ผู้นำจากสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ได้เริ่มการประชุมสุดยอดที่กรุงจาการ์ตาแล้วในวันนี้

ผู้นำจากสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ได้เริ่มการประชุมสุดยอดเมื่อวันอังคาร (5 ก.ย.) ที่กรุงจาการ์ตา ที่ถือเป็นการทดสอบความสามารถของกลุ่มชาติสมาชิก 10 ชาติ ในการตอบสนองอย่างรวดเร็วในช่วงวิกฤติ ท่ามกลางความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมข้อพิพาทเรื่องดินแดนในทะเลจีนใต้

ในการกล่าวในพิธีเปิด นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ กล่าวว่า ความท้าทายในอนาคตจะ "รุนแรงขึ้น" ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลก

"แต่อาเซียนตกลงที่จะไม่เป็นตัวแทนของอำนาจใดๆ และจะทำงานร่วมกับใครก็ตามเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง" และเน้นย้ำว่า "เราไม่ควรทำให้เรือของเรา อาเซียน กลายเป็นเวทีแห่งการแข่งขันที่ทำลายล้างร่วมกัน"

การประชุมซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน จะประกอบด้วยการประชุมระดับสูงหลายชุด รวมถึงการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ซึ่งนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน และนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น จะเข้าร่วมด้วย การประชุมสุดยอดอาเซียนยังถือเป็นการเปิดตัวทางการทูตของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ผู้นำคนใหม่ของกัมพูชา 

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ แม้ว่าเขาจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอด จี 20 ในอินเดีย ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ตามด้วยการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ โดยสหรัฐฯ ได้ส่งรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส เข้าร่วมการประชุมแทน

การที่นายไบเดน ไม่ร่วมการประชุมครั้งนี้ ทำให้เกิดคำถามถึงการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ ในขณะที่จีนกำลังขยายอิทธิพลของตนในฐานะผู้ลงทุนรายใหญ่ในโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน นักการทูตอาวุโสคนหนึ่งกล่าวว่า การตัดสินใจของสหรัฐฯ ได้สร้าง "ความตกใจ" และ "ความผิดหวัง" จากอินโดนีเซีย ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปีนี้

...

แม้ว่าอาเซียนจะกระชับความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับจีน แต่อาเซียนก็เผชิญกับความท้าทายด้านความปลอดภัยหลายประการกับจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนอ้างสิทธิในน่านน้ำส่วนใหญ่ ที่แม้จะทับซ้อนกับบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ตาม

นอกจากนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ จีนได้เปิดเผยแผนที่อาณาเขตใหม่ ซึ่งรวมถึง "เส้นประ 9 เส้น" ที่เป็นข้อขัดแย้ง โดยชาติสมาชิกอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ได้ประท้วงแผนที่ "มาตรฐาน" ใหม่ของจีน

ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา อาเซียนและจีนกำลังเจรจาหลักปฏิบัติในทะเลจีนใต้ที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย ซึ่งยังไม่เป็นรูปธรรม แม้ว่าทั้งสองฝ่ายตกลงกันในเดือนกรกฎาคมที่จะสรุปผลภายใน 3 ปี แต่ข้อพิพาทด้านดินแดนยังคงไม่มีสัญญาณของการยุติ

นอกจากนั้น ผู้นำอาเซียนยังได้รับการคาดหวังให้ทบทวนการดำเนินการตามฉันทามติ 5 ประการ ที่บรรลุระหว่างเมียนมาและชาติสมาชิก 10 ประเทศ เมื่อเดือนเมษายน 2564 โดยมีเป้าหมายเพื่อหาแนวทางแก้ไขอย่างสันติ ต่อความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมาและฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตย

ทั้งนี้ เมียนมาไม่ได้มีส่วนร่วมในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ เนื่องจากอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพและประธานกลุ่มในปีนี้ ยังคงรักษาจุดยืนของอาเซียนที่อนุญาตให้รัฐบาลทหารส่งตัวแทนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองเท่านั้น

ในขณะที่อาเซียนดำเนินความพยายามเกี่ยวกับเมียนมาอย่างช้าๆ แต่นางอองซานซูจี และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้จัดการหารือที่เรือนจำในกรุงเนปิดอว์ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ถือเป็นการติดต่อที่ได้รับการยืนยันครั้งแรก ระหว่างนางซูจีกับเจ้าหน้าที่ต่างประเทศระดับสูง นับตั้งแต่เกิดรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564

ประเทศสมาชิกบางประเทศตั้งคำถามถึงความเคลื่อนไหวดังกล่าว เนื่องจากรัฐมนตรีต่างประเทศไทยไม่ได้ประสานงานล่วงหน้ากับอินโดนีเซีย แต่รัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มกล่าวในภายหลังว่า ประเทศสมาชิกจำนวนหนึ่งมองว่าการประชุมกับซูจีเป็นไปในทางที่ดี.

ติดตามข่าวต่างประเทศได้ที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign