ความพยายามของพวกเด็มโมแครตที่จะหยุดยั้งอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ให้มาแข่งขันอยู่ในสนามการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ค.ศ.2024 มีสูงมาก ทุกคนรู้ว่าถ้าให้มีสิทธิสวมเสื้อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ทรัมป์ก็มีโอกาสชนะสูง เพราะในห้วงช่วงที่ผ่านมา การบริหารงานของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีจากพรรคเด็มโมแครต ไม่เข้าตาประชาชนคนอเมริกัน เศรษฐกิจตกต่ำ ดอลลาร์ถูกด้อยค่า นโยบายสงครามกับอูเครนทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯถดถอย

มิถุนายน 2023 ทรัมป์โดนตั้งข้อหาทั้งสิ้น 37 กระทง เป็นคดีที่เกี่ยวกับการที่ทรัมป์ไม่คืนเอกสารลับสุดยอดหลังจากพ้นตำแหน่งประธานาธิบดี และนำเอกสารลับเหล่านี้ไปเก็บไว้ที่รัฐฟลอริดาทรัมป์โดนสารพันข้อหา ไม่ว่าจะเป็นการยึดข้อมูลกลาโหมแห่งชาติ ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ให้การเท็จ ฯลฯ

ขณะที่ทรัมป์อยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดี พรรคเด็มโมแครตมีเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร สภาชุดนั้นยื่นถอดถอนทรัมป์ถึง 2 รอบ ข้อหาเล่นสกปรกทางการเมือง กดดันให้ผู้นำอูเครนขุดคุ้ยข้อมูลที่สร้างความเสียหายให้แก่ไบเดนอีกข้อหาหนึ่งก็คือเหตุการณ์ที่ผู้สนับสนุนของทรัมป์บุกเข้าไปโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อ 6 มกราคม 2021 แต่วุฒิสภาลงมติว่าไม่มีความผิด ทรัมป์จึงรอดมาได้

1 สิงหาคม 2023 ทรัมป์โดนอีกแล้วครับ คราวนี้โดนข้อหาพยายามล้มผลเลือกตั้ง ค.ศ.2020 ยื่นฟ้องโดยแจ็ค สมิธ ที่ปรึกษาพิเศษของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ทั้งหมด 4 กระทงเป็นข้อหาสมคบคิด 3 กระทง และขัดขวาง 1 กระทง ในคำฟ้องระบุว่า ทรัมป์สมคบคิดขัดขวางกระบวนการอย่างเป็นทางการของที่ประชุมร่วมสภาคองเกรสเมื่อ 6 มกราคม 2021 ซึ่งสภาคองเกรสจัดประชุม เพื่อรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของโจ ไบเดน

ที่ปรึกษาพิเศษของกระทรวงยุติธรรมบรรยายฟ้องว่า การกล่าวเท็จของทรัมป์คือการล้มผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเดือนพฤศจิกายน 2020 “แม้จำเลยจะแพ้เลือกตั้ง แต่จำเลยก็ยังมุ่งมั่นที่จะยังคงอยู่ในอำนาจ หลังการเลือกตั้งเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2020 ผ่านไปแล้ว 2 เดือน จำเลยได้เผยแพร่ข่าวลือว่ามีการโกงเลือกตั้ง จำเลยอ้างว่าตนเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งคำกล่าวอ้างของจำเลยเป็นเท็จ จำเลยเองก็รู้ดีว่าคำกล่าวอ้างของตนเป็นเท็จ”

...

ตอนนี้ทรัมป์หัวปั่น ไหนจะต้องรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งด้วยการออกไปกล่าวคำปราศรัยตามสถานที่ต่างๆ การเลือกตั้งที่จะมีในเดือนพฤศจิกายน 2024 แต่ทรัมป์ต้องมาขึ้นศาลในคดีเอกสารลับสุดยอดในเดือนพฤษภาคม 2024 ผู้อ่านท่านคงหลับตาจินตนาการออกนะครับ ว่าพฤษภาคม 2024 ก็จะมีเวลาเหลือเพียงไม่ถึง 6 เดือนที่จะถึงวันเลือกตั้ง เป็นช่วงที่ตื่นเต้นมากสำหรับการเมืองสหรัฐฯ

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทรัมป์จะได้เป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกัน 100% ไปซัดกับไบเดน มีคนที่จะแข่งขันเพื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันหลายคน ที่กำลังมาแรงก็คือรอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาสมัยที่ 2 อายุ 44 ปี แต่เท่าที่มีการสำรวจความคิดเห็นของสมาชิกพรรครีพับลิกัน ตอนนี้ทรัมป์มีคะแนนนิยมร้อยละ 58 ส่วนดีแซนทิสได้รับคะแนนนิยมร้อยละ 22

เราก็เห็นมาจากการที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีมาแล้ว 1 สมัย 4 ปี การทำงานของไบเดนเราก็เห็นแล้ว แต่ของนักการเมืองคนอื่นๆ ที่เสนอตัวเข้ามาแข่งขันเป็นตัวแทนพรรคใหม่ๆ นี่เรายังไม่เห็นและน่าสนใจครับ อย่างดีแซนทิสนี่อ่านประวัติของแกแล้ว รู้เลยว่าเป็นพวกอนุรักษนิยมจ๋า ตอนเป็นผู้ว่าฯ แกลงนามจำกัดสิทธิทำแท้งผู้มีอายุครรภ์เกิน 15 สัปดาห์

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ค.ศ.2024 มีความสำคัญอย่างมากต่อความเป็นไปของโลก หากไบเดนยังอยู่ต่อความตึงเครียดในยุโรปตะวันออกและทะเลจีนใต้ก็ยังมีอยู่ต่อไปและจะแรงขึ้น ถ้ารีพับลิกันขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นทรัมป์ ดีแซนทิส หรือคนอื่นๆ ความตึงเครียดในสงครามมีแนวโน้มที่จะลดลง แต่ความขัดแย้งกันทางด้านอื่น เช่น ทางด้านการค้าจะแรงขึ้น.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com

คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม