ปี 2549 ชาวฟิลิปปินส์ได้รับรู้เรื่องเกี่ยวกับพืชเทคโนชีวภาพ ผ่านการทำความเข้าใจ และสื่อสารเกี่ยวกับการรับรู้ของสาธารณชน เกือบ 20 ปีต่อมา นักวิจัยพบว่า ความรู้ในเรื่องนี้ มีความก้าวหน้าอย่างมาก เพียงพอที่จะแนะนำผู้มีส่วนได้เสียอย่างต่อเนื่อง ให้เกิดการยอมรับเทคโนโลยีชีวภาพ

การศึกษาโดย Dr.Cleofe S. Torres จาก College of Development Communication, University of the Philippines Los Baños (CDCUPLB) ครอบคลุมพื้นที่มหานครมะนิลา และ 9 จังหวัดทั่วฟิลิปปินส์ สำรวจผู้ค้า ผู้บริโภค พนักงานส่งเสริมการเกษตร ผู้นำชุมชน เกษตรกร สื่อมวลชน ผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำศาสนา นักวิทยาศาสตร์ และนักศึกษามากกว่า 1,000 คน ในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ของโควิด-19 พบว่า ความเข้าใจของสาธารณชนเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพในประเทศ ยังคงก้าวหน้าต่อไป

ผลการศึกษาเบื้องต้น ชาวตากาล็อกเชื่อว่า นักวิทยาศาสตร์เป็นแหล่งข้อมูลด้านเทคโนโลยีชีวภาพที่น่าเชื่อถือที่สุด ขณะที่นักข่าวและสื่อเป็นกลุ่มที่มองโลกในแง่ดีมากที่สุด เมื่อได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพ

นอกจากนี้ คนฟิลิปปินส์ยังไว้วางใจหน่วยงานรัฐบาล ที่ใช้ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ในการตัดสินใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ที่มาจากการดัดแปลงพันธุกรรม ทำให้มีแนวโน้มที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีชีวภาพมากขึ้น

ขณะที่สาธารณชนเข้าใจว่า ยุคนี้มนุษย์สามารถปรับเปลี่ยนธรรมชาติโดยใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน และอาหารที่มาจากการดัดแปลงพันธุกรรม มีความปลอดภัย สามารถซื้อขายได้ นอกจากนี้ ยังทราบถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีชีวภาพสำหรับสัตว์ และทราบว่าเทคโนโลยีดังกล่าวถูกนำมาใช้ในการพัฒนายารักษาโรค

ความพยายามของนักวิทยาศาสตร์และรัฐบาลบ้านเขาทำมาเกือบ 20 ปี ทำให้เกษตรกร ชาวบ้าน เข้าใจและเชื่อมั่นในรัฐบาลและวิทยาศาสตร์ เลยทำให้ขณะนี้ฟิลิปปินส์กลายเป็นเบอร์ต้นๆของโลก ในเรื่องเทคโนโลยีชีวภาพ

...

ขณะที่บ้านเรายังเชื่อผีสางนางไม้ คอยมโนหยิบยื่นสิ่งที่คิดเอาเอง ไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ บ้างก็เป็นข้อมูลเท็จ เราเลยตามหลังเขาหลายขุมแบบชนิดไม่เห็นฝุ่น...อนิจจาครัวโลก.

สะ-เล-เต