ชาวอิรักจำนวนมากร่วมพิธีศพของผู้เสียชีวิตในเหตุเพลิงไหม้งานแต่งงานในเมืองการากอช ซึ่งทำให้มีผู้เคราะห์ร้ายมากกว่า 100 ราย ขณะตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยที่อาจต้องรับผิดชอบต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้แล้ว 14 คน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันพุธที่ 27 ก.ย. 2566 ชาวอิรักจำนวนมากออกมาร่วมพิธีศพผู้เสียชีวิตมากกว่า 40 ศพ ที่สุสานในเมืองการากอช ในจังหวัดนิเนเวห์ ทางเหนือของประเทศ บ้างก็ช่วยกันแห่โลงศพ ขณะที่บางคนถือรูปบุคคลอันเป็นที่รักผู้ล่วงลับมาร่วมพิธีด้วยความโศกสลด
โศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.00-22.45 น. เมื่อวันอังคารที่ 26 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่น มีแขกเหรื่อจำนวน 1,000-1,100 คนไปร่วมฉลองพิธีแต่งงานของบ่าวสาวคู่หนึ่งที่โถงจัดงานเลี้ยงในเมืองการากอช ก่อนจะเกิดไฟไหม้ระหว่างที่บ่าวสาวเต้นรำ และไฟก็ลุกลามอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงดำเนินการจับกุมผู้ที่อาจต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้แล้ว 14 คน ประกอบด้วย เจ้าของอาคาร, พนักงาน 10 คน และเจ้าหน้าที่ 3 คนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการดอกไม้ไฟ หลังผลการตรวจสอบพบว่าอาคารจัดเลี้ยงแห่งนี้ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย
ศูนย์อำนวยการป้องกันพลเรือนของอิรัก ระบุก่อนหน้านี้ว่า โถงจัดเลี้ยงแห่งนี้ถูกปูด้วยแผ่นฝ้าที่มีองค์ประกอบโลหะไวไฟสูง ซึ่งผิดกฎหมายในอิรัก และฝ้าดังกล่าวพังลงมาภายในไม่กี่นาทีหลังจากเกิดเพลิงไหม้ ฝ้าประเภทนี้ยังมีความเป็นพิษสูงเมื่อถูกเผาไหม้ด้วย
หลังเกิดเหตุ นายกรัฐมนตรี โมฮัมเหม็ด ชีอา อัล-ซูดานี ให้คำมั่นว่าจะตั้งคณะกรรมการสืบสวนเพื่อตรวจสอบอุบัติเหตุครั้งนี้โดยละเอียด เพื่อหาสาเหตุ และดูว่ามีจุดใดที่ถูกละเลยหรือไม่ เขายังสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบและยืนยันระบบความปลอดภัยของศูนย์การค้า, ร้านอาหาร, โถงจัดงาน และโรงแรมต่างๆ ด้วย
...
ด้านจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดในโศกนาฏกรรมครั้งนี้ยังไม่ชัดเจน โดยในช่วงเย็นวันพุธ นายอับดุล อาเมียร์ อัล-ชามมารี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอิรัก ระบุว่า ตอนนี้พบผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 94 ศพ แต่ก่อนหน้านี้ นายฮัสซัน อัล-อัลลัก รองผู้ว่าฯ จังหวัดนิเนเวห์ บอกกับรอยเตอร์สว่า มีผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้ว 113 ศพ
ส่วนผู้บาดเจ็บมีมากกว่า 150 ราย ส่วนใหญ่ถูกไฟไหม้ทั่วร่างกาย รองลงมาคือถูกไฟไหม้ราว 50-60% เจ้าหน้าที่ต้องส่งพวกเขาไปรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วจังหวัดนิเนเวห์ รวมถึงที่เมืองโมซูล ในแคว้นเคอร์ดิสถานที่อยู่ห่างออกไปเพียง 15 กม. ซึ่งกำลังประสบปัญหาขาดแคลนเจ้าหน้าที่, เครื่องมือแพทย์ และรถพยาบาลไม่เพียงพอ
นอกจากนั้นยังไม่มีการยืนยันชะตากรรมของคู่บ่าวสาวในเหตุการณ์นี้ บางรายงานระบุว่าทั้งคู่เสียชีวิต แต่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น อัล-ซูมาเรีย ทีวี (Alsumaria TV) เผยแพร่ภายชายคนหนึ่งในพิธีศพ และระบุว่าเป็นเจ้าบ่าวในงาน ซึ่ง บีบีซี ใช้ซอฟต์แวร์ยืนยันใบหน้า และเชื่อว่าชายคนนี้คือเจ้าบ่าวตัวจริง
เจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือนคนหนึ่งบอกกับ บีบีซี ด้วยว่าเจ้าบ่าวและเจ้าสาวรอดชีวิตทั้งคู่.
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc