ยูเครนออกแถลงการณ์ประณามรัสเซีย หลังปูตินประกาศแผนส่งอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีไปประจำการในเบลารุส และขอให้คณะมนตรีความมั่นคง UN จัดประชุมฉุกเฉิน

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มี.ค. 2566 ทางการยูเครนออกมาประณามอย่างรุนแรงหลังจาก ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประกาศแผนจะขนอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี (tactical nuclear weapon) ไปประจำการในประเทศเบลารุส โดยเคียฟเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเปิดประชุมฉุกเฉินเพื่อหาทางรับมือเรื่องนี้

ปูตินประกาศแผนดังกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยอ้างว่า พวกเขาไม่ได้ละเมิดสนธิสัญญา ‘สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์’ (NPT) และรัสเซียไม่ได้ส่งต่ออำนาจการควบคุมอาวุธเหล่านั้นให้แก่เบลารุส

อย่างไรก็ตามในวันอาทิตย์ กระทรวงต่างประเทศของยูเครนออกแถลงการณ์ประณามแผนของปูตินอย่างรุนแรง ระบุว่านี่เป็นขั้นตอนการยั่วยุอีกครั้งของรัสเซีย ที่จะบ่อนทำลายระบบความมั่นคงระหว่างประเทศทั้งหมด

“เป็นอีกครั้งที่รัสเซียยืนยันความไร้ความสามารถเรื้อรังของตัวเอง ต่อความรับผิดชอบในการใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อการป้องปรามและป้องกันสงคราม ไม่ใช่เครื่องมือในการข่มขู่กรรโชก” แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศยูเครนระบุ

เคียฟยังเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคง UN จัดประชุมวาระฉุกเฉิน และขอให้กลุ่ม G7 และสหภาพยุโรปเตือนเบลารุสถึงผลที่ตามมาซึ่งจะแผ่ขยายไปทั่ว หากพวกเขาตัดสินใจรับอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียมาประจำการ

ทั้งนี้ ปูตินอ้างในถ้อยแถลงของเขาเมื่อวันเสาร์ว่า ประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก แห่งเบลารุส เป็นผู้ขอให้รัสเซียประจำการอาวุธนิวเคลียร์ในดินแดนของพวกเขาเอง แต่รัฐบาลเบลารุสยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใดๆ ต่อประกาศของผู้นำรัสเซีย

...

ปัจจุบัน กองทัพของเบลารุสไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ในยูเครนอย่างเป็นทางการ แต่รัฐบาลของพวกเขาอนุญาตให้มอสโกใช้ดินแดนของเบลารุสเป็นฐานสำหรับส่งทหารเข้าสู่ยูเครนเมื่อปีก่อน เนื่องจากทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ทางทหารอย่างใกล้ชิด

แถลงการณ์ของยูเครนยังเรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติทั้งหมดร่วมประณามรัฐบาลปูติน ต่อการยั่วยุทางนิวเคลียร์ที่ไม่อาจยอมรับได้อย่างแท้จริงของรัสเซีย และขอให้มีการตัดสินใจใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อขัดขวางและป้องกันความเป็นไปได้ใดๆ ที่ชาติผู้รุกรานจะใช้อาวุธนิวเคลียร์

อนึ่ง อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี คือหัวรบนิวเคลียร์ขนาดเล็กที่สามารถถูกลำเลียงไปใช้ในสนามรบและโจมตีเป้าหมายในพื้นที่จำกัด โดยไม่ทำให้เกิดการกระจายของกัมมันตภาพรังสีในวงกว้าง โดยขนาดเล็กที่สุดมีขนาดไม่เกิน 1 กิโลตัน และใหญ่ที่สุดไม่เกิน 100 กิโลตัน ต่างจากอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Nuclear Weapon) ที่มีการทำลายล้างมากกว่า 1,000 กิโลตัน.

ที่มา : cna