จำนวนผู้เสียชีวิตในเหตุไฟไหม้ตึกอพาร์ตเมนต์ในกรุงฮานอย ของเวียดนาม เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 56 ศพแล้ว ขณะที่นายกรัฐมนตรีสั่งสืบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เหตุเพลิงไหม้ตึกอพาร์ตเมนต์สูง 9 ชั้น ในกรุงฮานอย เมืองหลวงของประเทศเวียดนาม ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 56 ศพ บาดเจ็บอีก 37 ราย ตามการเปิดเผยของสำนักงานดับเพลิงฮานอย เมื่อวันพุธที่ 13 ก.ย. 2566 โดย 39 ศพในจำนวนนี้สามารถระบุตัวตนได้แล้ว
ตึกอพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนประมาณ 150 คน เกิดเพลิงลุกไหม้ตั้งแต่ช่วงก่อนเที่ยงคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยหลังจากนั้น ผู้ประสบภัยมากกว่า 100 คนสามารถหลบหนีหรือถูกเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกมาได้สำเร็จ แต่สื่อเวียดนามระบุว่า เจ้าหน้าที่ต้องพาผู้ประสบเหตุอย่างน้อย 54 รายส่งโรงพยาบาล และมีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย
ผู้ประสบเหตุดังกล่าวถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการบาดเจ็บหลากหลาย หลังจากบางคนตัดสินใจกระโดดลงมาจากหน้าต่างเพื่อหนีจากไฟไหม้ หรือปีนไปยังหลังคาหรือดาดฟ้าของตึกข้างเคียง
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะของเวียดนามยอมรับว่า ผู้เสียชีวิตในเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้มีเยอะมาก แต่รัฐยังไม่เปิดเผยตัวเลขอย่างเป็นทางการ ขณะที่นายกรัฐมนตรี ฝั่ม มิญ จิ๊ญ เดินทางเยือนที่เกิดเหตุในวันพุธ และสั่งให้มีการสืบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟได้สำเร็จในช่วงเช้าวันพุธ แต่พวกเขากลับต้องใข้เวลานานหลายชั่วโมงเพื่อเข้าสู่อาคาร ซึ่งตั้งอยู่ในตรอกแคบๆ ในเขตที่อยู่อาศัยทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงฮานอย โดยมีรายงานว่า ระเบียงเล็กๆ ของอาคารหลังนี้ถูกปิดกั้นด้วยลูกกรงเหล็ก มีทางออกเพียงทางเดียว และไม่มีบันไดหนีไฟภายนอกด้วย
...
นางเหงียน ธี มิญ ฮง หนึ่งในผู้รอดชีวิตบอกกับสำนักข่าว เอเอฟพี ว่า เธอกับลูกวัย 7 ขวบกับ 9 ขวบ รออยู่ในห้องบนชั้น 7 นานร่วม 5 ชั่วโมงกว่าความช่วยเหลือจะมาถึง ไฟฟ้าก็ถูกตัด เธอพยายามหนีไปยังดาดฟ้าแล้ว แต่ต้องล่าถอยกลับมาที่ห้องตัวเองเนื่องจากความร้อนของเปลวไฟ
“ฉันกลัวมาก เราอยู่ในห้องร่วม 5 ชั่วโมง ... ฉันทำได้แค่พยายามปลอบใจลูกๆ ของฉันด้วยการถือผ้าเปียกแปะหน้าของพวกเขา” นางเหวียนกล่าวขณะรักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงฮานอย “ตอนนั้นเราอยู่ระหว่างความเป็นกับความตาย”
เวียดไทม์ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ท้องถิ่นระบุด้วยว่า มีเด็กอย่างน้อย 3 รายรวมอยู่ในผู้เสียชีวิตด้วย
ที่มา : cna