รัสเซียกล่าวหา ยูเครนยิงระเบิดคลัสเตอร์บอมบ์ โจมตีหมู่บ้านริมชายแดน ขณะที่กองทัพยูเครนสามารถสกัดโดรนรัสเซียตกไปอีก 29 ลำ ทางการเมืองคาร์คิฟมีแผนสร้างโรงเรียนใต้ดินแห่งแรกในประเทศเพื่อให้เด็กๆได้เรียนหนังสืออย่างปลอดภัย
สำนักข่าวต่างประเทศวันที่ 3 ต.ค. 2566 รายงาน นายอเล็กซานเดอร์ โบโกมาซ ผู้ว่าการแคว้นเบรียนสก์ ของรัสเซีย กล่าววันนี้ว่า ยูเครนได้ยิงระเบิดลูกปราย ที่เรียกว่า คลัสเตอร์บอมบ์ (Cluster Bomb) ซึ่งเป็นอาวุธต้องห้ามในมากกว่า 100 ประเทศ มาโจมตีหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองคลิโมโว ใกล้ชายแดนรัสเซีย ส่งผลให้บ้านหลายหลังได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวหาดังกล่าวของรัสเซียยังไม่ได้รับการตรวจสอบว่าเป็นจริงหรือไม่ ในขณะที่กฎหมายระหว่างประเทศได้มีข้อห้ามใช้คลัสเตอร์บอมบ์ หรือระเบิดลูกปราย โจมตีเขตที่อยู่อาศัยของประชาชน
ก่อนหน้านี้ ยูเครนได้รับคลัสเตอร์บอมบ์จากสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยยูเครนเคยให้คำมั่นสัญญาว่า ระเบิดคลัสเตอร์บอมบ์จะถูกนำใช้โจมตีเฉพาะกองทัพของศัตรูเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ทางการยูเครนแถลงวันนี้ว่า เมื่อช่วงค่ำคืนของวันที่ 2 ต.ค. 2566 กองทัพอากาศยูเครนได้ทำลายอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนของรัสเซีย 29 ลำ จากทั้งหมด 31 ลำ และขีปนาวุธร่อนอีก 1 ลูก ที่ทางรัสเซียส่งมาโจมตีแคว้นมิโคลาเยฟ และแคว้นดนีโปรของยูเครน
การโจมตีที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา กินเวลานานกว่าสามชั่วโมง โดยนายเซอร์ฮี ลีซัค ผู้ว่าการเมืองดนีโปร กล่าวว่า เศษซากจากโดรนที่ถูกทำลายได้ตกลงมาในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองดนีโปร ทำให้เกิดเพลิงไหม้ที่อาคารแห่งหนึ่ง และโรงงานหลายแห่งในเมืองอุตสาหกรรมปัฟโลห์ราดก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน
...
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ยูเครนวางแผนก่อสร้างโรงเรียนใต้ดินแห่งแรกของประเทศในเมืองคาร์คิฟ (Kharkiv) ทางภาคตะวันออกของประเทศ เพื่อปกป้องนักเรียนจากการถูกรัสเซียโจมตีทางอากาศ
รายงานระบุว่า เมืองคาร์คิฟ เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครน และอยู่ห่างจากชายแดนรัสเซียไม่ถึง 35 กิโลเมตร ทำให้พื้นที่ต่างๆ ในเมืองตกเป็นเป้าการโจมตีทางอากาศจากรัสเซียเกือบทุกวัน และการโจมตีหลายครั้งก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถหาที่หลบภัยได้ทัน
นายอิฮอร์ เทเรคอฟ นายกเทศมนตรีเมืองคาร์คิฟ กล่าวว่า ทางเมืองกำลังวางแผนสร้างโรงเรียนใต้ดินแห่งแรกของยูเครน เพื่อจะทำให้เด็กๆได้เรียนหนังสือในชั้นเรียน แม้จะถูกโจมตีด้วยมิสไซล์ อย่างไรก็ดี นายเทเรคอฟไม่ได้ให้รายละเอียดว่าโรงเรียนแห่งนี้จะเริ่มเปิดการเรียนการสอนเมื่อใด
ที่ผ่านมา โรงเรียนของยูเครนหลายแห่งที่อยู่ในพื้นที่สงคราม ได้ย้ายการเรียนการสอนมาอยู่ในรูปแบบออนไลน์ นับตั้งแต่ความรุนแรงปะทุขึ้น แต่เมืองคาร์คิฟกลับเลือกใช้สถานีรถไฟใต้ดินเป็นห้องเรียนประมาณ 60 ห้อง กระจายทั่วเมือง เพื่อให้เด็กเตรียมพร้อมเริ่มต้นการเรียนภาคการศึกษาใหม่ที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา