กองทัพเรือแคนาดา และเรือหลวงออตตาวา กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง เพื่อสืบต่อมิตรภาพกับกองทัพเรือไทย และเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
เมื่อ 29 ก.ย. 2566 สถานเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย รายงาน เรือหลวงของประเทศแคนาดาที่ชื่อว่า 'ออตตาวา' (Ottawa) จะจอดเทียบท่าที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 29 กันยายน - 2 ตุลาคม 2566 อันเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ที่มีอย่างต่อเนื่อง
ระหว่างการเยือนท่าเรือจุกเสม็ด อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กองทัพเรือแคนาดา (Royal Canadian Navy หรือ RCN) จะได้พบกับกองทัพเรือไทยและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและมิตรภาพระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งรวมถึง งานเลี้ยงรับรองของเรือ การนำชมเรือ และการทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน
เรือหลวงออตตาวา และเฮลิคอปเตอร์ประจำการบนเรือ รุ่นไซโคลนซีเอช-148 (CH-148 Cyclone) ที่พร้อมปฏิบัติการ มีทหารเรือ ทหารบก และนักบิน ซึ่งล้วนได้รับการฝึกฝนขั้นสูงและมีความเป็นมืออาชีพ ประจำเรือ รวม 250 นาย
...
เรือหลวงออตตาวา นี้เป็นหนึ่งในเรือฟริเกต ชั้นฮาลิแฟ็กซ์ ของกองทัพเรือแคนาดาที่มีจำนวนทั้งหมด 12 ลำ เรือลำนี้ได้ติดตั้งระบบอาวุธและเซนเซอร์สำหรับการปราบเรือดำน้ำ การรบผิวน้ำ และการต่อต้านอากาศยาน
เรือหลวงออตตาวา ออกปฏิบัติการตั้งแต่เดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา และก่อนหน้านี้ ได้เยือนญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ ตลอดการปฏิบัติการแสดงกำลังในพื้นที่ส่วนหน้าของอินโด-แปซิฟิก โดยเรือหลวงออตตาวา จะได้ร่วมฝึก ร่วมวางกำลัง และร่วมปฏิบัติการทางเรือของกองกำลังนานาชาติกับชาติพันธมิตร กิจกรรมดังกล่าวข้างต้นได้ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างพันธมิตรในระดับกองทัพ
กำลังพลของกองทัพเรือแคนาดาในภูมิภาคยังรวมถึงเรือลำที่สอง ได้แก่ 'เรือหลวงแวนคูเวอร์' ซึ่งได้สานต่อความสำเร็จของ 'เรือหลวงมอนทรีอัล' ที่เพิ่งจะเสร็จสิ้นปฏิบัติการในภูมิภาค เรือหลวงทั้งสองลำได้รับการสนับสนุนจากเรือส่งกำลังบำรุง (Naval Replenishment Unit Motor Vessel) แอสเตอริกซ์ (Asterix) และจะอยู่ในภูมิภาคจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2566 ก่อนจะเดินทางกลับฐานหลักในเดือนธันวาคม เรือหลวงลำนี้เป็นเรือลำที่ 3 ของกองทัพเรือแคนาดาที่เดินทางเยือนประเทศไทยในรอบ 5 ปี
การมาเยือนครั้งก่อนของเรือหลวงออตตาวา เมื่อเดือนกันยายน 2562 และการเยือนของเรือหลวงวินนิเพก เมื่อเดือนตุลาคม 2565 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแคนาดาในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในอินโด-แปซิฟิกที่ยังดำเนินต่อไป
ด้านความสัมพันธ์ทางการทหารและความมั่นคง ประเทศแคนาดาและประเทศไทยได้ร่วมมือกันตั้งแต่พ.ศ. 2528 โดยมีโครงการฝึกอบรมความร่วมมือทางการทหารที่แข็งขัน การฝึกอบรมมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มศักยภาพและการพัฒนาวิชาชีพ ซึ่งส่งเสริมความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกัน ประเด็นความมั่นคงหลักซึ่งเป็นประเด็นความสนใจร่วม ได้แก่ ความมั่นคงทางทะเล ภัยคุกคามต่อภูมิภาค และการอนุรักษ์เส้นทางสัญจรทางน้ำที่สำคัญ ในเดือนกรกฎาคม 2566
...
ผู้ฝึกสอนชาวแคนาดาได้จัดหลักสูตรฝึกอบรมความร่วมมือทางการทหารที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก โดยมีกองบัญชาการกองทัพไทย และสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เป็นเจ้าภาพ
ประเทศแคนาดาและประเทศไทยยังร่วมมือกันในการดำเนินโครงการด้านความมั่นคงที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของไทยและอาเซียน อาทิ วิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนและการจัดการพรมแดนของอาเซียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ประเทศไทยริเริ่มในวาระการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2562 อีกด้วย นอกจากนั้นแล้ว ประเทศแคนาดายังภาคภูมิใจที่ได้สนับสนุนความพยายามของอาเซียนในการพัฒนาแนวทางในระดับภูมิภาคเพื่อดำเนินการตามประเด็นสตรี สันติภาพ และความมั่นคง
“ผมภาคภูมิใจมากที่ได้นำเรือหลวง ออตตาวา กลับมาเยือนประเทศไทย ซึ่งนับเป็นเวลา 4 ปีหลังจากการเยือนครั้งที่แล้ว เพื่อสืบต่อมิตรภาพกับกองทัพเรือไทย เรือหลวงลำนี้เป็นหนึ่งในเรือสี่ลำของกองทัพเรือแคนาดาที่ปฏิบัติการในอินโด-แปซิฟิกในปีนี้ ในขณะที่เรายังปฏิบัติภารกิจอย่างแข็งขันในภูมิภาค และคงการแสดงกำลังเพื่อสนับสนุนสันติภาพและความมั่นคง” นาวาโท แซม แพทเชล (Sam Patchell) ผู้บัญชาการเรือหลวงออตตาวา
...
“ความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกไม่สามารถแยกออกจากประเด็นความมั่นคงของแคนาดาได้ เราจึงรู้สึกยินดียิ่งที่จะได้ต้อนรับเรือรบหลวงออตตาวา สู่ ประเทศไทย การมาเยือนประเทศไทยของเรือลำที่สามของแคนาดาในรอบห้าปี เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นเด่นชัดถึงสายสัมพันธ์ทวิภาคีด้านการทหารและความมั่นคงที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น กำลังทหารที่ต่อเนื่องเพื่อขับเคลื่อนเชิงบวกในภูมิภาค และความตระหนักในความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของการรักษาสันติภาพและความมั่นคงระดับภูมิภาคเพื่อรับประกันความมั่งคั่งของประชาชนของเรา” นายซานจีฟ เชาเดอรีย์ (Sanjeev Chowdhury) อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย
“กองทัพเรือแคนาดามีประวัติอันยาวนานในการออกปฏิบัติการทั่วโลก ทั้งในยามสงบและช่วงเวลาของความขัดแย้ง เรือหลวงออตตาวา มีความสามารถทางการทหารที่แข็งแกร่ง ที่จะนำมาใช้ในการปฏิบัติการร่วมกับกองทัพเรือพันธมิตร เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรนานาชาติและเสริมเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก กองทัพเรือแคนาดาได้ปฏิบัติการอย่างอิสระ และร่วมปฏิบัติการในภารกิจของพันธมิตรและหุ้นส่วนสอดรับไปกับนโยบายด้านความมั่นคงของแคนาดาที่ว่า 'เข็มแข็ง มั่นคง และเข้ามีส่วนร่วม' แคนาดามุ่งมั่นที่จะรักษากำลังทหารไว้ในภูมิภาค และการวางกำลังครั้งนี้จะช่วยเพิ่ม สร้างความหลากหลาย และรักษาประวัติด้านการทหารของแคนาดา เพื่อส่งเสริมให้อินโด-แปซิฟิกเสรี เปิดกว้าง และหลอมรวมคนทุกกลุ่ม” พันโท แพททริค มาสเตอร์สัน (Patrick Masterson) ผู้ช่วยทูตทหารแคนาดา ประจำประเทศไทย
*เกร็ดความรู้
ประเทศแคนาดาและประเทศไทยมีความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่มีพลวัตและร่วมมือ ซึ่งพัฒนาต่อเนื่องเรื่อยมา และได้รับการสนับสนุนจากการไหลเวียนของผู้คน การแลกเปลี่ยนความคิด และการค้าและเงินทุนที่เพิ่มมากขึ้นในโลกยุคโลกาภิวัตน์
...
ปัจจุบันประเทศไทยเป็นคู่ค้าอันดับ 2 จากอาเซียนของแคนาดา ในปี 2565 การค้าทวิภาคีระหว่างแคนาดาและไทยมีมูลค่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 6.4 พันล้านเหรียญแคนาดา การขยายความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนยังเป็นสิ่งที่ทั้งสองประเทศต้องการ โดยเฉพาะในบริบทของการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากภาวะโรคโควิดระบาด ความสัมพันธ์ทางวิชาการยังคงเป็นส่วนสำคัญในความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยมหาวิทยาลัยแคนาดาหลายแห่งมีข้อตกลงความร่วมมืออันยาวนานกับสถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัยของไทย
ในด้านความสัมพันธ์พหุภาคีนั้น ประเทศแคนาดาและประเทศไทยยังคงทำงานอย่างแข็งขันผ่านสหประชาชาติ ในประเด็นต่างๆ อาทิ การรักษาสันติภาพ สตรี สันติภาพ และความมั่นคง และความมั่นคงของภูมิภาค เป็นต้น ประเทศของเราทั้งสองยังได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในองค์กรระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ ได้แก่ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน การประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก หรือ เอเปก และองค์การการค้าโลก (WTO)
ที่มา : สถานเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย