- ลิเบียสุดวิปโยค ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งใหญ่ จากอิทธิพลของพายุแดเนียล ที่ทำให้เกิดฝนตกหนัก จนเขื่อนสองแห่งแตกเพราะรองรับปริมาณน้ำไม่ไหว
- ประชาชนในเมืองเดอร์นา ทางภาคตะวันออกของลิเบีย เผชิญมหันตภัยในพริบตา มวลน้ำมหาศาลไหลบ่าถาโถมจากเขื่อน 2 แห่งที่แตก ลงมาราวกับสึนามิถล่มจนอาคารบ้านเรือนพังพินาศ คาดว่ามีผู้เสียชีวิตทะลุหมื่นศพ และยังมีคนสูญหายหลายพันราย
- ทีมกู้ภัยเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต และร่างผู้ประสบภัยที่ถูกคลื่นซัดลงทะเล พบศพบางศพถูกคลื่นซัดไปเกยหาดที่อยู่ห่างไกลจากเมืองเดอร์นานับ 100 กม. ขณะที่เจ้าหน้าที่จากตุรกีที่มาช่วยเหลือเผยไม่เคยเห็นเหตุการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วมที่เลวร้ายเช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิต
ต้องถือเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมภัยพิบัติที่สร้างความเศร้าสลดหดหู่เป็นอย่างยิ่ง เมื่อลิเบีย ประเทศใหญ่อันดับ 4 ในทวีปแอฟริกาทางตอนเหนือ ต้องประสบภัยพิบัติสุดวิปโยค เกิดน้ำท่วมฉับพลันในเมืองเดอร์นา จากเหตุเขื่อน 2 แห่งแตกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา หลังเกิดฝนตกหนัก
เหตุวิปโยคครั้งนี้ ทำให้คาดว่ามีผู้เสียชีวิตในเมืองเดอร์นาอย่างน้อย 11,300 ศพ และยังมีผู้สูญหายอีกหลายพันคน ขณะที่ เมืองเดอร์นา ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พังพินาศย่อยยับ
คำถามที่เกิดขึ้น จากเหตุวิปโยคครั้งนี้ในลิเบีย ก็คือ ทำไมประชาชนในเมืองเดอร์นา จึงไม่สามารถอพยพหนีน้ำที่ทะลักหลังเขื่อน 2 แห่งแตกได้ทันเวลา จนทำให้คาดว่าอาจมีผู้เสียชีวิตมากมายถึง 20,000 ศพ
...
ฝนถล่มลิเบียจากอิทธิพลพายุแดเนียล
เหตุอุทกภัยในลิเบีย เกิดจากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง 3 วัน จากอิทธิพลของพายุแดเนียล โดยพายุลูกนี้ ได้ทำให้เกิดฝนตกหนักทางภาคเหนือและภาคตะวันออกของลิเบีย จนวัดปริมาณน้ำฝนได้สูงถึง 400 มิลลิเมตรภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งบางพื้นที่ฝนที่ตกลงมานั้น เท่ากับปริมาณน้ำฝนตลอดทั้งปีเลยทีเดียว
อีกทั้งโดยปกติแล้ว ฝนที่ตกในเมืองเดอร์นาตลอดเดือนกันยายน วัดปริมาณน้ำฝนได้แค่ประมาณ 1.5 มิลลิเมตรเท่านั้น
เขื่อนแตกสองแห่ง
จากการเปิดเผยของนาย Ahmed Madroud รองนายกเทศมนตรีเมืองเดอร์นา ระบุว่า เขื่อนสองแห่งที่แตกคราวนี้ เป็นเขื่อนสำคัญ ในแม่น้ำวาดี เดอร์นา โดยเส้นทางน้ำจะไหลลงสู่เมืองเดอร์นา ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
เขื่อนที่หนึ่ง ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2547 และไม่เคยได้รับการซ่อมบำรุงเลย ขณะที่ เขื่อนทั้งสองแห่งก็ไม่ใช่เขื่อนขนาดใหญ่ โดยเขื่อนแรกมีความสูงเพียง 70 เมตรเท่านั้น และเมื่อเขื่อนที่หนึ่งแตกแล้ว เขื่อนที่สองซึ่งกำลังต่อสู้กับสถานการณ์ไม่สามารถจะแบกรับปริมาณน้ำมหาศาลหลังฝนตกหนักได้ไหว ยังต้องมาเผชิญกับการถูกกระแทกด้วยกำแพงน้ำที่โหมกระหน่ำมาจากด้านหลังเขื่อนอีกแห่ง จึงทำให้เขื่อนที่สองแตก
มวลน้ำมหาศาลทะลักถล่มเมืองเดอร์นา
พลังน้ำยังแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นทวีคูณเนื่องจากความแตกต่างของระดับความสูงระหว่างเขื่อนที่หนึ่งและเขื่อนที่สอง จึงทำให้เมื่อเขื่อนที่สองแตกแล้ว มวลน้ำมหาศาลได้ไหลบ่าทะลัก มายังเมืองเดอร์นาอย่างรวดเร็ว เพื่อลงสู่ทะเล
...
บรรดาผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า เหตุการณ์เขื่อนสองแห่งใกล้เมืองเดอร์นาแตกในคราวนี้ ทำให้มวลน้ำมหาศาลราว 30 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเทียบเท่ากับสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิก จำนวนถึง 12,000 สระ ไหลทะลักสู่เมืองเดอร์นา
กระแสน้ำจากเขื่อนแรกที่แตก ได้ไหลลงมาเป็นระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร ก่อนลงสู่ทะเลที่เมืองเดอร์นา
...
ราวสึนามิถล่ม คาดตายกว่าหมื่น เหยื่อถูกน้ำพัดลงทะเล
ชาวเมืองเดอร์นา ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 100,000 คน ต้องประสบมหันตภัยเขื่อน 2 แห่งแตก กระแสน้ำไหลบ่าทะลักลงมารวดเร็วราวสึนามิถล่ม มีคลิปจากกล้องวงจรปิด แสดงให้นาทีสะเทือนขวัญ ถนนบางสายถูกมวลน้ำมหาศาลบ่าทะลักท่วมท้องถนนที่เงียบสงบ จนกลายเป็นจมอยู่ใต้บาดาล ภายในเวลา 25 วินาทีเท่านั้น รถยนต์หลายสิบคันที่กำลังแล่นอยู่บนถนนได้ถูกกระแสน้ำพัด ชนิดที่คนขับและคนในรถไม่ทันได้ตั้งตัว
มีผู้รอดชีวิตหลายคนเล่าด้วยความเสียใจ ขณะพยายามหนีน้ำที่ถาโถมราวสึนามิว่าเห็นผู้คนโดนกระแสน้ำพัดพาไปต่อหน้าต่อตา
จากตัวเลขอย่างเป็นทางการของรัฐบาลลิเบียที่ยืนยันผู้เสียชีวิตจนถึงวันที่ 15 กันยายน อยู่ที่ 3,000 ศพ ขณะที่สภาเสี้ยววงเดือนแดงในลิเบีย (หรือคือสภากาชาด) คาดว่ามีผู้เสียชีวิตราว 11,000 ศพ และนายกเทศมนตรีเมืองเดอร์นากล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุวิปโยคครั้งนี้อาจถึง 20,000 ศพ
โดยขณะนี้ยังมีผู้สูญหายอีกหลายพันคน และภารกิจของทางการลิเบีย และทีมกู้ภัยในขณะนี้ คือพยายามค้นหาร่างผู้ประสบภัยที่ถูกกระแสน้ำพัดลงทะเล โดยพบว่าคลื่นได้พัดร่างผู้เสียชีวิตบางรายไปเกยหาดที่อยู่ห่างไกลจากเมืองเดอร์นากว่า 100 กิโลเมตรเลยทีเดียว
...
เมืองเดอร์นาพินาศยับ
หลังเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งใหญ่ในเมืองเดอร์นา ทีมค้นหาได้พยายามช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ตามใต้ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนที่ถูกน้ำซัดถล่มจนพังเสียหาย โดยมีการใช้สุนัขตำรวจเข้าช่วย แต่ความหวังที่จะพบคนรอดชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้ลงน้อยลงไปเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้น
ขณะที่ทางการได้พยายามช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเมืองเดอร์นา ที่ขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม และไร้ที่อยู่อาศัย นอกจากนั้นยังใช้รถแบ็กโฮมารื้อเศษซากสิ่งของออกจากถนน และเคลื่อนย้ายรถยนต์จำนวนมากที่ถูกกระแสน้ำพัด
Ibrahim Ozur รองผู้อำนวยการของสภาเสี้ยววงเดือนแดงจากตุรกี ที่ถูกส่งมาช่วยเหลือลิเบีย กล่าวว่า เขาไม่เคยพบเห็นภัยพิบัติน้ำท่วมที่เลวร้ายเช่นนี้มาก่อน เพราะภัยพิบัติน้ำท่วมในเมืองเดอร์นาสร้างความเสียหายอย่างหนักเหมือนกับประสบภัยแผ่นดินไหวในเวลาเดียวกันด้วย พลังน้ำได้ทำให้อาคารจำนวนมากพังถล่ม ซึ่งเป็นความเสียหายจากภัยน้ำท่วมที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต
ผู้เขียน: อรัญญา ศรีจันทรนิตย์