เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์นานาชาติทั้งในออสเตรเลีย สหรัฐฯ ยุโรป จีน และอินเดีย ได้เปิดเผยข้อมูลสุดตื่นเต้นต่อชุมชนวิทยาศาสตร์ อาทิ ลงในวารสาร The Astrophysical Journal Letters เกี่ยวกับหลักฐานที่บ่งชี้การมีอยู่ของ “คลื่นความโน้มถ่วง” ซึ่งถูกอธิบายว่าเป็นคลื่นของกาลอวกาศ เมื่อคลื่นพวกนี้เดินทางเข้าสู่อวกาศก็จะทำให้เกิดการบิดเบี้ยวของระยะทางในบริเวณนั้น
หลักฐานที่ว่าก็คือ “เสียงร้องครวญ” ที่ก้องกังวานไปทั่วเอกภพหรือจักรวาลที่ถูกกล้องโทรทรรศน์วิทยุอันทรงพลังที่ติดตั้งอยู่ทั่วโลกดักจับได้ นักฟิสิกส์คนหนึ่งจากมหาวิทยาลัยโอเรกอน สเตต ในสหรัฐฯ หนึ่งในสมาชิกในโครงการ North American Nanohertz Observatory for Gravitational Waves หรือ NANOGrav ถึงกับเปรียบเปรยว่าเสียงร้องฮึมฮัมของจักรวาลที่ได้ยินนี้ว่า ฟังคล้ายกับการบรรเลงเพลงจากวงดนตรีประสานเสียงหรือวงออเคสตรา ส่วนใครสงสัยว่า NANOGrav ทำงานอะไรนั้น ก็ต้องบอกว่าโครงการนี้ก่อตั้งมานานกว่า 15 ปีแล้ว มีเป้าหมายค้นหา “คลื่นความโน้มถ่วงที่มีความถี่ต่ำทั่วจักรวาล”
การค้นพบเสียงครวญนี้จึงได้รับการคาดหวังอย่างมากว่าอาจช่วยนักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์เข้าใจว่าจักรวาลบรรลุโครงสร้างในแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้อย่างไร และอาจเปิดเผยสสารแปลกๆ ใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้จัก ซึ่งพวกมันอาจมีอยู่ไม่นานหลังจากเหตุการณ์บิ๊ก แบง (ทฤษฎีว่าด้วยการกำเนิดเอกภพ) เมื่อ 13,700 ล้านปีก่อน เสียงร้องนี้จึงเป็นหลักฐานสำคัญต่อการค้นหาคลื่นความโน้มถ่วงที่มีความถี่ต่ำมากนั่นเอง
และเมื่อพบเสียงก็ต้องอยากรู้ที่มาของเสียงนั้น ทีมวิจัยสันนิษฐานว่าเสียงน่าจะมาจากหลุมดำมวลยวดยิ่งคู่หนึ่ง ที่ควบรวมตัวกันในยุคต้นของจักรวาล แต่จะเป็นหลุมดำคู่ไหนในกาแล็กซีใดยังคงเป็นความลึกลับอยู่ และเป็นไปได้ว่าคลื่นความโน้มถ่วงอาจจะเป็นเสียงสะท้อนร่วมกันของหลุมดำมวลยวดยิ่งคู่หนึ่งก็ได้
...
นักวิทยาศาสตร์ให้คำอธิบายว่า หลุมดำมวลยวดยิ่งหลายคู่ บางแห่งมีมวลเท่ากับดวงอาทิตย์นับพันล้านดวง พวกมันมักอาศัยอยู่แถวๆ ใจกลางของกาแล็กซีโบราณที่อยู่ห่างออกไป 10,000 ล้านปีแสง ขณะที่พวกมันค่อยๆ ชนและควบรวมเข้าด้วยกันก็จะสร้างระลอกคลื่นในกาลอวกาศออกมา...ก็ต้องรอไขปริศนากันต่อไป!
ภัค เศารยะ