ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นทำให้ผู้คนหลายล้านคนในชุมชนชายฝั่งทะเลในที่ลุ่มต่ำทั่วโลกตกอยู่ในความเสี่ยงจากน้ำท่วม โดยเฉพาะผลจากการละลายของน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติก จะเพิ่มขึ้นมากหรือเร็วเพียงใดใน 10 ปี หรือ 100 ปีข้างหน้า สถานการณ์ธารน้ำแข็งในแอนตาร์กติก เช่น ทเวตส์ จึงมีอิทธิพลต่อระดับน้ำทะเล

ทุกวันนี้เรารู้กันว่าธารน้ำแข็งหลายแห่งทั่วพื้นทวีปแอนตาร์กติกตะวันตกกำลังถอยร่นและละลายในอัตราที่น่าตกใจ แต่เมื่อไม่นานมานี้มีการค้นพบอย่างไม่คาดคิดจากทีมนักวิทยาศาสตร์ขององค์กรความร่วมมือธารน้ำแข็งทเวตส์นานาชาติ (ITGC) ร่วมกับนักวิจัยจากองค์กรสำรวจสภาพภูมิอากาศภูมิภาคแอนตาร์กติกของอังกฤษ (BAS) ซึ่งพบว่าแผ่นน้ำแข็งใกล้ธารน้ำแข็งทเวตส์บางลงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันในช่วงไม่กี่พันปีที่ผ่านมา บ่งชี้ว่าธารน้ำแข็งในภูมิภาคดังกล่าวสามารถเติบโตใหม่ได้หลังจากการหดตัวก่อนหน้านี้

ทีมอธิบายว่า ได้ใช้สว่านที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเจาะผ่านทั้งน้ำแข็งและหินที่อยู่ด้านล่างแผ่นน้ำแข็งถัดจากธารน้ำแข็งทเวตส์ และนำตัวอย่างหินจากส่วนลึกขึ้นมาวัดอะตอมเฉพาะ ที่เกิดขึ้นเมื่อหินถูกสัมผัสที่พื้นผิวโลกซึ่งจะได้รับรังสีจากภายนอก เพราะหากน้ำแข็งปกคลุมหิน อะตอมเฉพาะเหล่านี้จะไม่ถูกสร้างอีกต่อไป การปรากฏตัวของอะตอมจะเปิดเผยช่วงเวลาในอดีตที่แผ่นน้ำแข็งมีขนาดเล็กกว่าปัจจุบัน ซึ่งทีมพบว่าหินที่เก็บมานั้นไม่ได้ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งเสมอไป แต่ก็ยังพอวัดได้อยู่ และผลที่วัดได้พบว่าในช่วง 5,000 ปีที่ผ่านมา น้ำแข็งใกล้ธารน้ำแข็งทเวตส์บางลงอย่างน้อย 35 เมตรกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และแบบจำลองยังแสดงให้เห็นถึงการเติบโตตั้งแต่นั้นมา จนทำให้แผ่นน้ำแข็งมีขนาดเท่าทุกวันนี้ ต้องใช้เวลาฟื้นฟูอย่างน้อย 3,000 ปี.

...

Credit : Keir Nichols (Imperial College London)