• นักวิทยาศาสตร์รายหนึ่งเปิดเผยว่ายานไวกิ้งของนาซาน่าจะเคยเจอสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารเมื่อ 50 ปีก่อน แต่อาจพลาดฆ่ามันไปโดยไม่ตั้งใจ
  • ยานไวกิ้ง 1 ของนาซาได้ขึ้นไปสำรวจดาวอังคาร เมื่อ 20 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 1976 ก่อนที่ยานไวกิ้ง 2 จะลงสำรวจพื้นผิวดาวอังคาร เมื่อวันที่ 3 กันยายน 1976 โดยยานสำรวจทั้งสองลำทำให้นักวิทยาศาสตร์ได้ข้อมูลเกี่ยวกับดาวอังคารมามากมาย
  • มีทฤษฎีว่าถ้าหากมีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวอังคาร จุลินทรีย์จะกินสารอาหารและปล่อยคาร์บอนกัมมันตภาพรังสีออกมาเป็นก๊าซ แต่หากโดนน้ำมากเกินไปก็อาจจะทำให้จุลินทรีย์นั้นตายได้

เดิร์ก สชูลตซ์ มาคุช นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย เทคนิคัล เบอร์ลิน ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับการสำรวจดาวอังคารขององค์การนาซาด้วยยานไวกิ้งเมื่อ 50 ปีก่อน โดยเขาเชื่อว่านาซ่าได้เจอสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารแล้ว เพียงแต่กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อการทดลองเมื่อปี 1970 อย่างการใช้น้ำรดลงไปในดินอาจจะทำให้สิ่งมีชีวิตประเภทจุลินทรีย์ตายโดยไม่ได้ตั้งใจ

โดยการทดลองที่รู้จักกันในชื่อ ไวกิ้ง เลเบล รีลีส (Viking Labeled Release experiment) ในเบื้องต้นพบกระบวนการเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน มีผลเป็นบวก แต่การทดลองในระยะต่อมากลับไม่พบร่องรอยของสิ่งมีชีวิตใดๆ

สชูลตซ์ มาคุชจึงเชื่อว่า น้ำที่มีสารละลายธาตุอาหารในดินอาจจะมีปริมาณมากเกินไป ทำให้สิ่งมีชีวิตตายไปหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง

ซึ่งแม้ว่าทฤษฎีนี้อาจจะฟังดูเกินจริงไปสำหรับบางคน แต่ก็เคยมีเคสของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในหินเกลือใน ทะเลทรายอะตาคามา ในอเมริกาใต้ ที่มีภูมิทัศน์คล้ายกับดาวอังคาร ซึ่งไม่ต้องการฝนเพื่อการมีชีวิตรอด และเมื่อใดที่มีน้ำมากเกินไปก็จะกำจัดจุลินทรีย์เหล่านั้นออกไปหมด

...

โดยยานไวกิ้ง 1 ของนาซ่าได้ขึ้นไปไปสำรวจดาวอังคาร เมื่อ 20 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 1976 ก่อนที่ยานไวกิ้ง 2 จะลงสำรวจพื้นผิวดาวอังคารเมื่อวันที่ 3 กันยายน 1976 โดยยานสำรวจทั้งสองลำต่างเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทันสมัย เพื่อใช้เก็บข้อมูลของดาวอังคาร ทั้งแก๊สโครมาโตกราฟ / แมสสเปกโตรมิเตอร์, สเปกโตรมิเตอร์เรืองแสงเอกซเรย์ เครื่องวัดแผ่นดินไหว และเครื่องมืออุตุนิยมวิทยาและกล้องสเตอริโอแบบสี ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดนี้ ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถตรวจสอบ สัญญาณของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งนำตัวอย่างดินมาศึกษา และได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติทางกายภาพของชั้นบรรยากาศ ไปจนถึงแรงแม่เหล็ก ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์

ในการทดลองเมื่อปี 2007 มีการใส่ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เข้าไปในเซลล์ที่สงสัยว่ามีชีวิตบนดาวอังคารอยู่ ซึ่งจะให้ประโยชน์ในสภาพแวดล้อมบนดาวอังคารที่อุณหภูมิติดลบ ซึ่งสชูลตซ์ เขียนในรายงานว่าการปรับตัวนี้น่าจะสอดคล้องกับผลลัพธ์ของการทดลองไวกิ้งได้ เนื่องจากเซลล์หรือสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารหากมีไฮโดรเจน เปอร็อกไซด์เป็นส่วนประกอบ เมื่อเติมน้ำเข้าไปก็อาจจะทำให้สิ่งมีชีวิตนั้นตาย และเกิดการก่อตัวของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ตรวจพบ

แม้ว่านี่เป็นเพียงอีกความเห็นหนึ่งของนักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการค้นพบสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร แต่การสำรวจดาวเคราะห์ต่างๆ ในระบบสุริยจักรวาลที่ยังทำได้เพียงน้อยนิด ก็ทำให้เรื่องราวเกี่ยวกับอวกาศนอกโลกยังคงเป็นเรื่องราวลึกลับที่ต้องรอการพิสูจน์ต่อไป โดยแม้ว่ายานสำรวจไวกิ้งทั้ง 2 จะปฏิบัติภารกิจสำรวจดาวอังคารเสร็จสิ้นไปตั้งแต่ปี 1982 แล้ว แต่ยานทั้งสองลำก็ยังคงจอดนิ่งสนิทอยู่บนดาวอังคารอยู่จนถึงทุกวันนี้ เพื่อรอคอยยานสำรวจลำใหม่ที่จะไปรับช่วงต่อในการสำรวจดาวอังคาร เพื่อไขความลับของดาวแดงให้มวลมนุษยชาติอีกครั้งในปี 2028.

ผู้เขียน : อาจุมมาโอปอล

ที่มา : เดลีเมล์ , sciencetimes

คลิกติดตามอ่านข่าวเกี่ยวกับ "ดาวอังคาร"

...