เรียนไปเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วว่า รัสเซียเห็นใจเกษตรกรชาวอูเครนที่ไม่สามารถส่งธัญพืชไปขายในตลาดโลกได้ จึงยอมลงนามใน The Initiative on the Safe Transportation of Grain and Foodstuffs from Ukrainian Ports ที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า The Black Sea Grain Initiative แปลเป็นไทยก็คือ ‘ข้อริเริ่มการส่งธัญพืชและอาหารผ่านทะเลดำ’ เขียนให้เข้าใจง่ายก็คือ รัสเซียยอมให้สินค้าธัญพืชและอาหารของอูเครนส่งออกไปขายในต่างประเทศโดยผ่านท่าเรือทางทะเลดำได้ ระหว่าง 22 กรกฎาคม 2022-17 กรกฎาคม 2023 โดยเดินทางไปลงนามที่นครอิสตันบูล ตุรกี
เมื่อข้อตกลงสิ้นสุดลงก็เกิดเหตุการณ์อยู่ 2 เรื่องคือ 1.เซเลนสกี เรียกร้องให้มีการขยายข้อตกลงเพื่อให้เกษตรกรของตนเองส่งสินค้าเกษตรไปขายต่างประเทศได้ผ่านช่องทางทะเลดำ 2.อูเครนโจมตีสะพานเชื่อมไครเมีย ทำให้สะพานเสียหายและมีคนตาย 2 คน รัสเซียจึงไม่ต่อข้อริเริ่มฯ เรื่องนี้ทำให้คน 47 ล้านของอูเครน ลำบาก แถมเมืองท่าทางชายทะเลยังโดนรัสเซียโจมตีกลับอย่างรุนแรง สหรัฐฯและตะวันตกก็เริ่มนิ่งดูดาย ไม่ช่วยอูเครนอย่างทุ่มเทเหมือนเดิม ผู้คนจำนวนไม่น้อยวิเคราะห์ตรงกันว่า สหรัฐฯและตะวันตกเลี้ยงอูเครนแบบไม่ให้ชนะแต่ก็ไม่ให้แพ้ ต้องการให้เป็นดินแดนมิคสัญญีอยู่แบบถูลู่ถูกังอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทำให้ทั้งรัสเซียและอูเครนติดหล่มสงคราม พากันจมน้ำตายทั้งคู่
สหรัฐฯประเมินรัสเซียต่ำเกินไป รัสเซียล้ำกว่าที่สหรัฐฯคิด 29 กรกฎาคม 2023 ปูตินเชิญผู้แทนจาก 49 ประเทศในทวีปแอฟริกา (ในจำนวนนี้มี 17 ประเทศที่ส่งประมุขหรือผู้นำสูงสุดมาร่วมประชุม) ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นการประชุมสุดยอดผู้นำรัสเซีย-แอฟริกา
ข้อใหญ่ใจความของการประชุมครั้งนี้ก็คือ ทั้ง 50 ประเทศ (รวมรัสเซีย) มุ่งมั่นร่วมกันเผชิญหน้ากับลัทธิล่าอาณานิคมแนวใหม่ ที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรแต่เพียงฝ่ายเดียว และบ่อนทำลายคุณค่าทางจริยธรรมของแต่ละประเทศ ขอเรียนครับว่า เดิมสหรัฐฯและพวกไม่พอใจประเทศไหนก็คว่ำบาตร ประเทศที่โดนคว่ำบาตรก็จะเดี้ยง ไม่มีใครกล้าเข้าไปคบค้าสมาคมด้วย เพราะสหรัฐฯขู่ว่าถ้าใครเข้าไปคบค้าสมาคมด้วย ก็จะถูกลงโทษโดนคว่ำบาตรเป็นรายต่อไป
...
การที่รัสเซียและอีก 49 ประเทศมาชุมนุมแสดงแถลงคำยืนยัน ก็ทำให้มั่นใจได้ว่า ในอนาคตหากสหรัฐฯและตะวันตกคว่ำบาตรประเทศไหน พวกตน (ทั้ง 50 ประเทศ) ก็จะยังคบค้าสมาคม ยังทำมาค้าขาย และไปลงทุนโดยไม่แคร์สหรัฐฯและตะวันตก การประชุมสุดยอดผู้นำครั้งนี้ ทำให้อิทธิพลของสหรัฐฯและตะวันตกที่เคยเป็นเจ้าอาณานิคม ปล้นทรัพยากรธรรมชาติและแรงงานจากประเทศในแอฟริกาลดลงไปจนแทบไม่เหลือ
ปูตินเล่าในที่ประชุมว่า รัสเซียยกหนี้ให้แก่ประเทศในแอฟริกาไปแล้วมากกว่า 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 7.8 แสนล้านบาท ตอนนี้มีแผนการที่จะค้าขายกับแต่ละประเทศด้วยสกุลเงินท้องถิ่น นอกจากนั้น ยังให้ความมั่นใจว่าจะร่วมมือด้านพลังงานและการค้า ประเทศไหนที่เคยสั่งธัญพืชจากอูเครน แต่ตอนนี้อูเครนส่งไปให้ไม่ได้เพราะรัสเซียไม่ให้ผ่านทะเลดำ รัสเซียก็จะสนับสนุนด้านธัญพืชทั้งแบบให้ฟรีและขายให้ในราคาพิเศษ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รัสเซียจะให้ธัญพืชลอตแรก 3 แสนตันแก่บูร์กินาฟาโซ ซิมบับเว มาลี โซมาเลีย สาธารณรัฐแอฟริกากลาง และเอริเทรีย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเช่นกัน
ค.ศ.2023 รัสเซียให้ 4 หมื่นทุนแก่นักเรียนแอฟริกันไปศึกษา ที่สถาบันการศึกษาของสหพันธรัฐรัสเซีย ทุกครั้งที่รัสเซียให้ทุนนิสิตต่างชาติ ให้ฟรีจริงๆ ทั้งค่ากิน ค่าอยู่ แถมยังมีเงินรายเดือน ให้ใช้จ่ายอีกด้วย
ขณะนี้แอฟริกาทั้งทวีปกลายเป็นเพื่อนมิตรของจีนและรัสเซีย เป็นเพื่อนมิตรที่มีแต่ให้ ไม่เหมือนสหรัฐฯและตะวันตกที่เข้าไปตักตวง ผู้นำแอฟริกันคนไหนไม่เชื่อฟังก็สนับสนุนให้มีการปฏิวัติหรือไม่ก็คว่ำบาตร หากสหรัฐฯและพันธมิตรตะวันตกจะดำรงอิทธิพลของตนในทวีปแอฟริกาให้ดีเหมือนเดิม ก็ต้องปฏิบัติต่อชาติแอฟริกันอย่างเป็นมิตรกว่าในอดีต.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com