ทางการบังกลาเทศสั่งปิดโรงเรียนกว่าหมื่นแห่ง หลังต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนที่ยาวนานที่สุดในรอบ 50 ปี โดยมีการสั่งตัดไฟฟ้าเป็นวงกว้างด้วย
อุณหภูมิเฉลี่ยของบังกลาเทศพุ่งสูงราว 40 องศาเซลเซียส จากอิทธิพลของคลื่นความร้อน ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนจำนวนมาก โดยคลื่นความร้อนครั้งนี้นับว่ายาวนานที่สุดที่เคยเกิดขึ้น นับตั้งแต่ปี 1971 ล่าสุดรัฐบาลได้สั่งปิดโรงเรียนประถมกว่าหมื่นแห่ง หลังจากมีเด็กล้มป่วยจากคลื่นความร้อนจำนวนมาก รวมทั้งยังสั่งตัดกระแสไฟฟ้าในบางพื้นที่เป็นระยะ สวนทางกับความต้องการใช้เครื่องปรับอากาศและพัดลมที่เพิ่มสูงขึ้น
โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บังกลาเทศจำเป็นต้องระงับการผลิตไฟฟ้าชั่วคราว เพราะรัฐบาลไม่มีงบประมาณที่จะซื้อถ่านหินมาทำเชื้อเพลิงได้ โดยสกุลเงินตากาของบังกลาเทศดิ่งลงราว 25 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ค่าใช้จ่ายในการนำเข้าเชื้อเพลิงและพลังงานไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

ทั้งนี้ บังกลาเทศเผชิญคลื่นความร้อนมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ต่อเนื่องมาจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ก่อนที่สถานการณ์จะดีขึ้นเล็กน้อย และกลับมาเลวร้ายลงอีกในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา โดยหน่วยพยากรณ์อากาศคาดว่า อุณหภูมิในพื้นที่จะยังคงพุ่งสูงไปจนถึงสุดสัปดาห์นี้
...
โดยผลการศึกษาจากสถาบันวิจัยอิสระเกี่ยวกับสภาพอากาศโลกเมื่อเดือนที่แล้ว พบว่า สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้คลื่นความร้อนในบังกลาเทศรุนแรงขึ้นเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกับอินเดีย ลาว และประเทศไทย ที่รุนแรงขึ้นอย่างน้อย 30 เท่า.
ที่มา : แชนแนลนิวส์เอเชีย