ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาต้องบอกว่า “The Eras Tour” หรือ “ดิ เอราส์ ทัวร์” ของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ เป็นหัวข้อสนทนาไปทุกหย่อมหญ้าในเอเชียรวมถึงออสเตรเลีย เพราะสาวเทย์ปักหมุดเปิดคอนเสิร์ตในแถบนี้เพียง 3 ประเทศคือ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ ซึ่งรายหลังได้ไปถึง 6 รอบ เป็นชาติเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เดาไม่ยากเลยว่าการขับเคี่ยวเพื่อกดแย่งชิงบัตรคอนเสิร์ตครั้งนี้ต้องดุเดือดแน่นอน เหล่าสวิฟตี้ แฟนานุแฟน หรือแม้จะไม่ใช่สาวกตัวยง ก็คงอยากเป็นส่วนหนึ่งของคอนเสิร์ตรอบโลกครั้งนี้ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ เพราะหลังจากเปิดประตูทัวร์อย่างเป็นทางการในเมืองเกลนเดล รัฐอริโซนา สหรัฐฯ เมื่อ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้ชมได้สัมผัสกับเซตลิสต์ที่ชวนตะลึงเพราะเล่นถึง 44 เพลง จากผลงานใน 10 อัลบั้ม ของเธอ ความยาวของคอนเสิร์ตปาไปกว่า 3 ชม. คอสตูม ที่ศิลปินสาวสวมใส่ก็อลังการตื่นใจ เรียกว่าทำให้ผู้ชมคุ้มค่าสมการรอคอยทัวร์รอบโลกของเธอในรอบ 5 ปี

กลายเป็นปรากฏการณ์ เมื่อผู้คนจำนวนมากอยากไขว่คว้าขอกำบัตร “ดิ เอราส์ ทัวร์” ไว้ในมือ โดยเฉพาะในสหรัฐฯที่เผชิญกับเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อพุ่งซ้ำเติมคือสิ่งที่กดดันครัวเรือนที่เป็นหนี้ และแทบทุกคำทำนายก็เตือนว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยใกล้เข้ามาแล้ว ทำให้นักวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์บางรายมองว่า ท่ามกลางความน่าหวาดหวั่นมืดมน ดูเหมือนจะมีแสงสว่างอยู่แห่งเดียวและเป็นแห่งเดียวที่กลุ่มผู้บริโภคจำนวนมากพอใจที่จะจับจ่ายใช้สอยอย่างเต็มใจ นั่นคือ “ดิ เอราส์ ทัวร์” ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ซึ่งเปรียบได้ว่าเธอคือตัวแทนที่แท้จริงที่แสดงให้เห็นว่าอำนาจการใช้จ่ายของผู้บริโภคจำนวนมหาศาลยังคงมีอยู่

...

กลุ่มวิจัยออนไลน์เควสชันโปรวิเคราะห์ตัวเลขว่า “ดิ เอราส์ ทัวร์” จะสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลายพันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ และหากการใช้จ่ายยังคงดำเนินต่อไปจนจบเวิลด์ทัวร์ในปีหน้า (ไม่แน่ว่าระหว่างนั้นทัวร์ก็งอกรอบเพิ่มได้อีก ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นที่ใด) ก็เป็นไปได้ว่า “ดิ เอราส์ ทัวร์” จะมีผลต่อทางเศรษฐกิจถึง 5,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 175,900 ล้านบาท นับว่ามากกว่าจีดีพีหรือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของ 50 ประเทศก็ว่าได้

ขณะที่เว็บไซต์โพลล์สตาร์ระบุว่า การออกทัวร์ทั่วโลกของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ตั้งแต่ปีนี้จากทวีปอเมริกา (เหนือ-ใต้) ไปยุโรป แวะออสเตรเลียและเอเชียในปีหน้า จะกลายเป็นทัวร์แรกในประวัติศาสตร์ของธุรกิจที่ทำรายได้ทะลุพันล้านดอลลาร์ โดยประเมินว่ารายรับสุดท้ายจะอยู่ที่ประมาณ 1,400 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 50,000 ล้านบาท

ด้านสื่อดัง “วาไรตี้” เผยว่า ทีมถอดรหัส ตัวเลขเชื่อว่า “ดิ เอราส์ ทัวร์” จะสร้างประวัติศาสตร์ผ่าน 1 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 35,000 ล้านบาท ในช่วงของ 6 รอบการแสดงในสิงคโปร์ระหว่างวันที่ 2-9 มี.ค.2567.

ภัค เศารยะ