ชาวเซอร์เบียหลายหมื่นคนเข้าร่วมการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในกรุงเบลเกรดเมื่อวันเสาร์ โดยกล่าวโทษวัฒนธรรมแห่งความรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18  ศพ จากเหตุกราดยิง 2 ครั้ง และเรียกร้องให้รัฐมนตรีมหาดไทยลาออก

การประท้วงครั้งล่าสุดถือเป็นวันครบรอบ 1 เดือน ของเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นในโรงเรียนครั้งแรกของประเทศ เมื่อวันที่ 3 พ.ค. เมื่อเด็กนักเรียนก่อเหตุกราดยิง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ศพ ในโรงเรียนประถมในกรุงเบลเกรด ส่วนเหตุกราดยิงครั้งที่สอง เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม เมื่อชายวัย 21 ปี ก่อเหตุกราดยิง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ศพ ในเมืองนอกกรุงเบลเกรด

จากเหตุกราดยิงทั้งสองครั้ง ทำให้รัฐบาลเซอร์เบียประกาศให้วันหยุดฤดูร้อนของโรงเรียนเริ่มขึ้นในวันที่ 6 มิถุนายน ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิม 2 สัปดาห์

ด้านพรรคฝ่ายค้านที่จัดการประท้วงครั้งที่ 5 ในรอบ 1 เดือน กล่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีอเล็กซานดาร์ วูซิช ล้มเหลวในการจัดการกับการส่งเสริมความรุนแรงในสื่อ และปล่อยให้ความรุนแรงแทรกซึมเข้าไปในสังคม

การประท้วงทำให้เกิดความโกรธแค้นต่อพรรครัฐบาล ต่อสิ่งที่ผู้ประท้วงกล่าวว่าเป็นวัฒนธรรมแห่งความรุนแรงที่รัฐบาลและสื่อต่างๆ เป็นผู้ควบคุม หลังจากเมื่อเร็วๆ นี้ รายการเรียลลิตี้ทีวีของเซอร์เบียรายการหนึ่งนำเสนออาชญากรที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด รวมถึงฆาตกร และแสดงให้เห็นภาพผู้ชายรุมทำร้ายผู้หญิง 

นายเนนาด ฮัดซี มาริซิช นักแสดงซึ่งเป็นผู้กล่าวปราศรัยหลักในการประท้วง ได้กล่าวถึงข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง ซึ่งรวมถึงการปลดนายบราติสลาฟ กาซิก รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย และนายอเล็กซานดาร์ วูลิน หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับ รวมถึงการยุติรายการทีวีทั้งหมดที่ส่งเสริมความรุนแรงทันที ผู้ชุมนุมยังต้องการให้รัฐบาลเพิกถอนใบอนุญาตออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ที่ส่งเสริมเนื้อหาที่มีความรุนแรง และสั่งแบนหนังสือพิมพ์ที่สนับสนุนรัฐบาล ซึ่งปลุกระดมความตึงเครียดโดยพุ่งเป้าไปที่ผู้เห็นต่างทางการเมือง

...

ด้านสถานีโทรทัศน์ พิงค์ ทีวี ให้คำมั่นว่าจะหยุดออกอากาศรายการเรียลลิตี้ที่มีชายคนหนึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีฆาตกรรมตั้งแต่สัปดาห์หน้า

การชุมนุมซึ่งในครั้งแรกเป็นการชุมนุมอย่างสงบ ได้กลายเป็นการประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเต็มตัว หลังจากที่ข้อเรียกร้องของพวกเขาถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากประธานาธิบดีและพันธมิตรของเขา ซึ่งล้อเลียนการชุมนุมและกล่าวว่าร้ายผู้เข้าร่วมชุมนุม

หลายปีที่ผ่านมา บรรดานักวิจารณ์รัฐบาล กล่าวหาว่าประธานาธิบดีวูซิช ว่าพึ่งพามาตรการเผด็จการมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ฝ่ายค้านเกิดความระส่ำระสาย ขณะที่สื่อและสถาบันของรัฐอยู่ใต้อำนาจของเขา

นายวูซิชมองว่าการประท้วงเกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง และเป็นการเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับอำนาจต่างชาติที่ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการชุมนุม.