ทางการฟิลิปปินส์สั่งห้ามชาวประมงออกหาปลาในระยะนี้ หลังจากเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลจากเรือบรรทุกน้ำมันอับปางและมีทีท่าว่าจะขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ


ชาวประมงหลายนับหมื่นคนในฟิลิปปินส์ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า จากคำสั่งห้ามออกเรือทำประมงในทะเลในระยะนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่กำลังเร่งจัดการกับปัญหาน้ำมันที่รั่วไหลออกมาจากเรือปริ๊นเซส เอ็มเพรส เรือบรรทุกน้ำมันที่เกิดปัญหาขัดข้องทางเครื่องยนต์จนอับปางลงบริเวณนอกชายฝั่งเกาะมินโดโร ทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา โดยน้ำมันรั่วไหลเป็นทางยาวกว่า 120 กิโลเมตร ห่างจากฝั่งไปราว 9 กิโลเมตร โดยจนถึงขณะนี้ หน่วยยามฝั่งของฟิลิปปินส์ ยังคงเร่งค้นหาพิกัดของเรือที่อับปาง

เรือปริ๊นเซส เอ็มเพรสที่ประสบเหตุอับปางลำนี้บรรทุกน้ำมันเตาจำนวน 800,000 ลิตร มาจากจังหวัดบาตาอัน ใกล้กรุงมะนิลา เพื่อจะไปส่งที่จังหวัดอีโลอีโล แต่กลับประสบปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้อง และจมลงในช่วงที่มีคลื่นลมแปรปรวน เคราะห์ดีที่มีเรืออีกลำเข้าช่วยเหลือลูกเรือ 20 คนมาได้อย่างปลอดภัย

...

สำหรับน้ำมันที่รั่วไหลครั้งนี้เป็นน้ำมันดีเซลที่ใช้กับเครื่องยนต์ของเรือเป็นหลัก รวมทั้งมีน้ำมันเตาที่บรรทุกมารั่วไหลอีกบางส่วน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่ามีน้ำมันรั่วไหลปริมาณมากน้อยเพียงใด ท่ามกลางความกังวลว่าเหตุน้ำมันรั่วไหลจะสร้างความเสียหายให้แก่สิ่งแวดล้อม และสัตว์ทะเลจำนวนมาก โดยอุปสรรคสำคัญในการใช้บูมดูดซับน้ำมันที่ปนเปื้อนในทะเล ก็คือคลื่นลมรุนแรง ทำให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างล่าช้า

ด้านนายฮูเมอร์ลิโต ดูลอร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดโอเรียนตัล มินโดโร ระบุว่าสถานการณ์เลวร้ายลงทุกขณะ โดยได้สั่งการให้ชาวประมงที่ขึ้นทะเบียนกับทางการจำนวน 18,000 คน งดออกเรือจนกว่ามีความปลอดภัยที่จะทำประมง โดยในระหว่างนี้ชาวประมงจะได้รับอาหารที่ทางการจัดสรรให้ไปก่อน และคาดว่าผลกระทบจากน้ำมันรั่วไหลในครั้งนี้อาจจะมีผลในระยะยาว ขณะที่นางเจนนิเฟอร์ ครูซ นายกเทศมนตรีโปลาระบุว่า เริ่มพบซากปลาที่ถูกปกคลุมไปด้วยคราบน้ำมันถูกซัดมาเกยชายหาด ขณะที่แนวชายฝั่งก็เต็มไปด้วยคราบน้ำมัน และเริ่มส่งกลิ่นเหม็นแล้ว โดยขณะนี้ทั้งหน่วยยามฝั่ง รวมทั้งอาสาสมัครต่างช่วยกันทำความสะอาดคราบน้ำมันตามชายหาดให้ได้มากที่สุด.