เหตุอุทกภัยในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ที่เกาะคิวชู ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ศพ สูญหายอีก 2 ราย ขณะที่แนวปะทะมวลอากาศจ่อขึ้นเหนือในวันพุธ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในวันอังคารที่ 11 ก.ค. 2566 ประชาชนบนเกาะคิวชู ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ยังคงได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติน้ำท่วมรุนแรงและดินโคลนถล่มต่อเนื่องจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากเกิดฝนตกหนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 ศพ และมีผู้สูญหายอีก 2 ราย
ฝนที่ตกต่อเนื่องเป็นเวลานานถึง 1 สัปดาห์ ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน และทำให้ดินบนภูเขาที่อ่อนตัวลงถล่มลงมาหลายจุดเมื่อเช้าวันจันทร์ รวมถึงที่เขตทานุชิมารุ ของเมืองคุรุเมะ ในจังหวัดฟุคุโอกะ บ้านเรือนหลายหลังถูกดินโคลนซัดพังเสียหาย ฝังร่างชาวบ้าน 10 คน โดยเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือได้ทัน 9 คน แต่ผู้เฒ่าอายุประมาณ 70 ปี เสียชีวิต
ที่เขตอารากิ ในเมืองเดียวกัน ชาวบ้านพบร่างชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 40-50 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในนาข้าว เมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ โดยตำรวจระบุว่า มีผู้พบเห็นชายคนนี้ขณะมีชีวิตเป็นครั้งสุดท้ายในช่วงเช้าวันเดียวกัน โดยเห็นตอนที่เขาพยายามหนีออกจากยางรถยนต์ที่ถูกกระแสน้ำท่วมพัดพาไป ห่างจากจุดที่พบศพราว 3 กม.
ส่วนที่เมืองโซเอดะ เกิดดินถล่มทับบ้านของสามีภรรยาสูงวัยคู่หนึ่ง ทำให้ยายวัย 77 ปีเสียชีวิต ส่วนสามีของเธอได้รับความช่วยเหลือทัน และกำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลท้องถิ่น ขณะที่ในเมืองฮิโรคาวะ ชายอายุประมาณ 70 ปีเสียชีวิตที่โรงพยาบาล หลังจากเขาถูกช่วยออกมาจากรถกระบะที่ตกลงไปในคลองชลประทาน
และที่เมืองดาไซฟุ ในจังหวัดฟุคุโอกะเช่นกัน ร่างของชายวัยประมาณ 50 ปี ถูกพบภายในอุโมงค์คนข้ามใต้ถนน ซึ่งถูกน้ำท่วมลึกถึง 3.6 ม. โดยตำรวจเชื่อว่าเขาจมน้ำเสียชีวิตเนื่องจากหนีออกมาไม่ทัน
...
ฝนยังเล่นงานจังหวัดซากะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดฟุคุโอกะ ทำให้เกิดดินถล่มทับบ้าน 2 หลัง ทีมกู้ภัยพบหญิงคนหนึ่งใต้ซากปรักหักพังในสภาพไม่มีชีพจร ก่อนจะประกาศว่าเธอเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาชายอีก 2 คนที่ยังหาตัวไม่พบ
ต่อมาในช่วงเช้าวันอังคาร ศพของชายคนหนึ่งถูกพบลอยอยู่บริเวณปลายแม่น้ำใกล้จุดเกิดเหตุดินถล่มที่บ้านทั้ง 2 หลัง เจ้าหน้าที่รัฐบาลจังหวัดซากะกับตำรวจระบุว่า ศพนี้อาจเป็นหนึ่งในชายที่หายตัวไป
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังคงตามหาตัวหญิงวัยประมาณ 50 ปี คนหนึ่งในจังหวัดโออิตะ ที่หายตัวไปจากถนนริมแม่น้ำในเมืองนาคัตสึ โดยเจ้าหน้าที่พบรถยนต์สีขาวที่คาดว่าเป็นของเธอแล้วในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดฟุคุโอกะ
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น (JMA) ประกาศเตือนภัยฉุกเฉินเนื่องจากฝนตกหนัก ในจังหวัดฟุคุโอกะและจังหวัดโออิตะ ทางตอนเหนือของเกาะคิวชู หลังจากมีฝนตกมากกว่า 600 มิลลิเมตรที่ภูเขาฮิโกะซัน ตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีก่อน พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ให้ห่างจากแม่น้ำและเชิงเขา เนื่องจากเสี่ยงเกิดน้ำท่วมและดินถล่ม
ในช่วงพีกที่สุด ประชาชนมากกว่า 420,000 คนได้รับข้อความเตือนระดับสูงสุดให้อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงเนื่องจากมีอันตรายถึงชีวิต ส่วนประชาชนเกือบ 2 ล้านคนในฟุคุโอกะ, ฮิโรชิมา, ซากะ, ยามากุจิ และโออิตะ ได้รับคำเตือนระดับต่ำกว่าคือ ให้อพยพหากอยู่ในพื้นที่เสี่ยง
นายซาโตชิ สุงิโมโตะ จากแผนกพยากรณ์อากาศของ JMA บอกกับสื่อท้องถิ่นว่า “นี่คือฝนที่หนักที่สุดที่ภูมิภาคนี้เคยเผชิญ”
จนถึงช่วงบ่ายวันอังคาร ฝนยังคงตกหนักในภาคใต้ของเกาะคิวชูเป็นหลัก รวมถึงที่จังหวัดคาโกชิมะ แต่คาดว่าแนวปะทะมวลอากาศจะเคลื่อนตัวขึ้นเหนือตลอดวันพุธ ส่งผลให้สภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนักเป็นวงกว้างตั้งแต่ภาคตะวันตกถึงตอนเหนือของญี่ปุ่น บางพื้นที่อาจเผชิญฝนตกหนักและมีฟ้าผ่า
ขณะที่ในช่วง 24 ชั่วโมงจนถึงค่ำวันพุธตามเวลาญี่ปุ่น มีโอกาสเกิดฝนตกปริมาณน้ำฝนสูงสุด 120 มล. ในด้านชายฝั่งทะเลของภูมิภาคโทโฮคุ และที่จังหวัดนิงาตะ
อนึ่ง ตอนนี้ญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงฤดูฝนประจำปี ซึ่งมักเกิดฝนตกหนัก และบางครั้งก็ทำให้น้ำท่วมกับดินถล่ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต แต่นักวิทยาศาสตร์หลายคนเตือนว่า ความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศกำลังทำให้ความเสี่ยงเกิดฝนตกหนักในญี่ปุ่นและที่อื่นๆ เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากบรรยากาศที่อบอุ่นขึ้นจะอุ้มน้ำได้มากกว่า
ญี่ปุ่นยังเผชิญความเสี่ยงจากดินถล่มในช่วงฝนตกหนักมากเป็นพิเศษ เพราะชาวบ้านมักปลูกบ้านเรือนบริเวณที่ราบเชิงเขา เมื่อปี 2564 ฝนทำให้เกิดดินถล่มในเมืองอาตามิ คร่าชีวิตผู้คนไป 27 ศพ ขณะที่ในปี 2561 น้ำท่วมและดินถล่มในภาคตะวันตก ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 ศพ