- นักไวรัสวิทยาชื่อดังของจีนเตือน พบเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงถึง 20 ตัว ทำให้มีความเป็นไปได้ที่อาจมีเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ระบาดขึ้นในอนาคตอีก
- การวิจัยครั้งนี้เปรียบเสมือนเป็นดิกชันนารีของเชื้อโคโรนาไวรัส เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เตรียมพร้อมรับมือไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
- โควิด-19 ได้คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 24 ล้านคน แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีชาติใดในโลกที่กล้ารับประกันได้ว่า มีความพร้อมที่จะรับมือหากเกิดโรคระบาดเป็นวงกว้างในลักษณะเดียวกับโควิดขึ้นมาอีก
สือ เจิ้งลี่ ผู้อำนวยการศูนย์โรคติดต่ออุบัติใหม่ ร่วมกับทีมงาน จากสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นของจีนเผยแพร่รายงานในเดือนกรกฎาคมปีนี้ว่า จากการประเมินความเสี่ยงที่เชื้อไวรัสโคโรนา 40 สายพันธุ์ที่จะแพร่สู่คนพบว่า มี 20 สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงมาก ในจำนวนนี้มี 6 สายพันธุ์ก่อโรคที่มีคนติดเชื้อแล้ว และมีหลักฐานว่ามี 3 สายพันธุ์ก่อโรคที่ทำให้สัตว์ติดเชื้อ พร้อมเตือนว่า มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีโรคอุบัติใหม่ในอนาคต ซึ่งจะเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาอีกครั้ง
...
สือ เจิ้งลี่ นักไวรัสวิทยาชาวจีน วัย 59 ปีได้รับฉายาว่าแบทวูแมน เนื่องจากเธอและคณะวิจัยพบที่มาของเชื้อไวรัสโคโรนาโรคซาร์สว่าน่าจะมาจากค้างคาวในปี 2003 รวมทั้งในช่วงโรคโควิด-19 เริ่มระบาด โดยเธอได้ทำการศึกษาเรื่องไวรัสโคโรนามานานกว่า 20 ปีแล้ว สือระบุว่าการออกมาเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้เป็นเพราะต้องการเตือนทั่วโลก ว่าจะต้องเตรียมรับมือกับการระบาดของโรคประเภทเดียวกับโควิด-19 อีก เพราะหากเคยเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาแล้ว ก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดการระบาดได้อีกในอนาคต และการเตรียมพร้อมไว้ก่อนจะได้ไม่เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง อย่างที่เคยเกิดการระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นบทเรียนที่เจ็บปวดของคนทั่วโลกมาแล้ว
แม้ว่างานวิจัยชิ้นนี้จะตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ Emerging Microbes & Infections เป็นภาษาอังกฤษตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่งานวิจัยชิ้นนี้กลับมาได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในโลกโซเชียลมีเดียของจีนในเวลานี้ ซึ่งมาประจวบเหมาะกับที่ทางการจีนลดการให้ความสำคัญต่อโรคโควิด-19 ลง
ไม่ใช่แค่นักวิทยาศาสตร์ในจีนเท่านั้นที่แสดงความกังวลว่า อาจจะมีแนวโน้มที่จะเกิดโรคระบาดรุนแรงแบบโควิดขึ้นอีก เพราะในเวทีโลกอย่างเวทีย่อยการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่ผ่านมา ก็มีการหยิบยกประเด็นเรื่องของการเตรียมพร้อมรับมือกับโรคระบาดขึ้นมาหารือ โดยอดีตผู้นำนิวซีแลนด์ เฮเลน คลาร์ก ที่เป็นประธานร่วมคณะกรรมการอิสระเพื่อการเตรียมพร้อมและการรับมือโรคระบาด แสดงความเห็นว่าเธอรู้สึกผิดหวังที่แทบจะไม่เห็นความคืบหน้าจากการลงนามปฏิญญา 13 หน้า ที่รับรองโดยประเทศสมาชิก 193 ประเทศที่ผ่านมาแล้วหลายเดือน ทำให้เสียโอกาสหลายๆ อย่างไป เพราะหากโลกต้องเผชิญกับโรคระบาดอีก ไม่เพียงแค่ความเสียหายต่อระบบสาธารณสุขเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจมหาศาล และขัดขวางการเติบโตของประเทศกำลังพัฒนาอีกจำนวนมากด้วย
คลาร์กมองว่าการจะเตรียมพร้อมรับมือกับการระบาดของโรคเช่นนี้ต้องอาศัยความแข็งแกร่งในระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ เพื่อประสานความร่วมมือด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน การเข้าถึงและความเท่าเทียม รวมทั้งประสิทธิภาพด้านต่างๆ เพื่อให้ควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดให้ได้โดยเร็ว ลดความสูญเสียที่ไม่จำเป็นลงไป โดยใช้ความผิดพลาดจากการระบาดของโควิด-19 มาเป็นบทเรียนเพื่อไม่ให้ผิดพลาดซ้ำรอยเดิมอีก เพราะยังไงมนุษย์โลกยังต้องเจอกับโรคอุบัติใหม่ที่เกิดจากความแปรปรวนของสภาพอากาศตามมาอย่างแน่นอน เพียงแต่จะช้า เร็ว รุนแรงมาก หรือรุนแรงน้อยเท่านั้น.
ผู้เขียน : อาจุมมาโอปอล
ที่มา :SCMP, NDTV, insiderpaper
...
คลิกอ่านข่าว รายงานพิเศษ