AI ก้าวหน้าไปมาก..จัดหุ่นยนต์แถลงข่าวครั้งแรกของโลก ในงานประชุม AI for Good จัดโดย UN ที่สวิตเซอร์แลนด์ ย้ำหุ่นยนต์ไม่ได้มาแย่งงาน แต่จะมาช่วยมนุษย์

เมื่อ 8 ก.ค. 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจัดหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ AI คล้ายมนุษย์ 9 ตัว แถลงข่าวตอบคำถามมนุษย์ เป็นครั้งแรกของโลก ในระหว่างการประชุม 'AI for Good Global Summit' ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา ทำเอานักข่าวที่ตั้งคำถามใส่หุ่นยนต์ AI เหล่านี้ รู้สึกทึ่งกับคำตอบของหุ่นยนต์ที่นอกจากจะเป็นการโต้ตอบแบบเรียลไทม์ หรือตอบกลับมาได้อย่างแทบจะทันทีแล้ว หุ่นยนต์ AI ยังสามารถเข้าใจในคำถามของนักข่าวและตอบกลับมาในประเด็นที่นักข่าวถามไปได้อย่างถูกต้อง

ในขณะที่ ผู้จัดงานชี้แจงว่าความล่าช้าเล็กน้อยในการตอบกลับของหุ่นยนต์เหล่านี้ เป็นเพราะการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งไม่จำเป็นต้องปรับแก้ไขหุ่นยนต์แต่อย่างใด

หุ่นยนต์ ทั้ง 9 ตัว ซึ่งมีทั้งนั่งและยืน ย้ำว่า หุ่นยนต์จะทำงานเคียงข้างกับมนุษย์เพื่อให้ความช่วยเหลือ และไม่มีจุดประสงค์ที่จะเข้ามาปราบหรือแทนที่มนุษย์แต่อย่างใด 

หุ่นยนต์โซฟี
หุ่นยนต์โซฟี

...

อย่างเช่น หุ่นยนต์โซเฟีย (Sophia) ซี่งถือเป็นนวัตกรรมหุ่นยนต์ตัวแรกในฐานะทูตของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ บอกว่า 'ฉันเชื่อว่าหุ่นยนต์มีศักยภาพในการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลกว่ามนุษย์ เนื่องจากหุ่นยนต์ไม่มีอคติหรืออารมณ์เหมือนกับมนุษย์ ซึ่งบางครั้งได้บดบังการตัดสินใจ นอกจากนั้นหุ่นยนต์สามารถประมวลข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว เพื่อการตัดสินใจที่ดีที่สุด'

หุ่นยนต์ ’เกรซ'เป็นหุ่นยนต์ให้ความช่วยเหลือด้านสุชภาพ พัฒนาโดยบริษัท SingularityNET
หุ่นยนต์ ’เกรซ'เป็นหุ่นยนต์ให้ความช่วยเหลือด้านสุชภาพ พัฒนาโดยบริษัท SingularityNET

ทั้งนี้ ITU สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานเฉพาะทางของสหประชาชาติด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสหประชาชาติ (UN) ได้จัดประชุมสุดยอด ด้านหุ่นยนต์ AI ครั้งใหญ่ที่สุดของโลก 'AI for Good Global Summit'  ระหว่าง 6-7 กรกฎาคม 2566 ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อแสดงความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์ และการนำ AI ไปต่อ ยอดในการใช้งานในด้านต่างๆ นอกจากนั้นก็มีการกำลังพยายามจะสร้างหุ่นยนต์ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาบางอย่างของโลกที่กำลังเผชิญกับความท้าทายยิ่งใหญ่ที่สุด อย่างเช่น โรคติดต่อ และความหิวโหย ขาดแคลนอาหาร

ที่มา : DW