ทูตเตือนคนไทย หลีกเลี่ยงชุมนุมจลาจลในฝรั่งเศสยังดุเดือดต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 กลุ่มผู้ประท้วงจุดไฟเผาสถานที่สาธารณะ ยานพาหนะรวมถึงออกปล้นสะดมร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ขณะที่ ทางการประเมินสถานการณ์เริ่มลดระดับความรุนแรง จากจำนวนผู้ถูกจับกุมลดลงกว่าครึ่ง ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นอายุเฉลี่ย 17 ปี มีเด็กวัย 13 ปีถูกรวบด้วย ด้าน “ประธานาธิบดีมาครง” เรียกร้องให้ผู้ปกครองช่วยดูแลบุตรหลานไม่ให้ออกมาร่วมชุมนุมตามท้องถนน ส่วนสถานทูตไทย ณ กรุงปารีส เตือนคนไทยเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม และงดออกจากเคหสถานในยามวิกาลหากไม่มีความจำเป็น

สถานการณ์จลาจลในประเทศฝรั่งเศสยังคงรุนแรงต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 1 ก.ค.สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าเหตุจลาจลทั่วประเทศฝรั่งเศสติดต่อกันเป็นคืนที่ 4 จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงนายนาเอล เอ็ม ชายเชื้อสายแอลจีเรีย วัย 17 ปี ในระยะประชิด กระสุนพุ่งเข้าที่แขนและทะลุหน้าอกซ้าย จนเสียชีวิต ระหว่างการเรียกตรวจค้นที่เมืองนองแตร์ แหล่งที่อยู่อาศัยของชุมชนผู้มีรายได้น้อยและหลากหลายด้านเชื้อชาติในจังหวัดโอดแซน แคว้นอีล-เดอ-ฟร็องส์ทางตะวันตกของกรุงปารีส เมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนจำนวนมากโกรธแค้นต่อการกระทำของตำรวจ ประกอบกับความไม่พอใจในประเด็นการเหยียดเชื้อชาติ ออกมารวมตัวประท้วงตามท้องถนน กระทั่งเกิดความรุนแรงและยกระดับเป็นการจลาจลลุกลามไปทั่วประเทศ

กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสเผยว่า ความรุนแรง ในคืนวันศุกร์ ซึ่งเป็นคืนที่ 4 ของการจลาจลได้ลดระดับเบาบางลงมาจากคืนก่อนๆ มีการจับกุมผู้กระทำความผิดทั่วประเทศจำนวน 471 ราย ลดจากวันก่อนที่มีการจับกุม 917 ราย โดยผู้ถูกจับส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ย 17 ปี รวมถึงมีเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ถูกจับกุมด้วย อย่างไรก็ตาม ทางการได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ความมั่นคงกว่า 45,000 นาย ทั้งตำรวจปราบปราม ทหาร หน่วยจู่โจม หน่วยปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย GIGN และกองกำลังความมั่นคงอื่นๆ พร้อมรถหุ้มเกราะ กระจายกำลังทั่วประเทศ เพื่อระงับความรุนแรงและรักษาความปลอดภัย กระนั้นผู้ประท้วงยังจุดไฟเผาถังขยะ รวมทั้งยานพาหนะราว 2,000 คัน และอาคารต่างๆ โดยเฉพาะอาคารสาธารณะราว 492 แห่งทั่วประเทศ ถูกเพลิงไหม้เสียหาย

...

ขณะเดียวกันยังเกิดการปล้นสะดมร้านค้า ห้างสรรพสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะร้านขายสินค้าฟุ่มเฟือยราคาแพงในเมืองลียง และมาร์แซย์ ที่มีประชากรเชื้อสายแอฟริกาเหนืออาศัยอยู่มาก ยังมีสถานการณ์รุนแรงมากเป็นพิเศษ รวมทั้งที่เมืองเกรอน็อบล์ เป็นต้น นอกจากนี้ ร้านแอปเปิล สโตร์ ในเมืองสตราสบูร์ก ใกล้ชายแดนติดกับประเทศเยอรมนียังถูกกลุ่มวัยรุ่นบุกปล้นเมื่อช่วงกลางดึก และมีรายงานว่าชายอายุ 20 ปี เสียชีวิตหลังจากตกลงมาจากหลังคาของซุปเปอร์มาร์เกตในเขตชานเมืองของเมืองรูอ็อง แคว้นนอร์มังดี ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ขณะลอบเข้าไปขโมยของ

ด้านนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เรียกร้องให้ผู้ปกครองช่วยกันดูแลบุตรหลานไม่ให้ออกมาร่วมชุมนุมตามท้องถนน ส่วนคนดังอย่างคีเลียน เอ็มบัปเป นักฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศส สังกัดทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านทวิตเตอร์ว่าความรุนแรงไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ และเรียกร้องให้ยุติความรุน แรงแล้วหันมาไว้อาลัยให้แก่ผู้จากไป พร้อมหันหน้ามาคุยกันกันใหม่อย่างสร้างสรรค์

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ตามเวลาท้องถิ่น สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส ออกประกาศ เรื่อง การปฏิบัติตนในสถานการณ์จลาจลในฝรั่งเศส ระบุว่า ตามที่เกิดเหตุจลาจลในหลายพื้นที่ของฝรั่งเศส รวมถึงกรุงปารีสและเมืองสำคัญอื่นๆ ตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.2566 สืบเนื่องจากความไม่พอใจเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนยิงเยาวชนตลอดจนการทำลายทรัพย์สินธุรกิจร้านค้า และทรัพย์สินสาธารณะ รวมทั้งการเผาทำลายรถประจำทางกว่า 20 คัน โดยมีการยกระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้นและขยายตัวไปทั่วประเทศตลอดหลายวันที่ผ่านมา ทั้งในพื้นที่ใจกลางกรุงปารีสและปริมณฑล ตลอดจนเมืองใหญ่ต่างๆ เช่น เมืองลียงและเมืองมาร์แซย์ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอประกาศเตือนคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวไทยในฝรั่งเศสให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมชน และการออกจากที่พักในยามวิกาล

โดยเฉพาะระหว่างเวลา 21.00-06.00 น.ตามที่ทางการฝรั่งเศสมีคำสั่งให้ระบบขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ รถประจำทาง รถไฟฟ้าใต้ดินและรถรางหยุด ให้บริการในช่วงเวลาดังกล่าว โดยเฉพาะหากพำนักอาศัยอยู่ในชุมชน Clamart, Meudon, Neuilly-sur-Marne, Savigny-le-Temple, Compiegne และเมือง Beauvais ขอให้งดออกจากเคหสถานในยามวิกาลหากไม่มีความจำเป็น ทั้งนี้ ขอให้ติดตามรายงานสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการฝรั่งเศสอย่างเคร่งครัด ในกรณีฉุกเฉินที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ โปรดติดต่อสถานเอกอัคร ราชทูตฯ หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน 06-0359-9705 และ 06-4671-9694