• ภารกิจ ‘OSIRIS-REx’ ของนาซาในการส่งยานอวกาศเดินทางไป-กลับ 1.9 พันล้านกิโลเมตร เพื่อเก็บตัวอย่างหินจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู ประสบความสำเร็จด้วยดี
  • นาซาได้ทุ่มเทกับภารกิจ ‘OSIRIS-REx’ ที่ใช้เวลายาวนานนับ 7 ปี ในการส่งยานอวกาศไปยังดาวเคราะห์น้อยเบนนู เพื่อเก็บตัวอย่างหินกลับมายังโลกเพื่อทำการวิเคราะห์ด้วยวัตถุประสงค์อะไร?
  • ดาวเคราะห์น้อยเบนนู อายุ 4.5 พันล้านปี ถูกจัดให้เป็นดาวเคราะห์น้อยอันตรายที่สุดในระบบสุริยะ เพราะจากการคาดการณ์ของนักวิทยาศาสตร์พบว่า ‘เบนนู’ มีโอกาสพุ่งชนโลกในอีก 100 กว่าปีข้างหน้า แม้ความเสี่ยงจะเพียงเล็กน้อยก็ตาม

11 ตุลาคม 2023 เป็นกำหนดวันที่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) จะมีการแถลงข่าวใหญ่ เพื่อเปิดเผยผลการตรวจสอบวิเคราะห์ ‘ตัวอย่างฝุ่น’ ที่เก็บมาจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู หนึ่งในดาวเคราะห์น้อยอันตรายที่สุดดวงหนึ่งในระบบสุริยะ หลังจากแคปซูลพร้อมตัวอย่างฝุ่นจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู กลับสู่โลก เมื่อ 24 กันยายน ที่ผ่านมา

ภารกิจสำคัญครั้งนี้ของนาซา ชื่อว่า ภารกิจ ‘OSIRIS-REx’ (โอไซริส-เร็กซ์) นับเป็นภารกิจครั้งแรกในประวัติศาสตร์การสำรวจอวกาศของนาซาในการส่งยานอวกาศไร้คนขับเดินทางรอนแรมไปเก็บตัวอย่างหินและฝุ่นบนดาวเคราะห์น้อยที่อยู่ไกลแสนไกล และนำมันกลับมายังโลก

แน่นอนว่าคำถามที่พวกเราอยากรู้ก็คือ ภารกิจ ‘OSIRIS-REx’ ของนาซาที่ส่งยานอวกาศไร้คนขับเดินทางไปยังดาวเคราะห์น้อยเบนนู เป็นระยะทางไป-กลับ ร่วม 1,900 ล้านกิโลเมตร และภารกิจนี้ใช้เวลายาวนานรวมแล้วถึง 7 ปี มีความสำคัญอย่างไร?

ภาพวาดยานอวกาศในภารกิจ 'OSIRIS-REx'
ภาพวาดยานอวกาศในภารกิจ 'OSIRIS-REx'

...

ภารกิจ ‘OSIRIS-REx’ ของนาซา

ภารกิจส่งยานอวกาศไปเก็บตัวอย่างหินจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู อายุ 4,500 ล้านปี มีชื่อเต็มว่า 'The Origins, Spectral Interpretation, Resource Identification, Security-Regolith Explorer' หรือเรียกชื่อย่อว่า 'OSIRIS-REx' 

นาซาได้ติดตั้งอุปกรณ์สำคัญๆ หลายอย่างบนยานอวกาศโอไซริส-เร็กซ์ ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายรูปหลายตัว เพื่อใช้ในการเก็บภาพสำคัญๆ ในขณะที่ยาน OSIRIS-REx ปฏิบัติภารกิจเก็บตัวอย่างหินและฝุ่นจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู

นอกจากนั้นยังได้ติดตั้งอุปกรณ์ในการทำแผนที่สร้างแบบจำลองสามมิติ หรือ 3D maps เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์บนพื้นโลกสร้างแบบจำลองสามมิติจากตัวอย่างภาพถ่ายดาวเคราะห์น้อยเบนนู เพื่อหาจุดที่เหมาะสมในการลงจอดของยานอวกาศ รวมทั้งยังติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ แผนที่องค์ประกอบแร่และเคมี และการดูด้วยเอกซเรย์และแสงอินฟราเรด

นาซาติดตามภารกิจ 'OSIRIS-REx' ที่ยาวนานนับ 7 ปี

- 8 ก.ย. 2016 นาซาได้ปล่อยจรวดนำยานโอไซริส-เร็กซ์จากรัฐฟลอริดาขึ้นสู่ห้วงอวกาศ

- ก.ย. 2017 ยานอวกาศ 'OSIRIS-REx' ได้รับความช่วยเหลือจากแรงโน้มถ่วงของโลก เพื่อขับเคลื่อนด้วยตัวเองในการเดินทางไกลไปยังดาวเคราะห์น้อยเบนนูที่อยู่ห่างจากโลก 200 ล้านไมล์

- 3 ธ.ค. 2018 ยานโอไซริส-เร็กซ์เดินทางไปถึงดาวเคราะห์น้อยเบนนู

- ต.ค. 2020 สองปีต่อมา ยานโอไซริส-เร็กซ์ค่อยๆ ร่อนลงจอดบนดาวเคราะห์น้อยเบนนู โดยมีขาสำหรับยึดเกาะซึ่งติดอยู่ปลายแท่งโลหะที่ยื่นออกไปยาว 3 เมตร และทำการเก็บตัวอย่างหินจากดาวเคราะห์น้อย

- พ.ค. 2021 ยานโอไซริส พร้อมแคปซูลบรรจุตัวอย่างฝุ่นหินจากดาวเคราะห์น้อยเดินทางกลับสู่โลก

- 24 ก.ย. 2023 แคปซูลเก็บตัวอย่างหินและฝุ่นจากดาวเคราะห์น้อยเบนนูได้แยกตัวจากยานโอไซริส-เร็กซ์ โดยแคปซูลซึ่งได้รับการติดเกราะป้องกันความร้อน ได้พุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกด้วยความเร็วมากกว่ากระสุนปืนไรเฟิล 15 เท่า และลงสู่พื้นโลกอย่างปลอดภัยด้วยร่มชูชีพ บริเวณทะเลทรายในรัฐยูทาห์ ทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกาเมื่อเวลา 08.52 น. ตามเวลาท้องถิ่น

‘ผมร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กขณะนั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ เมื่อได้ยินว่าร่มชูชีพกางออกแล้ว เพื่อนำแคปซูลลงสู่พื้นโลกอย่างนุ่มนวล มันเป็นช่วงเวลาแห่งความตื้นตันสำหรับผม เพราะนับเป็นความสำเร็จที่น่าประหลาดใจ’ ศาสตราจารย์ ดันเต ลอเร็ตตา หัวหน้าทีมวิจัยของภารกิจ OSIRIS-REx กล่าวด้วยความรู้สึกตื้นตันเมื่อเห็นภารกิจครั้งนี้ที่ยาวนานถึง 7 ปี ประสบความสำเร็จด้วยดี

จากนั้น นักวิทยาศาสตร์ของนาซาได้เข้าไปเก็บกู้และนำแคปซูลดังกล่าว ซึ่งถือเป็น ‘กล่องสมบัติล้ำค่าทางวิทยาศาสตร์’ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังศูนย์อวกาศจอห์นสันของนาซา (NASA’s Johnson Space Center) ที่เมืองฮิวส์ตัน รัฐเทกซัส เพื่อเปิดแคปซูล

...

ดาวเคราะห์น้อยเบนนู
ดาวเคราะห์น้อยเบนนู

‘เบนนู’ หนึ่งในดาวเคราะห์น้อยอันตรายที่สุดในระบบสุริยะ

ดาวเคราะห์น้อย Bennu ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1999 จัดเป็นดาวเคราะห์น้อยขนาดเล็กเท่าภูเขา มีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 500 เมตร และมีอายุกว่า 4,500 ล้านปี เดิมนักวิทยาศาสตร์ตั้งชื่อให้ว่าดาวเคราะห์น้อย ‘1999 RQ36’ 

นักดาราศาสตร์จัดดาวเคราะห์น้อยเบนนูให้เป็น ‘near-Earth object’ (วัตถุใกล้โลก) ซึ่งเป็นดาวเคราะห์น้อยหรือดาวหางที่มีโอกาสโคจรเข้าใกล้โลกในระยะ 45 ล้านกิโลเมตร โดยวัตถุจำพวกนี้ยังไม่จัดว่าเป็นวัตถุอันตราย เพืยงแต่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ

แต่ด้วยความที่ ดาวเคราะห์น้อยเบนนู มีวงโคจรที่ขยับเข้ามาใกล้โลกมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะโคจรผ่านโลกทุกๆ 6 ปี จึงทำให้ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ถูกจัดให้เป็นดาวเคราะห์น้อยที่มีโอกาสมากที่สุดที่จะชนโลกใน 100 กว่าปีข้างหน้า

และจากการคำนวณของเหล่านักวิทยาศาสตร์ได้คาดประมาณว่า ดาวเคราะห์น้อยเบนนู มีโอกาสเล็กน้อย ที่จะชนโลกในวันที่ 24 ก.ย. 2182

...

แคปซูลเก็บตัวอย่างหินจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู กลับมายังโลก โดยถูกปล่อยให้ลงบริเวณทะเลทราย ในรัฐยูทาห์ ทางตะวันตกของสหรัฐฯเมื่อ 24 ก.ย.2566
แคปซูลเก็บตัวอย่างหินจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู กลับมายังโลก โดยถูกปล่อยให้ลงบริเวณทะเลทราย ในรัฐยูทาห์ ทางตะวันตกของสหรัฐฯเมื่อ 24 ก.ย.2566

หวังไขความลับต้นกำเนิดของชีวิตในระบบสุริยะ

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าตัวอย่างหินและฝุ่นที่เก็บมาจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู จะสามารถช่วยไขคำตอบสำคัญได้ว่า มนุษย์เรามาจากไหน? โดยศาสตราจารย์ดันเต ลอเร็ตตา หัวหน้าทีมวิจัยภารกิจ กล่าวกับบีบีซีว่า เมื่อเราได้ตัวอย่างฝุ่นหินขนาด 250 กรัม จากดาวเคราะห์น้อยกลับมายังโลก เราจะได้เห็นวัตถุที่กำเนิดขึ้นก่อนจะมีโลกของเรา หรืออาจดำรงอยู่ก่อนการกำเนิดของระบบสุริยะเสียอีก 

...

นักวิทยาศาสตร์ยังเชื่อว่า ภายใน 10 ล้านปีของการก่อตัวระบบสุริยะ องค์ประกอบทางเคมีและแร่ธาตุบนดาวเคราะห์น้อยเบนนูได้ก่อตัวขึ้นแล้ว

โดยจากการที่นักวิทยาศาสตร์ใช้กล้องโทรทรรศน์สังเกตดาวเคราะห์น้อยเบนนู พบว่ามีแร่ธาตุคาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลัก ซึ่งคาร์บอนอาจมีบทบาทสำคัญในการก่อกำเนิดของสิ่งมีชีวิตบนโลก ด้วยเหตุนี้ ภารกิจ นำตัวอย่างหินและฝุ่นของดาวเคราะห์น้อยเบนนูมาตรวจสอบ จึงทำให้นักวิทยาศาสตร์ได้รู้เกี่ยวกับองค์ประกอบของแร่ธาตุเหล่านี้บนดาวเคราะห์น้อยเบนนู

นอกจากนั้น ภารกิจ OSIRIS-REx ยังอาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ได้มากขึ้นถึงความเสี่ยงระยะยาวที่ดาวเคราะห์น้อยที่จัดเป็นวัตถุใกล้โลก อย่างเช่น เบนนู จะพุ่งชนโลกของเรา

ยาน OSIRIS-REx ปฏิบัติการเก็บตัวอย่างหินจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู ในปี 2020
ยาน OSIRIS-REx ปฏิบัติการเก็บตัวอย่างหินจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู ในปี 2020

ตัวอย่างหินจากดาวเคราะห์น้อยอันตรายหรือไม่?

ความกังวลเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับภารกิจเก็บตัวอย่างหินจากดาวเคราะห์น้อยนั้น ก็คือจะเป็นอันตรายหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ แฮโรลด์ คอนนอลลี ซึ่งทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัย ROWAN และเป็นนักวิทยาศาสตร์ ผู้ร่วมตรวจสอบตัวอย่างหินในภารกิจ OSIRIS-REx กล่าวกับอัลจาซีราว่า ตัวอย่างที่เก็บมาจากดาวเคราะห์น้อยเบนนูไม่มีการปนเปื้อนเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย

แฮโรลด์ คอนนอลลี ได้เปรียบเทียบภารกิจนี้กับการเก็บตัวอย่างหินบนดวงจันทร์ ในภารกิจ Apollo11 (อพอลโล 11) ว่าตอนนั้นก็เกิดความกังวลเกี่ยวกับอันตรายของตัวอย่างหินที่เก็บมาจากดวงจันทร์เช่นกัน และหลังจากใช้สัตว์ทดลองทดสอบแร่ธาตุเหล่านั้นว่าจะเป็นอันตรายหรือไม่ ก็พบว่าสัตว์ทดลองปลอดภัยดี 

‘ไม่มีเชื้อโรคขนาดเล็กเติบโต และนาซาได้ตัดสินใจว่ามีความปลอดภัยแล้วจึงยุติการทดสอบอันตรายของแร่ธาตุจากดวงจันทร์ ที่อาจเกิดกับสัตว์ทดลอง รวมทั้งยังหยุดกักกันนักบินอวกาศ รวมถึงทีมเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคในห้องแล็บ ซึ่งทำงานกับตัวอย่างที่เก็บมาจากดวงจันทร์ในภารกิจ Apollo 14 ในปี 1971

นาซาแจ้งผ่าน X หรือทวิตเตอร์เดิม พบฝุ่นสีดำและผงขนาดเท่าทราย ภายในกระบอกบรรจุตัวอย่างหินที่เก็บมาจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู
นาซาแจ้งผ่าน X หรือทวิตเตอร์เดิม พบฝุ่นสีดำและผงขนาดเท่าทราย ภายในกระบอกบรรจุตัวอย่างหินที่เก็บมาจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู

ไขปมฝุ่นดำปริศนาจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู?

หลังจากทีมนักวิทยาศาสตร์ของนาซาซึ่งสวมชุดป้องกันเชื้อโรค ได้ทำการเปิดฝาแคปซูลเก็บตัวอย่างหินจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู ที่ห้องปฏิบัติการปลอดเชื้อ ที่ศูนย์อวกาศจอห์นสันของนาซาเมื่อ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา และพบว่ามีฝุ่นสีดำและผงขนาดเท่าทรายอยู่ข้างในกระบอกสีเงินของแคปซูลนั้น ได้ทำให้ชาวโลกกังวลไม่น้อยว่า ฝุ่นสีดำปริศนาจากดาวเคราะห์น้อยเบนนูจะเป็นอันตรายหรือไม่

ในขณะที่นาซาระบุว่า ฝุ่นดำปริศนาเหล่านี้จะถูกนำไปวิเคราะห์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อตรวจสอบว่ามันคืออะไร 

อย่างไรก็ตาม ดร.แบรด ทัคเกอร์ นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ประจำมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียในกรุงแคนเบอร์รา แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า ฝุ่นละเอียดเหล่านี้ดูเหมือนมาจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู เพราะฝุ่นดาวเคราะห์น้อยสีดำมาก และมีความละเอียด อีกทั้งเมื่อตอนยาน OSIRIS-REx ปฏิบัติการเก็บตัวอย่างหินและฝุ่นนั้น ส่วนมากแล้ว ฝากระบอกไม่เปิด

ในขณะที่นาซาออกแถลงการณ์ยอมรับสั้นๆ เมื่อเดือนตุลาคม 2020 ว่า มีวัตถุที่เก็บจากผิวดาวเคราะห์น้อยเบนนูรั่วออกมา เพราะมีหินหนึ่งก้อนติดในเครื่อง

ด้านศาสตราจารย์เทรเวอร์ ไอร์แลนด์ นักธรณีเคมีประจำมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ เห็นด้วยกับความเห็นที่ว่า ฝุ่นดำปริศนาที่พบในกระบอกของแคปซูลนั้นลอยฟุ้งขึ้นมาระหว่างการเก็บตัวอย่างหิน

‘ภายใต้แรงโน้มถ่วงน้อยนิด ไม่มีอะไรหยุดยั้งฝุ่นที่จะลอยฟุ้งไปทุกหนทุกแห่ง และบางทีฝุ่นก็ติดมากับยานอวกาศด้วย’

ผู้เขียน : อรัญญา ศรีจันทรนิตย์

ที่มา : AljazeeraBBCDailymail