ในปี 2547 ศาสตราจารย์อลาสแตร์ เอดจ์ นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเดอรัม ในอังกฤษ สังเกตเห็นส่วนโค้งขนาดยักษ์ของปรากฏการณ์เลนส์โน้มถ่วง (Gravitational Lensing) ขณะตรวจสอบภาพการสำรวจดาราจักร หรือกาแล็กซี จนกระทั่งผ่านมา 19 ปี มีการนำเรื่องนี้กลับมาปัดฝุ่นใหม่โดยสำรวจเพิ่มเติม ด้วยความช่วยเหลือจากภาพความละเอียดสูงที่ได้จากกล้อง โทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลขององค์การนาซา สหรัฐฯ และองค์การอวกาศยุโรป รวมถึงศูนย์ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ DiRAC COSMA8 ที่มหาวิทยาลัยเดอรัม
ล่าสุด ทีมนักดาราศาสตร์ นำโดยนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเดอรัม เผยว่า ค้นพบหลุมดำแห่งหนึ่งระหว่างสังเกตการณ์กาแล็กซีที่อยู่ห่างโลกหลายร้อยล้านปีแสง โดยอาศัยปรากฏการณ์เลนส์ความโน้มถ่วง โดยอธิบายว่ากาแล็กซีที่อยู่เบื้องหน้าจะหักเหแสงจากวัตถุที่อยู่ไกลกว่าและขยายแสงนั้น เมื่อจำลองด้วยซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ DiRAC COSMA8 ก็ทำให้ตรวจได้อย่างใกล้ชิดว่าแสงโค้งงออย่างไร ซึ่งในที่สุด นักดาราศาสตร์ก็ระบุได้ว่า หลุมดำดังกล่าวเป็นหลุมดำมวลยวดยิ่ง มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ ถึง 30,000 ล้านเท่า อาศัยอยู่ในกระจุกกาแล็กซี Abell 1201 และอาจเป็นหลุมดำที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมาจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ หลุมดำส่วนใหญ่มักอยู่ในสถานะที่เคลื่อนไหว ซึ่งสสารที่ถูกดึงเข้ามาใกล้กับหลุมดำจะร้อนขึ้นและปล่อยพลังงานออกมาในรูปของแสง เช่น รังสีเอกซ์ และรังสีอื่นๆ แต่หลุมดำใน Abell 1201 ดูจะเฉื่อยชาไม่ว่องไวนัก นั่นหมายความว่ามันไม่น่าจะกลืนกินสสารมากเกินไป จึงไม่สร้างรังสีเอกซ์ที่รุนแรง อีกทั้งการค้นพบนี้พิสูจน์ว่าปรากฏการณ์เลนส์ความโน้มถ่วงก็ทำให้พบและศึกษาหลุมดำที่แทบจะไม่เคลื่อนไหวได้.