ตำรวจบราซิลออกปฏิบัติการจู่โจมโดยมีเป้าหมายไปที่แก๊งค้ายาเสพติดใน 3 รัฐ ทำให้เกิดการปะทะกัน ซึ่งล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 45 ศพ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจบราซิลออกปฏิบัติการจู่โจมแก๊งค้ายาเสพติดใน 3 รัฐ ภายใต้ชื่อปฏิบัติการว่า ‘โอเปอเรชัน ชีลด์’ (Operation Shield) ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน โดยล่าสุดเมื่อเช้ามืดวันพุธที่ 2 ส.ค. 2566 เจ้าหน้าที่บุกจู่โจมในริโอ เด จาเนโร จนเกิดการยิงปะทะกันในย่าน คอมเพล็กโซ ดา เปนญา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ศพ
ห่างออกไปที่รัฐบาเฮีย ทางตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้เสียชีวิต 19 ศพระหว่างการปะทะกันของตำรวจและแก๊งค้ายาเสพติดซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 28 ก.ค. ถึงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (31 ก.ค.) ในเมืองซัลบาดอร์ และเมืองใกล้เคียงอย่าง คามาซารี และอิตาติม
ขณะที่ทางการรัฐเซา เปาโล ยืนยันในวันพุธว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการของตำรวจในเขต ไบซาดา ซานติสตา ซึ่งยังคงดำเนินอยู่นั้น เพิ่มขึ้นเป็น 16 ศพแล้ว นับเป็นหนึ่งในปฏิบัติการนองเลือดที่สุดของตำรวจเซา เปาโล
ทั้งนี้ โอเปอเรชัน ชีลด์ เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ ปาทริก บาสตอส เรส สมาชิกหน่วยกลยุทธ์พิเศษ ‘โรตา’ ของกองกำลังตำรวจกึ่งทหารของบราซิล ถูกสังหารที่เมืองกวารูชา เมื่อวันที่ 27 ก.ค. เพื่อจับตัวผู้อยู่เบื้องหลังก่อเหตุ โดยทางการระบุว่า ผู้ต้องสงสัยคนสุดท้ายถูกจับกุมเมื่อเช้ามืดวันพุธ
อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการจะดำเนินต่อไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม โดยจนถึงตอนนี้มีผู้ถูกจับกุมแล้ว 58 ราย ยึดยาเสพติดได้อีก 400 กก. กับปืนอีก 18 กระบอก
ด้านองค์กรสิทธิมนุษยชนออกมาประณามปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในเขต ไบซาดา ซานติสตา ว่าเป็นการสังหารหมู่เพื่อแก้แค้น ขณะที่มีรายงานว่า ชาวบ้านถูกเจ้าหน้าที่ข่มขู่และหลายคนถูกทรมาน
...
แต่นายตาร์ซิสโก เด เฟรตัส ผู้ว่าการรัฐเซา เปาโล ออกมาปกป้องการทำงานของตำรวจ ระบุว่า พวกเขาต้องลงมือเพื่อตอบสนองต่อการโจมตีจากอาชญากร และปฏิเสธข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่ข่มเหงประชาชนว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น เจ้าหน้าที่อ้างด้วยว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมดคือผู้ต้องสงสัยเป็นอาชญากรที่ถูกสังหารในการยิงปะทะกัน
ที่มา : the guardian