• แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในตุรกี ได้สร้างความเสียหายมหาศาลเกินกว่าที่จะจินตนาการได้ เมื่อแรงสั่นสะเทือนได้พังอาคารบ้านเรือนกว่า 6,000 หลัง แบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตยังพุ่งไม่หยุด
  • นอกจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้จะนับว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปีของตุรกีแล้ว จำนวนผู้เสียชีวิตที่ยังพุ่งไม่หยุดในทั้งสองประเทศ ยังทำให้เหตุภัยพิบัติจากธรรมชาติครั้งนี้ เป็นเหตุแผ่นดินไหวที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดครั้งหนึ่งของโลกในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาด้วย
  • มีประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ต้องสังเวยชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ๆ ของโลกในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา รวมแล้วหลายแสนคน 

นับจนถึงวันพุธ (8 ก.พ.) มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.8 และครั้งที่สอง 7.5 ในตุรกี-ซีเรีย รวมแล้วเกือบ 8,000 ศพ โดยหน่วยกู้ภัยยังคงเร่งเดินหน้าค้นหาผู้รอดชีวิต แข่งกับเวลาชีวิตของผู้ที่ติดอยู่ใต้ซาก ที่กำลังนับถอยหลังลงอย่างรวดเร็ว โดยผู้ประสบภัยต่างระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า ความช่วยเหลือจากนานาชาติยังไม่เร็วพอ โดยจนถึงขณะนี้ ยอดผู้เสียชีวิตในทั้งสองประเทศยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทะลุ 8,000 ศพแล้ว ท่ามกลางการคาดการณ์จากองค์กรนานาชาติว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุภัยพิบัติครั้งนี้อาจจะเกิน 20,000 ศพ ทำให้เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ กลายเป็นหนึ่งในเหตุแผ่นดินไหวที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดครั้งหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นทั่วโลกในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา วันนี้เราจะลองไปย้อนดูความสูญเสียจากเหตุแผ่นดินไหวที่ผ่านมา

...

ซีเรีย-ตุรกี เสียชีวิตอย่างน้อย 8,000 ศพ

มีรายงานผู้บาดเจ็บหลายหมื่นคนทั่วประเทศซีเรียและตุรกี จากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ขณะที่หน่วยกู้ภัยยังคงพบร่างไร้วิญญาณอีกหลายพันศพ ที่ถูกฝังอยู่ในซากอาคารที่พังถล่มลงมากว่า 6,000 หลัง โดยข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ ระบุว่า ตุรกีนับเป็นประเทศที่อ้าแขนรับผู้อพยพมากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนผู้อพยพลี้ภัยมากกว่า 3.5 ล้านคน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพชาวซีเรีย ที่ลี้ภัยสงครามมา

เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ ทำให้มีจังหวัดในตุรกีที่ได้รับผลกระทบมากถึง 10 จังหวัด ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้อพยพชาวซีเรียอาศัยอยู่อย่างน้อย 1.7 ล้านคน ขณะที่ในซีเรียมีผู้พลัดถิ่นภายในประเทศมากกว่า 6.8 ล้านคน และยังมีผู้อพยพชาวปาเลสไตน์อีก 60,000 คน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตุรกีต้องเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง โดยก่อนหน้านี้ราว 3 ปีก่อน ในเดือนมกราคมปี 2020 ตุรกีเผชิญกับแผ่นดินไหวขนาด 6.7 แมกนิจูด ที่สร้างความเสียหายอย่างหนักมาแล้ว ขณะที่ในปี 1999 เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.4 ใกล้เมืองอิซเมียร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 18,000 ศพ 

อัฟกานิสถาน - 1,100 ศพ

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน อัฟกานิสถานเผชิญเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.9 แมกนิจูด ในจังหวัดโคสต์ และจังหวัดปักตีกา ทางตอนตะวันออกของประเทศ โดยแรงสั่นสะเทือนทำให้อาคารบ้านเรือนพังราบ และนับเป็นเหตุแผ่นดินไหวที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดในรอบ 20 ปี ของประเทศ โดยหลังจากนั้นเพียง 2 วัน ก็เกิดอาฟเตอร์ช็อกความแรง 4.2 ในพื้นที่เดิม ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมาอีก 5 ศพ

เฮติ - 2,200 ศพ

เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเช้าวันเสาร์ตามเวลาในท้องถิ่น เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2021 ด้วยความแรง 7.2 แมกนิจูด โดยแรงสั่นสะเทือนสามารถรู้สึกได้ไกลถึงประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบ โดยเบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในหลักร้อย แต่ 1 สัปดาห์ถัดมาก็พบว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงมีมากกว่า 2,200 ศพ และยังมีรายงานผู้บาดเจ็บอีกหลายพันคน และบ้านเรือนเกือบ 53,000 หลังถูกทำลายพังยับ

อินโดนีเซีย - 4,300 ศพ

อินโดนีเซียเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2018 ด้วยแรงสั่นสะเทือน 7.5 แมกนิจูด นอกชายฝั่งของเกาะสุลาเวสี ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูงถึง 10 ฟุต และยังมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง หนึ่งในนั้นมีระดับความรุนแรงถึง 6.7 แมกนิจูด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4,340 ศพ ในจำนวนนี้เสียชีวิตจากสึนามิอย่างน้อย 1,200 ศพ

เนปาล - 8,800 ศพ

หนึ่งในเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดของโลก ที่เกิดขึ้นในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2015 ที่เนปาล ด้วยระดับความแรง 7.8 แมกนิจูด โดยนับเป็นเหตุแผ่นดินไหวที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 80 ปีของเนปาล สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ไกลถึงอินเดีย บังกลาเทศ ทิเบต และปากีสถาน โดยยังทำให้เกิดหิมะถล่มบนเทือกเขาเอเวอร์เรสต์ด้วย นอกจากนี้ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกกว่า 20 ครั้ง หนึ่งในนั้นมีความแรง 7.3 แมกนิจูด ซึ่งเกิดขึ้นหลังแผ่นดินไหวใหญ่ราว 3 สัปดาห์ ซึ่งธรณีพิบัติภัยครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตกว่า 8,800 ศพเลยทีเดียว

...


ที่มา : CBS , USAToday