มฮามาสบุกจู่โจมอิสราเอลแบบไม่คาดคิด ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันทั้งสองฝ่ายเกือบ 500 ศพ

ผู้นำอิสราเอลประกาศการล้างแค้นครั้งใหญ่ หลังมือปืนจากกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ใช้กำลังบุกจู่โจมไปทั่วเมืองต่างๆ ของอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ สังหารชาวอิสราเอลอย่างน้อย 250 ศพ และหลบหนีพร้อมตัวประกันหลายสิบคน ซึ่งนับเป็นวันที่นองเลือดที่สุดในอิสราเอล นับตั้งแต่สงครามยมคิปปูร์เมื่อ 50 ปีที่แล้ว

ผลการโจมตีตอบโต้จากอิสราเอล ยังส่งผลให้ประชาชนในเขตฉนวนกาซา เสียชีวิตมากกว่า 230 ศพ ขณะที่การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปในช่วงคืนที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอล ระบุว่า การต่อสู้ด้วยปืนดำเนินไปอย่างดุเดือดระหว่างกองกำลังอิสราเอลกับนักรบฮามาสหลายร้อยคนในพื้นที่อย่างน้อย 22 แห่งของอิสราเอล รวมถึงพื้นที่อย่างน้อยสองแห่งที่มือปืนจับตัวประกัน

นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอลกล่าวว่า "เราจะแก้แค้นอย่างยิ่งใหญ่สำหรับวันที่เลวร้ายนี้" 

"กลุ่มฮามาสทำสงครามที่โหดร้ายและชั่วร้าย เราจะชนะสงครามครั้งนี้ แต่ราคาก็หนักเกินกว่าจะแบกรับได้" เขากล่าวต่อว่า "กลุ่มฮามาสต้องการสังหารพวกเราทุกคน นี่คือศัตรูที่สังหารแม่และเด็กในบ้าน ศัตรูที่ลักพาตัวคนชรา เด็ก และเด็กสาววัยรุ่น" ด้านนายอิสมาอิล ฮานีเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส กล่าวว่าการโจมตีที่ได้เริ่มขึ้นในฉนวนกาซา จะลุกลามไปยังเขตเวสต์แบงก์และนครเยรูซาเลม

ภาพที่ปรากฏตามสื่อหลายแห่ง พบศพพลเรือนอิสราเอลตามถนนสายต่างๆ ในเมืองสเดโรต์ ทางตอนใต้ของอิสราเอล ใกล้เขตฉนวนกาซา ชาวอิสราเอลที่หวาดกลัวจำเป็นต้องหลบภัยอยู่ในสถานที่ปลอดภัย 

โดยเมื่อเวลา 01.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น กองทหารอิสราเอลยังคงปะทะกับนักรบฮามาสในพื้นที่บางส่วนของทางตอนใต้ของอิสราเอล ในการบรรยายสรุปทางโซเชียลมีเดีย โฆษกกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า สถานการณ์ยังไม่อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างสมบูรณ์

...

สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงได้อนุมัติขั้นตอนต่างๆ ในการทำลายความสามารถทางทหารและรัฐบาลของกลุ่มฮามาส รวมถึงการตัดไฟฟ้าและเชื้อเพลิง และการนำเข้าสินค้าเข้าสู่เขตฉนวนกาซา

ส่วนในเขตฉนวนกาซา ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมากถูกนำส่งไปยังโรงพยาบาลที่มีสภาพแออัดยัดเยียด เนื่องจากขาดแคลนเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ในการรักษา กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 232 ศพ และบาดเจ็บอย่างน้อย 1,700 ราย

ส่วนในหลายประเทศในตะวันออกกลาง ได้มีการชุมนุมเพื่อสนับสนุนกลุ่มฮามาส โดยมีการจุดไฟเผาธงชาติอิสราเอลและสหรัฐฯ และผู้เดินขบวนในอิรัก เลบานอน ซีเรีย และเยเมน ได้โบกธงปาเลสไตน์ ขณะที่การโจมตีของกลุ่มฮามาสได้รับการยกย่องอย่างเปิดเผยจากอิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ 

ฮามาสกล่าวว่า ได้ยิงจรวด 150 ลูก ใส่กรุงเทลอาวีฟในช่วงเย็นวันเสาร์ เพื่อตอบโต้การโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ที่ทำลายตึกสูงที่มีอพาร์ตเมนต์มากกว่า 100 ห้อง

ซาเลห์ อัล-อารูรี รองหัวหน้ากลุ่มฮามาส กล่าวกับสำนักข่าวอัลจาซีราว่า กลุ่มได้จับเชลยชาวอิสราเอลจำนวนมาก รวมถึงเจ้าหน้าที่อาวุโส เขากล่าวว่า ฮามาสมีเชลยมากพอที่จะทำให้อิสราเอลปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์ทั้งหมดในคุกของตน

กลุ่มฮามาส ซึ่งสนับสนุนการทำลายล้างอิสราเอล กล่าวว่า การโจมตีดังกล่าว เป็นผลมาจากการที่อิสราเอลยกระดับการโจมตีต่อชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ นครเยรูซาเลม และต่อชาวปาเลสไตน์ในเรือนจำของอิสราเอล

นายโมฮัมหมัด เดอิฟ ผู้บัญชาการทหารของกลุ่มฮามาส กล่าวว่า "นี่เป็นวันแห่งการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพื่อยุติการยึดครองครั้งสุดท้ายบนโลก" และเรียกร้องให้ชาวปาเลสไตน์ในทุกที่ออกมาร่วมต่อสู้

ทั้งนี้ เขตฉนวนกาซาได้รับความเสียหายจากสงคราม 4 ครั้ง และการปะทะกันนับไม่ถ้วนระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอล นับตั้งแต่กลุ่มติดอาวุธเข้าควบคุมพื้นที่ดังกล่าวในปี 2550 และการที่อิสราเอลไม่ระวังตัวถือเป็นความล้มเหลวด้านข่าวกรองที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ สร้างความตื่นตระหนกให้กับอิสราเอลที่มักอวดอ้างถึงการแทรกซึมและการเฝ้าติดตามกลุ่มติดอาวุธอย่างเข้มข้น.

ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign