ตำรวจรัฐยูทาห์ของสหรัฐฯ จับกุมชายวัย 65 ปี หลังก่อเหตุปล้นธนาคารท้องถิ่น โดยเขาต้องการเงินเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐจากพนักงานธนาคาร เพื่อหวังจะถูกจับกุมเข้าเรือนจำ
สำนักงานตำรวจเมืองซอลต์เลค ซิตี้ ในรัฐยูทาห์ของสหรัฐฯ ระบุว่าชายผู้ก่อเหตุปล้นแปลกประหลาดครั้งนี้ คือ นายโดนัลด์ ซานตาโครเซ โดยเขาเข้าไปยังธนาคารแห่งหนึ่ง ใกล้กับถนนเซาท์เมนสตรีท 300 ของเมืองซอลต์เลคซิตี้ ในรัฐยูทาห์ทางตะวันตกของสหรัฐฯ ก่อนจะส่งกระดาษโน๊ตให้แก่พนักงานธนาคารว่า "ผมขอโทษ ที่ผมต้องทำแบบนี้ แต่นี่คือการปล้น ช่วยส่งเงินให้ผม 1 ดอลลาร์ ด้วยขอบคุณครับ"
โดยทางพนักงานได้ให้เงินจำนวนดังกล่าวแก่เขา และขอให้นายซาตาโครเซออกไป แต่เขากลับปฏิเสธที่จะออกจากธนาคาร และขอให้พนักงานแจ้งตำรวจมาจับเขาแทน จากนั้นคุณลุงซาตาโครเซก็นั่งรอจนกระทั่งตำรวจมาถึง พร้อมยื่นธนบัตร 1 ดอลลาร์ให้ตำรวจโดยระบุว่าเขาตั้งใจเข้ามาปล้นธนาคารแห่งนี้ พร้อมยอมรับว่าที่เขาก่อเหตุเป็นเพราะอยากจะถูกจับเข้าคุก และหากตำรวจไม่ยอมจับกุมเขา เขาจะก่อเหตุปล้นธนาคารอื่นๆ ด้วยเงินจำนวนมากขึ้นอีก เพื่อให้ตำรวจจับกุมเขาในที่สุด
ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศไม่ได้รายงานว่า เหตุใดนายซานตาโครเซ ถึงอยากจะเข้าเรือนจำขนาดนี้ โดยเขาถูกส่งตัวไปยังเรือนจำซอลท์ เลค เคาท์ตี้ เมโทร ในข้อหาปล้นทรัพย์ แต่มีรายงานว่าเขาได้รับการปล่อยตัวในอีก ไม่กี่วันต่อมา โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายซานตาโครเซ เพิ่งถูกจับกุมโดยตำรวจทางหลวงของรัฐยูทาห์ เนื่องจากขับรถโดยประมาท และต้องสงสัยว่าอาจจะมีการเสพยา โดยจากการตรวจสอบยังพบว่าใบขับขี่ของเขาถูกระงับการใช้งานอยู่ด้วย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐฯ พบเหตุปล้นธนาคารเพื่อเงินหนึ่งดอลลาร์สหรัฐ โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2011 เจมส์ วีรอน ชายวัย 59 ปี ที่ตกงานและไม่มีประกันชีวิต ก่อเหตุปล้นธนาคารแบบนี้ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา เพื่อต้องการการดูแลสุขภาพในเรือนจำ
...
ต่อมาปี 2013 ชายไร้บ้านวัย 50 ปี ก่อเหตุปล้นธนาคารเพื่อเงินหนึ่งดอลลาร์ในรัฐโอเรกอน และเฝ้ารอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัว เพื่อเขาจะได้รับการดูแลทางการแพทย์.
ที่มา : เอบีซีนิวส์