วัตถุลึกลับเหนือน่านฟ้าอเมริกาเหนือ กับคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ

• จีนยืนยันว่าบอลลูนที่ลอยอยู่เหนือน่านฟ้าทวีปอเมริกาเหนืออยู่หลายวัน ก่อนที่ถูกสหรัฐฯ ยิงตก เป็นยานตรวจสภาพอากาศที่ไม่ได้ใช้งานทางทหาร แต่สหรัฐฯ แย้งว่า เป็นยานสอดแนมลอยในระดับสูงที่มีความซับซ้อนและเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสอดแนมทั่วโลกของจีน
• วัตถุปริศนา 3 ลำที่ถูกยิงตกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีขนาดและรูปร่างแตกต่างจากบอลลูนขนาดใหญ่มาก โดยวัตถุหมายเลขหนึ่งมีลักษณะคล้ายรถยนต์ ส่วนวัตถุหมายเลขสอง เป็นวัตถุทรงกระบอก และวัตถุหมายเลขสาม เป็นวัตถุทรงแปดเหลี่ยม
• ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงในสหรัฐฯ ชี้ว่า การพบวัตถุบินไม่สามารถระบุได้เหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ ที่ถูกสหรัฐฯ ยิงตกหลายชิ้นในช่วงเวลาไม่ถึงเดือน อาจเป็นปัญหาใหญ่กว่าที่คิด เนื่องจากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีรายงานการพบวัตถุลึกลับหลายร้อยครั้ง

กองกำลังสหรัฐฯ ได้ยิงวัตถุทางอากาศ 4 ชิ้นเหนือท้องฟ้าอเมริกาเหนือในเดือนนี้ ทำให้เกิดคำถามมากมายที่ยังหาคำตอบไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหนือพื้นโลก

ในช่วงปลายสุดสัปดาห์ที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์เหนือจริง ข่าวของวัตถุปริศนาลำสุดท้ายที่ถูกยิงตกก็ปรากฏขึ้นในคืนวันอาทิตย์

มันเป็นวัตถุบินที่ไม่ปรากฏชื่อชิ้นที่ 3 ที่ปรากฏขึ้นกลางท้องฟ้าภายในเวลา 3 วัน และหนึ่งสัปดาห์หลังจากบอลลูนที่ติดตั้งเสาอากาศเคลื่อนที่ผ่านสหรัฐฯ ก่อนที่มันจะถูกระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในเวลาต่อมา

หน่วยสืบราชการลับของมหาอำนาจที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างสหรัฐฯ กำลังพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด และต่อไปนี้เป็นคำถามสำคัญที่พวกเขาจะต้องหาคำตอบให้ได้

วัตถุชนิดล่าสุดเหล่านี้คืออะไร?

วัตถุปริศนา 3 ลำที่ถูกยิงตกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีขนาดและรูปร่างแตกต่างจากบอลลูนขนาดใหญ่มาก

วัตถุหมายเลขหนึ่ง - วัตถุรูปรถ

วัตถุชิ้นนี้มีขนาดเท่า "รถยนต์ขนาดเล็ก" และบินอยู่ในอากาศ 40,000 ฟุต หรือ 12,000 เมตร ขณะที่มันเคลื่อนที่ไปในทิศทางของขั้วโลกเหนือโดยไม่มีระบบขับเคลื่อนหรือการควบคุมใดๆ

เครื่องบินลำดังกล่าวถูกยิงตกเหนือรัฐอลาสกาของสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า "เจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังอย่างมาก" เนื่องจากเป็นภัยคุกคามต่อเครื่องบินพลเรือน

วัตถุหมายเลขสอง - วัตถุทรงกระบอก

สิ่งนี้ถูกอธิบายว่ามี "รูปทรงกระบอก" และถูกพบครั้งแรกในรัฐยูคอนของแคนาดาในเย็นวันศุกร์ ถูกยิงเมื่อวันเสาร์

วัตถุหมายเลขสาม - วัตถุแปดเหลี่ยม

พบสิ่งนี้ครั้งแรกในช่วงบ่ายวันเสาร์ ทางตอนเหนือของชายแดนสหรัฐฯ ในแคนาดา แต่เครื่องบินรบที่บินออกจากรัฐโอเรกอนไม่สามารถตรวจจับเนื่องจากดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า

วันต่อมามันถูกตรวจจับได้อีกครั้งในรัฐมอนทานา และถูกติดตามทั่วรัฐวิสคอนซิน ก่อนที่จะถูกยิงเหนือทะเลสาบฮูรอนในรัฐมิชิแกน

เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ให้ความเห็นต่อสาธารณชนเกี่ยวกับรูปร่างของมัน แต่มีผู้พูดโดยไม่เปิดเผยนามกล่าวว่า มันมี "โครงสร้างแปดเหลี่ยม" โดยไม่มีเซนเซอร์ที่สามารถมองเห็นได้

บอลลูนลูกแรกมีไว้เพื่ออะไรกันแน่?

มันถูกพบครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 มกราคมในรัฐอลาสกา จากนั้นมีการพบในรัฐมอนทานา และต่อมาก็ถูกเครื่องบินขับไล่เอฟ-22 แร็ปเตอร์ ยิงตกนอกชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ระบุว่า เป็นบอลลูนสอดแนมของจีนที่บินสูงประมาณ 30,000 เมตร

ชิ้นส่วนของบอลลูนตกลงมาเหนือน้ำ 12.6 กม. นอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา และตกลงไปใต้ทะเลลึก 14 เมตร ทีมเก็บกู้กำลังเก็บเศษซากบางส่วนและใช้เรือและเรือดำน้ำขนาดเล็กเพื่อค้นหาอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มเติม 

ขณะที่หน่วยบัญชาการทหารสหรัฐฯ ภาคเหนือเปิดเผยวันนี้ (14 ก.พ.) ว่า เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ซากชิ้นส่วนสำคัญจากจุดที่ค้นหา ที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนเซนเซอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าสำคัญ และชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของบอลลูน

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับบอลลูนว่ามีความสูง 60 เมตร และมีเสาอากาศ แผงโซลาร์เซลล์ และอุปกรณ์เฝ้าระวังหลายจุด แต่ไม่ได้บอกว่าข้อมูลประเภทใดที่พวกเขากำลังรวบรวมอยู่

การขาดข้อมูลที่จำเป็นทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งสองฝ่าย ด้านนายจิม ฮิมส์ สมาชิกสภาคองเกรสแห่งคณะกรรมาธิการข่าวกรองสภากล่าวว่า "ผมกังวลจริงๆ ว่าทำไมฝ่ายบริหารถึงไม่เตรียมพร้อมกับทุกสิ่งที่รู้" 

มีวัตถุบินได้กี่ชิ้น?

สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพียง 4 ประเด็นที่เป็นข่าวในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกองทัพอากาศโคลอมเบียพบบอลลูนและเชื่อว่ามันบินข้ามหลายประเทศในลาตินอเมริกา

คำถามคือมีวัตถุที่ลอยได้มากกว่านี้หรือไม่ หรือวิธีการตรวจจับที่ได้รับการพัฒนาเป็นเหตุผลที่ทำให้สามารถตรวจจับได้หรือไม่

หลังจากพบบอลลูนลูกแรก เรดาร์ที่ดำเนินการโดยศูนย์บัญชาการป้องกันอวกาศแห่งอเมริกาเหนือ (NORAD) ได้รับการปรับปรุงให้ตรวจจับวัตถุขนาดเล็กกว่าได้ ดังที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่า "ตอนนี้เรากำลังทำการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น"

ทั้งนี้ มีการพบเห็นวัตถุลึกลับบนท้องฟ้าเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา รายงานของกองทัพสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม เปิดเผยการพบวัตถุบินได้หลายร้อยกรณีในน่านฟ้าของอเมริกา

ด้านนายปีเตอร์ เบอร์เกน นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงแห่งชาติของซีเอ็นเอ็น และศาสตราจารย์ปฏิบัติที่มหาวิทยาลัยรัฐแอริโซนา เขียนบทความแสดงความเห็นในเว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น ว่า รายงานของสำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติที่เผยแพร่เมื่อเดือนมกราคม 2566 เรื่อง "ปรากฏการณ์ทางอากาศที่ไม่สามารถระบุได้" อาจช่วยให้ความกระจ่างมากขึ้น

รายงานฉบับนี้ระบุว่า มีรายงานพบยูเอฟโอ 247 ครั้ง ในช่วงเดือนมีนาคม 2564-สิงหาคม 2565 ส่วนใหญ่เป็นการรายงานโดยบุคลากรของกองทัพเรือและกองทัพอากาศ เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าของปี 2547-2564 ที่มีรายงานพบทั้งหมด 144 ครั้ง สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะสังคมเริ่มยอมรับการรายงานพบยูเอฟโอมากขึ้น และกระทรวงกลาโหมได้ขอให้บุคลากรรายงานทันทีหากพบความผิดปกติเหนือน่านฟ้า โดยได้ตั้งสำนักงานแก้ปัญหาความไม่ปกติทั่วอาณาจักรขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2565 เพื่อตรวจสอบรายงานพบยูเอฟโอที่น่าเชื่อถือของกองทัพและหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ

รายงานระบุว่า ช่วงหลายทศวรรษมานี้มีรายงานพบยูเอฟโอที่น่าเชื่อถือมากกว่า 500 ครั้ง ในจำนวนนี้ 163 ครั้งเป็นบอลลูนหรือมีลักษณะคล้ายบอลลูน 26 ครั้งเป็นอากาศยานไร้คนขับ และ 171 ครั้งเป็นวัตถุไม่สามารถระบุได้ บางชิ้นมีลักษณะการบินที่ไม่เคยพบมาก่อน ทำให้ผู้เขียนบทความเสนอแนะว่า รัฐสภาควรเปิดการไต่สวนเพื่อหาความกระจ่างในเรื่องนี้ เนื่องจากประชาชนมีสิทธิที่จะทราบว่า เหตุใดวัตถุเหล่านี้จึงเข้ามาในน่านฟ้าของสหรัฐฯ โดยที่กระทรวงกลาโหมและหน่วยข่าวกรองไม่สามารถระบุประเภทได้

ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับจีนหรือไม่?

ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศเลวร้ายลง เนื่องจากสหรัฐฯ กล่าวหาจีนว่าใช้บอลลูนเพื่อสอดแนม ทำให้นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ถึงกับยกเลิกการเดินทางไปกรุงปักกิ่ง

สหรัฐฯ เชื่อมโยงบอลลูนที่ยิงตกในมหาสมุทรแอตแลนติกกับโครงการเฝ้าระวังระดับโลกที่ระบุว่าจีนอยู่เบื้องหลัง ส่งผลทำให้ประเทศอื่นๆ แสดงความตื่นตัว โดยรัฐบาลสหราชอาณาจักรกล่าวว่าจะทำ "ทุกวิถีทาง" เพื่อให้ประเทศปลอดภัยจากการคุกคามของบอลลูนสอดแนม

จีนยอมรับความรับผิดชอบต่อบอลลูนลูกแรกและลูกที่พบเห็นในลาตินอเมริกา แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้เพื่อสอดแนม โดยระบุว่าเป็นอุปกรณ์ตรวจสอบสภาพอากาศที่ลอยออกนอกเส้นทาง

รัฐบาลจีนกล่าวว่า การทำลายบอลลูนในสหรัฐฯ "ละเมิดหลักปฏิบัติสากลอย่างร้ายแรง" พร้อมเสริมว่าจีนขอสงวนสิทธิ์การใช้วิธีการที่จำเป็นเพื่อจัดการกับสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน

ในขณะนี้จีนได้กล่าวหาว่าสหรัฐฯ ล่วงล้ำเข้าไปในน่านฟ้าของจีนถึง 10 ครั้ง 

ในการแถลงข่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาไม่สามารถอธิบายได้ว่าวัตถุ 3 ชิ้นล่าสุดคืออะไร ลอยอยู่ได้อย่างไร หรือมาจากไหน

เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ บอกกับเอบีซี นิวส์ ว่า วัตถุทั้งสามลำนี้น่าจะเป็นอุปกรณ์ตรวจสภาพอากาศ ไม่ใช่บอลลูนสอดแนม.